"ฝั่งขวาเจ้าพระยา"
"โชกุน"
คนเป่านกหวีด หรือ Whistleblower หมายถึง บุคคลผู้นำข้อมูลภายในขององค์กรเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมาย การใช้อำนาจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การทุจริต การใช้เงินอย่างไม่ถูกต้อง การทุจริตหรือการกระทำที่เป็นภัยต่อสุขภาพ และความปลอดภัยของสังคม ออกมาเปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อให้มีการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หรือนำมาใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
การทุจริต คอร์รัปชัน ทั้งในวงราชการ ในภาคเอกชน เป็นเรื่องยากที่จะเอาคนโกงมาลงโทษ เพราะคนโกงมีการวางแผนเตรียมการหาทางหนีทีไล่มาอย่างดี ไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวได้
หากไม่โกงกันแบบไม่เกรงกลัวฟ้าดิน ย่ามใจว่า ไม่มีใครกล้าเอาผิดจนทิ้งรอยรอยหลักฐานการโกงเอาไว้เต็มไปหมด อย่างเช่น โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็ยากยิ่งนักที่จะจับได้ไล่ทัน
การทุจริตคอร์รัปชัน ส่วนใหญ่จึงไม่สามารถเอาตัวคนโกงมาลงโทษได้ เพราะไม่มีใบเสร็จ หรือเอาผิดได้แต่ปลาซิว ปลาสร้อย สาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่เพราะมีการตัดตอนไปเรียบร้อยแล้ว
การที่จะเอาผิดคนโกงจับให้มั่น คั้นให้ตาย ต้องอาศัยคนเป่านกหวีดที่เป็นคนในที่มีข้อมูลหรือรู้เห็นว่า มีการทุจริตเกิดขึ้น ให้ความร่วมมือแจ้งเบาะแส ให้ข้อมูลหลักฐานเป็นพยานแก่เจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่ปราบคนโกง หรือให้ข้อมูลแจ้งเตือนต่อสาธารณะให้รู้โดยทั่วกัน
คดีทุจริต การจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร มูลค่า 6.6 พันล้านบาท ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556 จำคุกนายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย 12 ปี และพลตำรวจตรีอธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. 10 ปี มีคนเป่านกหวีดนิรนามที่ทนไม่ได้กับการทุจริตเงินแผ่นดินจำนวนมหาศาล อาศัยที่เป็นคนในถ่ายสำเนาเอกสารทุกชิ้นที่ผ่านมือส่งไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือ ป.ป.ช.และไปให้การเป็นพยาน ทำให้คนโกงที่เป็นปลาตัวใหญ่ดิ้นไม่หลุด
กรณีโกงเงินคนจนของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดขอนแก่น หากไม่มีคนเป่านกหวีด คือ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือน้องแบม นิสิตคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และน.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล หรือน้องเกมส์ อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ก็คงไม่มีใครรู้ว่า ผู้อำนวยการศูนย์คนไร้ที่พึงขอนแก่น โกงเงินคนจน คนติอเชื้อเอชไอวี สั่งน้องแบม และน้องเกมส์ทำเอกสารปลอมรับเงินสงเคราะห์คนจนรายละ 2,000 บาท รวมเป็นเงินทิ้งสิ้นถึง 6 ล้านกว่าบาท
และการโกงเงินคนจนคงมีต่อไปในปีหน้า ปีโน้น เพราะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครจับได้ คนที่รู้แม้จะไม่เห็นด้วย แต่ก็ถือว่าธุระไม่ใช่ ไม่อยากหาเรื่องใส่ตัว
โชคดีที่มีคนอย่างน้องแบม น้องเกมส์ ที่เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ถูกต้อง นำเรื่องไปแจ้งต่อศูนย์ดำรงธรรม ต่อ ป.ป.ช.ขอนแก่น ต่อผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่เมื่อเห็นว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงพร้อมใจกันลุกขึ้นเป่านกหวีดนำเรื่องไปบอกสื่อมวลชน
เสียงนกหวีดของน้องทั้งสองดังไปทั่วเกินกว่าเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะนิ่งเฉยต่อไปได้ เป็นเหตุให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.ส่งทีมลงไปตรวจสอบ ทั้งที่ขอนแก่น และที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งในภาคเหนือตอนบน และภาคอีสาน ซึ่งพบว่า ทุกที่มีปัญหาโกงเงินคนจนเหมือนที่ขอนแก่น
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลงนามย้ายปลัด และรองปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมฯ มาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะเรื่องโกงเงินคนจนนี้ ทำท่าว่าจะเป็นขบวนการโกงทั่วประเทศ ที่มีผู้ใหญ่รู้เห็นหรืออาจอยู่เบื้องหลังด้วย
เรื่องโกงเงินคนจนของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง เกิดขึ้นในรัฐบาล คสช.ที่ประกาศให้การปราบปรามการทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ ความจริงเรื่องนี้มีการร้องเรียนมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งในรูปของบัตรสนเท่ห์ ทั้งการร้องเรียนต่อผู้ตรวจราชการ กระทรวง พม.ร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ต่อ ป.ป.ช.จังหวัด สตง.ก็เคยเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ ผู้ร้องเรียนอย่างน้องเกมส์เสียอีก กลับถูกเล่นงาน โดนปลดจากตำแหน่งลูกจ้างศูนย์คนไร้ที่พึ่ง ขอนแก่น
ถ้าเธอทั้งสองไม่ลุกขึ้นเป่านกหวีด ก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนโกงก็คงลอยนวล โกงเงินคนจนต่อไป ทั้งในระดับกระทรวงและระดับศูนย์
วีรกรรมของน้องทั้งสอง เป็นสิ่งที่น่ายกย่อง เป็นความกล้าหาญของคนธรรมดา ๆ คนตัวเล็กๆ ที่ไม่ต้องอ้างเอ่ยวาทะคำใหญ่ คำโต อาศัยเพียงสามัญสำนึกนำทางให้กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่เป็นหน้าที่ของพลเมือง