xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“สมชัย”ขุดหลุมฝังตัวเอง คสช.ได้จังหวะไล่พ้นกกต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - โดนเครื่องประหารหัวพยัคฆ์ ! ตามคิวที่ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกคำสั่งคสช.พิพากษา “สมชัย ศรีสุทธิยากร”กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กระเด็นตกจากเก้าอี้

ในคำสั่ง “เด็ดหัว”ระบุ 2 เหตุผลใหญ่ วิพากษ์วิจารณ์เลื่อนลอย และผลประโยชน์ทับซ้อน จากกรณีลดตัวไปลงสมัครเลขาธิการ กกต. ทั้งที่นั่งคุมกติกาอยู่ แต่ดูแล้วไม่ใช่... การตัดสินใจลงมือปฏิบัติการสังหาร น่าจะมาจากข้อหาเดียวคือ“ปากมาก”

โดยเฉพาะตั้งแต่ถูกเซตซีโร “สมชัย”เป็น กกต.คนเดียวที่ออกอาการฟาดงวงฟาดงา แล้วปรับสถานะตัวเองเป็นเด็กขี้แย แพ้แล้วพาล วันๆ เอาแต่โพตส์แขวะ สัมภาษณ์จิก ยกตนเป็น“ขงเบ้ง”รู้ดินฟ้าอากาศ ทำนายทายทักการเมือง เกินขอบเขตกรรมการในสนามเลือกตั้ง บางวันขยับไปเป็น “คอมเมนเตเตอร์”วิพากษ์การเมืองเหมือนรู้ลึกไปทุกเรื่อง
                  
    ลองย้อนวันวานอันหอมหวานดู ตั้งแต่การชุมนุม กปปส. ต่อเนื่องมายุค คสช. ตอนก่อนกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ยังไม่ลงมือเซตซีโร “สมชัย”นี่สายเชลียร์ตัวเอ้เหมือนกัน แต่วันนี้ที่ต้องกลับจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เพราะไม่พอใจที่เขาเอายศถาบรรดาศักดิ์ ออกจากตัวเอง

ที่ผ่านแม้จะรู้กวนใจ แต่คสช.พยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ให้ราคาแค่เด็กถูกแย่งขนม อีกไม่นานก็ไปจากสารบบ เลยปล่อยให้อวดโอ้อุตริไป

แต่ระยะหลังๆ เริ่มชักเล่นใหญ่ จากบท“ขงเบ้ง”หยั่งฟ้ารู้ดิน พาสชั้นขึ้นเป็น“นักสืบ” ออกมาแฉนู่น แฉนี่ สร้างเรื่องปวดเศียรเวียนเกล้าให้ รัฐบาลและ คสช.ต้องคอยตามถูตามเช็ดประเด็นต่างๆอยู่เรื่อย ในฐานะที่มีหัวโขนกกต. เวลาชวนเชื่อมันมีน้ำหนักในสังคมอยู่

ปฐมบทที่ทำให้ คสช. เริ่มจะหมดความอดกลั้น ต้องย้อนกลับไปในประเด็น อดีต ว่าที่ 7 เสือ กกต. ที่ไม่ถึงฝั่งฝัน แรกๆ ทุกอย่างดูราบเรียบ แม้กรรมการสรรหา จะถูกคนนินทาหมาดูถูกอยู่บ้าง ว่า หาม“เด็กเส้น”เข้ามาทำหน้าที่ถึง 5 คน แต่นั่นยังพอทำเนา ดันทุรังกันต่อไปได้

ทว่า มามีปัญหาในสัดส่วนผู้แทนจากศาลฎีกา เดิมทีเคาะกันมาแล้ว 2 รายชื่อ เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร 7 เสือ กกต. จ่อจะเข้ามาทำหน้าที่อยู่รอมร่อ แต่เจ้าประคุณพ่อ “สมชัย”กระโดดขึ้นมาตีปี๊บ ตั้งแง่ ปมลงคะแนนลับของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา หาว่าไม่ได้ทำโดยเปิดเผย ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

แม้เป็นประเด็นยิบย่อยของพวกจ้องจะตอดเล็ก ตอดน้อย หาเรื่อง แต่ทำเอาสะเทือนกันไปหมด เพราะเป็นช่องให้ฝ่ายตรงข้ามเก็บเอารูโหว่ไปล่อในอนาคตได้เหมือนกัน ครั้นจะให้ไปเลือกกันใหม่ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ก็ยืนยันหนักแน่นว่าท่านทำถูกต้องแล้ว 
               
     คสช.ระบบรวน ไม่รู้จะออกอีท่าไหน ตัดสินใจให้รีเซต สรรหากันใหม่ เป็นส่วนหนึ่งที่มาของการล้มกระดาน ว่าที่ 7 เสือ กกต. ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นตำนานการล้มกระบวนการสรรหา ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรัฐสภาไทย

วีรกรรมโจษจัน คว่ำกระดานสรรหา กกต. “สมชัย”มีส่วนไม่น้อย ในฐานะผู้เปิดประเด็น เพราะถ้าวันนั้นไม่ออกมาตั้งข้อสังเกต วันนี้อาจไม่มีใครเห็นในช่องโหว่ดังกล่าว และตอนนี้อาจไม่ใช่ “สมชัย”คนเดียวที่เก็บของ แต่เป็นอีก 4 เสือ กกต.ชุดเก่า ที่ต้องอพยพกันออกไปเพื่อเปิดทางให้ กกต.ชุดใหม่เข้ามา

