เกิดเหตุดิน “บ่อเหมืองแม่เมาะ”สไลด์ทับถนนทรุด เสาไฟโค่น สายพานลำเลียงดินเสียหาย บ้านพักพนักงานพัง ต้องปิดเส้นทางอ่างแม่ขามเชื่อม อ.งาว ชั่วคราวแล้ว ด้าน กฟผ. แจงยังไม่รู้สาเหตุ ดินสไลด์ ทรุดตัว ทางยาวเกือบ 1 กม. ใกล้เหมืองแม่เมาะ ยันไม่กระทบจ่ายกระแสไฟฟ้าในภาคเหนือ
รายงานข่าวแจ้งว่า ได้เกิดเหตุดินทิ้งจากเหมืองแม่เมาะ เขตบ้านหัวฝาย ม. 1 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง สไลด์ลงมาทับถนน เสาไฟฟ้า บ้านพักคนงานภายในพื้นที่เหมืองของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง (กฟผ.แม่เมาะ) เมื่อคืนวันที่ 17มี.ค. ที่ผ่านมา
เบื้องต้น มีรายงานว่า มีพื้นที่ที่เกิดดินทรุดตัวกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างประมาณ 1 กม. ทำให้ถนนคอสะพานขาด เป็นแนวแตกลึกลงไปเป็นทางยาวกว่า 100 ม. นอกจากนี้ ดินที่เกิดสไลด์ และทำให้เกิดแตกแยกออกจากกันส่งผลให้เสาไฟฟ้าคอนกรีตในพื้นที่เกิดล้มลงกว่า 50 ต้น รวมถึงยังกระทบต่อสายพานลำเลียงดินของบริษัทสหกลฯ เสียหายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าตั้งกรวยเตือน ตั้งแต่ปากทางเข้าอ่างแม่ขาม ซึ่งจะเชื่อมผ่านจุดเกิดเหตุ ทะลุไปยัง อ.งาว ห้ามไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในจุดเกิดเหตุ-ไม่ให้เข้าพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ พบว่าถนนทางเข้าไปยังจุดต่างๆ ที่จะเชื่อมกับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮ ขุดดินขึ้นมาถมทางเป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้เข้าไปยังพื้นที่ได้
นายนิมิตร ผดุงศิลป์ไพโรจน์ นายอำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ทางอำเภอได้รับรายงานเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว และให้ปลัดฝ่ายความมั่นคง เข้าตรวจสอบ แต่เบื้องต้น ยังไม่สามารถเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ โดยทาง กฟผ.อ้างว่า เป็นจุดอันตราย และเป็นพื้นที่ของเอกชนที่ได้รับมอบอำนาจจาก กฟผ.ในการดำเนินงาน ดังนั้น จึงต้องรอให้ทาง กฟผ. และบริษัทฯ รายงาน และนำเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดจ็บ หรือเสียชีวิต แต่มีรายงานว่าก่อนหน้านี้มีชาวบ้านที่เข้าไปเลี้ยงวัว และหายตัวไป 1 คน ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่
ช่วงเย็นวานนี้ (18มี.ค.) นายถาวร งามกนกวรรณ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แถลงกรณีเหตุดินสไลด์ และทรุดตัว ห่างจากเหมืองแม่เมาะ ประมาณ 4-5 กม. ว่า เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.01 น. วันที่ 18 มี.ค. บริเวณที่ทิ้งดิน ด้านตะวันตกของเหมืองแม่เมาะ พื้นที่ หมู่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ทำให้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงจำนวน 5 ต้น สายพานลำเลียงดินบางส่วนบริเวณเหมืองแม่เมาะได้รับความเสียหาย และเส้นทางสัญจรบริเวณถนนเลียบคลองส่งน้ำ ไม่สามารถใช้งานได้บางส่วน ความยาวของจุดที่ดินสไลด์ประมาณ 1 กม. โดยทิศทางการสไลด์เข้ามาทางเหมือง ซึ่งหากเทียบจากพื้นที่ทั้งหมด ถือว่าน้อยมาก
ส่วนสาเหตุยังไม่ชี้ชัด แต่ส่วนตัวคาดว่าน่าจะคล้ายๆ กับเหตุการณ์ช่วงหน้าฝนที่ดินเคลื่อนตัวระหว่างชั้นดินเก่ากับชั้นดินใหม่ แต่ก็ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องปิดถนน และรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดลำปางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ทราบ ทั้งนี้ ได้ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงไปใช้เส้นทางเลียบอ่างเก็บน้ำแม่ขามแทนเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปดูแล และเร่งเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติโดยเร็ว ซึ่งเหตุที่เกิดไม่มีทรัพย์สินของชาวบ้าน หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าของภาคเหนือ โดยยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
ด้านนายโอภาส จริยภูมิ ผอ.ฝ่ายวางแผนและบริหารเหมืองแม่เมาะ เปิดเผยว่า ทาง กฟผ.แม่เมาะ ได้มีติดตามสถานการณ์ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ โดยในช่วงเย็นได้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเมื่อตอนดึกที่ผ่านมาได้ปิดเส้นทางดังกล่าว.
