ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -สรุปออกมาแล้ว หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการ และเป็นมติครม. เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 ต่อ แนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระของส่วนราขการทั่วประเทศ
ตามที่“สำนักงบประมาณ”ได้เสนอให้ตรวจสอบ“ปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ”ทั้งก่อนปีงบประมาณ และระหว่างปีงบประมาณปัจจุบัน โดยมีการจัดทำแบบรายงานตรวจสอบการเบิกจ่าย แต่ให้ยกเว้นกรณีที่จะให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยราชการอื่น ที่ไม่สามารถชำระหนี้สาธารณูปโภคได้ทันภายในปีงบประมาณที่เกิดค่าใช้จ่าย สามารถกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี เป็นค่าสาธารณูปโภคได้ 3 เดือน หลังจากสิ้นปีงบประมาณ รวมทั้งยกเลิกมติ ครม. 22 ก.ค.56 เรื่องแนวทาง และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระให้แก่รัฐวิสาหกิจ ที่เดิมมุ่งเน้นไปเพียงกลุ่ม“รัฐวิสาหกิจ”เท่านั้น
นอกจากนั้น ยังสั่งการให้สำนักงบประมาณรายงานผลการดำเนินการ ตามแนวทางและมาตรการแก้ไขปํญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระของส่วนราขการ เสนอมายังครม.ภายในเดือนก.ย.60
ผ่านมา 7 เดือน นับแต่มี มติครม.ดังกล่าว ล่าสุดสำนักงบประมาณได้รายงานผลสัมฤทธิ์ดังกล่าว และ ครม.มีมติรับพิจารณา เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดยรายละเอียดของรายงานสรุปไว้ว่า จากผลการดำเนินงานของสำนักงบประมาณ ขอกราบเรียนว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ดำเนินการตามแนวทาง และมาตรการแก้ไชปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระแล้ว มีผลสัมฤทธิ์ทำให้ยอดหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระลดลง ดังนี้
หนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ค้างชำระก่อนปีงบประมาณ พ.ศ.2560 พบว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นผู้ใช้บริการ มีหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ ณ วันที่ 31 ธ.ค.59 จำนวน 916.490 ล้านบาท ซึ่งต่อมาได้ดำเนินการตามแนวทาง และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ ของส่วนราชการ เป็นผลให้สามารถชำระหนี้ ได้ 664.689 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 72.53 ของหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระก่อนปีงบประมาณ 2560 คงเหลือหนี้ค้างชำระ 251.801 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.60)
รายงานดังกล่าว ยังได้จำแนก“หนี้ค่าสาธารณูปโภค”ตามรัฐวิสาหกิจ ผู้ให้บริการสาธารณูปโภค ดังนี้
1) หนี้สาธารณูปโภค ที่ยังค้างอยู่กับ“บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)” 150.031 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 59.58 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือ
2) หนี้สาธารณูปโภค ที่ยังค้างอยู่กับรัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง 101.770 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40.42 ของมูลค่าหนี้ค้างชำระคงเหลือ ประกอบด้วย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 64.652 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค 35.852 ล้านบาท การไฟฟ้านครหลวง 1.473 ล้านบาท และ การประปานครหลวง 0.193 ล้านบาท
รายงานยังจำแนก “ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ที่มีหนี้ค้างชำระคงเหลือ”จำนวน 251.801 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) ส่วนราชการต่างๆ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในงบดำเนินงาน รายการค่าสาธารณูปโภค จำนวน 85.196 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.83 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นของหน่วยราชการ 5 องค์กร ดังนี้
“กรมการขนส่งทางบก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรมศุลกากร และกรมการปกครอง”
ขณะที่ส่วนราชการ“ที่ค้างชำระค่าสาธารณูปโภค”ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณค่าสาธารณูปโภค ในงบเงินอุดหนุน และงบรายจ่ายอื่น จำนวน 166.605 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66.17 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นของเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)
รายงานฉบับนี้ยัง จำแนก“หนี้ค่าสาธารณูปโภคที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ค้างชำระในปีงบประมาณ 2560 ดังนี้
ปีงบประมาณ 2560 (ต.ค.59 ถึง ก.ย.60) หนี้ค่าสาธารณูปโภค ทั้งสิ้น 39,474.333 ล้านบาท ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น สามารถชำระหนี้ได้ 37,204.109 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94.25 ของหนี้ค่าสาธารณูปโภค ปีงบประมาณ 2560 คงเหลือหนี้ค้างชำระ 2,270.224 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.75 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ย.60)
สามารถจำแนกตามรัฐวิสาหกิจผู้ให้บริการสาธารณูปโภค ดังนี้
1) ส่วนราชการฯ ค้างชำระ “ค่าสาธารณูปโภค”ต่อการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 1,728.855 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 76.15 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือ
2) รัฐวิสาหกิจ 4 แห่ง 541.369 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 23.85 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือ ประกอบด้วย การไฟฟ้านครหลวง 280.711 ล้านบาท การประปาส่วนภูมิภาค 115.512 ล้านบาท บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) 88.378 ล้านบาท และการประปานครหลวง 56.768 ล้านบาท
ยังพบว่า ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ที่มีหนี้ค้างชำระคงเหลือ ของปีงบประมาณ 2560 จำนวน 2,470.224 ล้านบาท ประกอบด้วย
1) ส่วนราชการฯ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณในงบดำเนินงาน รายการค่าสาธารณูปโภค 1,599.757 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 70.47 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นของ“กองทัพบก สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมราชทัณฑ์ และกรมชลประทาน”
2) ส่วนราชการฯ ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณค่าสาธารณูปโภค ในงบเงินอุดหนุนและงบรายจ่ายอื่น 670.467 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.53 ของหนี้ค้างชำระคงเหลือซึ่งส่วนใหญ่ เป็นของ องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล กรุงเทพมหานคร มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์การบริหารส่วนจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ครม.ได้มีมติในวันนั้นว่า จากผลการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว พบว่าหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระ มีแนวโน้มลดลง และเพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระของส่วนราชการ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และได้ผลสมบูรณ์ เห็นสมควรให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น ปฏิบัติดามแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ค่าสาธารณูปโภคค้างชำระของส่วนราชการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.60 ต่อไป รวมทั้งให้ความสำคัญกับข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่องการลดพลังงาน มาเป็นตัวชี้วัดเพื่อการปฏิรูป หัวหน้าหน่วยราชการ และหน่วยงานราชการเชิงผลสัมฤทธิ์ด้วย