ทำแสบไปเรื่อง คสช.อยู่ในระดับ“เคืองสะสม” ออเจ้า“สมชัย”ยังมิหยุดหย่อน เอาล่อเอาเถิดทุกประเด็น ที่แม่น้ำ 5 สาย ดำเนินการ โดยเฉพาะกระบวนการนิติบัญญัติ คอยชำแหละกฎหมาย ประหนึ่งซือแป๋ แม้กระทั่ง ร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
แม้ที่ประชุมสนช.ให้ผ่าน “ออเจ้า”ยังไม่เหน็ดเหนื่อย ยังอุตส่าห์ออกมาเปลือยผ้า เป้าหมายผู้มีอำนาจอยากจะทำอะไรต่อ ออกมาขอให้สื่อคอยจับผิด สมาชิกสนช.ที่ร่วมโหวตเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ งดออกเสียง และไม่ร่วมประชุม ชื่อเสียงเรียงนาม เป็นใครบ้าง เพราะจะได้เห็นจุดมุ่งหมายปลายทางของ คสช. ในประเด็น ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

“สมชัย”วิเคราะห์ตามหลักการ และข้อกฎหมาย เห็นเป็นเนื้อเป็นหนังพอฟังได้กับเกมยื้ออำนาจ แต่มันหาได้เป็นที่พอใจคสช. ที่ขืนปล่อยเอาไว้แบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับหอกข้างแคร่ หรือเนื้อร้าย จำเป็นต้องรีบหั่นทิ้ง เรื่องนี้คือ“ฟางเส้นสุดท้าย”

จริงๆ เรื่องเอา“สมชัย”ออกจากเก้าอี้ มันมีความพยายามในการหาช่องมานาน แต่ลำพังเหตุผลวิพากษ์วิจารณ์พร่ำเพรื่อ แล้วเขี่ยออกจากเก้าอี้ มันบางเบาเกินไป สำหรับตำแหน่งบุคคลในองค์กรอิสระ จะว่าไปงานนี้คนที่หาช่องให้ คสช.ไม่ใช่ใคร แต่เป็น“สมชัย”เอง จากกรณีที่ตั้งใจแก้ทางด้วยการลดชั้นไปลงสมัคร เลขาธิการ กกต.
               
   เหมือนเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา “สมชัย”สร้างจุดอ่อนให้ตัวเอง เพราะมันกลายเป็นการจุดประเด็น“ผลประโยชน์ทับซ้อน”ทันที ในฐานะที่ดันไปลงเล่นในกติกาที่ตัวเองสร้างขึ้น แรกๆ อาจดูไม่มีอะไร เพราะไม่มีใครเชื่อว่า จะคัมแบ็กมาในตำแหน่งนี้ แต่ที่ไหนได้ คสช.หาได้สนใจประเด็นสกัด แต่สนใจใน “มลทิน”ที่นำมาต่อยอด ในการเตะให้ตกจากเก้าอี้ได้

คงไม่ใช่เพียง ปลาหมอตายเพราะปาก วันนี้ “สมชัย”ผู้เคยตั้งข้อสังเกตถึงวิธีการสรรหา กกต. จากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ต้องมาตกม้าตาย เพราะหลุมพรางที่ตัวเองขุดเอาไว้

นอกจากนี้ น่าสนใจในคำสั่ง คสช. ประเด็นต่ออายุ กกต.บางคนจาก 4 หน่อที่เหลือ ให้อยู่ทำหน้าที่ต่อไปได้ ว่าจากเดิมที่อาจไม่ได้ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ ไปๆ มาๆ พวกเขาอาจได้ทำผลงานชิ้นสุดท้าย ก่อนลาเก้าอี้

เพราะ กกต.ชุดใหม่ยังไม่ได้ แล้วยังต้องใช้เวลาพอสมควร ขณะที่ชุดเก่า พอมีประสบการณ์ ไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่เหมือนพวกป้ายแดงที่จะเข้ามาในอนาคต ที่สำคัญ 4 เสือ ที่เหลือชุดนี้ แท้จริงไม่ได้เป็นเป้าประสงค์ของคสช. ในการเขี่ยลงจากตำแหน่ง

ประเด็นเซตซีโร ที่เกิดขึ้นกับ กกต. ในขณะที่องค์กรอื่นๆกลับได้ไปต่อ แม้คุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ เป้าหลักคือต้องการเอา “สมชัย”ออกจาก 5 เสือ เพียงแต่ไม่มีช่องให้ทำได้ เลยตัดสินใจล้างบางหมดในคราวนั้น วันนี้เมื่อไม่มี“สมชัย”แล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบเอาชุดใหม่มา
                 
  อย่างไรก็ดี เรื่องนี้หลายคนอาจ“สะใจ”ที่เขี่ย“สมชัย”ออกไปได้ แต่ถ้ามองในมุมกฎหมาย วิธีการเอา “สมชัย”ออกมันก็ดูจะ“ลุแก่อำนาจ”เฉกเช่นเดียวกัน ในเมื่อวันนี้กลไกตรวจสอบเรื่องจริยธรรม และเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน มันยังใช้ได้อยู่
                
  การใช้มาตรา 44 จึงดูเหมือนเอาอารมณ์ มาใช้อำนาจ !!!





กำลังโหลดความคิดเห็น