รายงานข่าวแจ้งว่า ได้เกิดเหตุดินทิ้งจากเหมืองแม่เมาะ เขตบ้านหัวฝาย ม. 1 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง สไลด์ลงมาทับถนน เสาไฟฟ้า บ้านพักคนงานภายในพื้นที่เหมืองของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง (กฟผ.แม่เมาะ) เมื่อคืนวันที่ 17มี.ค. ที่ผ่านมา
เบื้องต้น มีรายงานว่า มีพื้นที่ที่เกิดดินทรุดตัวกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างประมาณ 1 กม. ทำให้ถนนคอสะพานขาด เป็นแนวแตกลึกลงไปเป็นทางยาวกว่า 100 ม. นอกจากนี้ ดินที่เกิดสไลด์ และทำให้เกิดแตกแยกออกจากกันส่งผลให้เสาไฟฟ้าคอนกรีตในพื้นที่เกิดล้มลงกว่า 50 ต้น รวมถึงยังกระทบต่อสายพานลำเลียงดินของบริษัทสหกลฯ เสียหายเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าตั้งกรวยเตือน ตั้งแต่ปากทางเข้าอ่างแม่ขาม ซึ่งจะเชื่อมผ่านจุดเกิดเหตุ ทะลุไปยัง อ.งาว ห้ามไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในจุดเกิดเหตุ-ไม่ให้เข้าพื้นที่เพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ พบว่าถนนทางเข้าไปยังจุดต่างๆ ที่จะเชื่อมกับที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮ ขุดดินขึ้นมาถมทางเป็นช่วงๆ เพื่อไม่ให้เข้าไปยังพื้นที่ได้
นายนิมิตร ผดุงศิลป์ไพโรจน์ นายอำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ทางอำเภอได้รับรายงานเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว และให้ปลัดฝ่ายความมั่นคง เข้าตรวจสอบ แต่เบื้องต้น ยังไม่สามารถเข้าไปยังจุดเกิดเหตุได้ โดยทาง กฟผ.อ้างว่า เป็นจุดอันตราย และเป็นพื้นที่ของเอกชนที่ได้รับมอบอำนาจจาก กฟผ.ในการดำเนินงาน ดังนั้น จึงต้องรอให้ทาง กฟผ. และบริษัทฯ รายงาน และนำเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดจ็บ หรือเสียชีวิต แต่มีรายงานว่าก่อนหน้านี้มีชาวบ้านที่เข้าไปเลี้ยงวัว และหายตัวไป 1 คน ซึ่งกำลังตรวจสอบว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่
ช่วงเย็นวานนี้ (18มี.ค.) นายถาวร งามกนกวรรณ รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แถลงกรณีเหตุดินสไลด์ และทรุดตัว ห่างจากเหมืองแม่เมาะ ประมาณ 4-5 กม. ว่า เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.01 น. วันที่ 18 มี.ค. บริเวณที่ทิ้งดิน ด้านตะวันตกของเหมืองแม่เมาะ พื้นที่ หมู่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ทำให้เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงจำนวน 5 ต้น สายพานลำเลียงดินบางส่วนบริเวณเหมืองแม่เมาะได้รับความเสียหาย และเส้นทางสัญจรบริเวณถนนเลียบคลองส่งน้ำ ไม่สามารถใช้งานได้บางส่วน ความยาวของจุดที่ดินสไลด์ประมาณ 1 กม. โดยทิศทางการสไลด์เข้ามาทางเหมือง ซึ่งหากเทียบจากพื้นที่ทั้งหมด ถือว่าน้อยมาก
ส่วนสาเหตุยังไม่ชี้ชัด แต่ส่วนตัวคาดว่าน่าจะคล้ายๆ กับเหตุการณ์ช่วงหน้าฝนที่ดินเคลื่อนตัวระหว่างชั้นดินเก่ากับชั้นดินใหม่ แต่ก็ต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงต้องปิดถนน และรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดลำปางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ทราบ ทั้งนี้ ได้ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเลี่ยงไปใช้เส้นทางเลียบอ่างเก็บน้ำแม่ขามแทนเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปดูแล และเร่งเคลียร์พื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรได้ตามปกติโดยเร็ว ซึ่งเหตุที่เกิดไม่มีทรัพย์สินของชาวบ้าน หรือมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าของภาคเหนือ โดยยังสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
ด้านนายโอภาส จริยภูมิ ผอ.ฝ่ายวางแผนและบริหารเหมืองแม่เมาะ เปิดเผยว่า ทาง กฟผ.แม่เมาะ ได้มีติดตามสถานการณ์ดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ โดยในช่วงเย็นได้มีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด และเมื่อตอนดึกที่ผ่านมาได้ปิดเส้นทางดังกล่าว.
