“ประจิน” สั่งตรวจสอบข้อมูลนักการเมืองเชื่อมโยง "วิคตอเรีย ซีเครท" ยันไม่กระทบอันดับการค้ามนุษย์ "ศรีวราห์"ปัดคุมตัว 3 แคชเชียร์อ่างวิคตอเรีย เผยเอ็มอาร์ไอชี้เด็กต่ำกว่า18ปี 6 ราย “นครบาล” เร่งแกะโพยรายชื่อ หาหลักฐานฟัน5เสือวังทองหลาง ยัน 30 วันรู้ผล
วานนี้ (18 ม.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีการตรวจค้นจับกุมสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ซึ่งเข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ เป็นคดีพิเศษ ว่า หลังพบเหยื่อที่เป็นหญิงสาวต่างด้าวไม่ต่ำกว่า 3 ราย ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่ง ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อในการรวบรวมสำนวนคดี ส่วนตนเองนั้นอยากให้ร่วมกันทำงานในรูปแบบคณะทำงานที่มีดีเอสไอเป็นทีมหลักเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดในการสืบค้นข้อเท็จจริง รวม ทั้ง ยังต้องประสานไปยังหน่วยงานต่างประเทศ และเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด แต่ยืนยันว่าไม่หวั่นไหวที่พบมีรายชื่อแอบอ้างอักษรย่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเน้นย้ำว่าที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เชื่อมั่นว่าไม่มีผลกับการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้
"สำหรับกระแสข่าวว่าขบวนการค้ามนุษย์ที่วิคตอเรียอาจมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่นั้น ผมยังไม่ทราบข้อมูลแต่ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่นำข้อคิดเห็นมาเสนอ โดยจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง" พล.อ.อ.ประจิน ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้เชิญตัว นายชูวิทย์ มาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกรณีของสถานบริการดังกล่าว หลังจากนายชูวิทย์ ได้ออกรายการโทรทัศน์ เปิดเผยข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินกิจการ และการใช้บริการในสถานบริการแห่งนี้ รวมทั้งระบุด้วยว่า น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภาภรณ์ ที่เข้าพบกับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ เป็นเพียงนอมินี ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาตสถานประกอบการ แต่ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง โดยข้อมูลต่างๆ จะสามารถเชื่อมโยง และนำไปสู่การสืบสวนเพื่อหาเจ้าของสถานประกอบการตัวจริง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่ายังไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้ามนุษย์ 3 ราย ซึ่งเป็นแคชเชียร์ ประกอบด้วย น.ส.สุพัตรา สาราด อายุ 25 ปี น.ส.ญาณิศา พรหมบุตร อายุ 31 ปี และ น.ส.ประเทือง ตู่ตระสังค์ อายุ 38 ปี ซึ่งศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่ม กรณีเข้าตรวจค้นสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเครท ย่านพระราม 9 โดยขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัว
ส่วนการโอนย้ายสำนวนคดีให้ดีเอสไอ หลังรับเป็นคดีพิเศษนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากดีเอสไอ จึงจะดำเนินการได้ ตามขั้นตอนใช้เวลา 3 วัน แต่หากระหว่างนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาก็สามารถดำเนินการไปจนถึงขั้นตอนการฝากขังคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนได้ภายในสัปดาห์หน้า
“ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตเจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท มีการพาดพิงว่า ขายกิจการให้ เสี่ยกำพล ยืนยันว่าเป็นเพียงการบอกเล่าของนายชูวิทย์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แต่ยังไม่มีน้ำหนักหรือหลักฐานเพียงพอออกหมายเรียกหรือหมายจับ โดยตามหลักฐานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่าเสี่ยกำพลยังอยู่ในประเทศไทย” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.น. ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยความคืบหน้าว่า ทางชุดคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ข้อบกพร่อง ของนายตำรวจ 5 นาย รับผิดชอบพื้นที่ สน.วังทองหลาง นั้น ได้มีการประชุมคณะทำงานไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น บัญชี โพยรายชื่อ ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปใช้บริการ โดยมีระยะเวลาการตรวจสอบภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม ทางคณะทำงานจะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ กล่าวถึงผลการคัดแยกเหยื่อด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอว่า ผลจากการคัดแยกยืนยันเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18ปี จำนวน 6 ราย จากทั้งหมดที่ส่งไปตรวจ 11 ราย
วานนี้ (18 ม.ค.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯและ รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีการตรวจค้นจับกุมสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท ซึ่งเข้าข่ายความผิดค้ามนุษย์ เป็นคดีพิเศษ ว่า หลังพบเหยื่อที่เป็นหญิงสาวต่างด้าวไม่ต่ำกว่า 3 ราย ถูกบังคับให้ค้าประเวณี ซึ่ง ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อในการรวบรวมสำนวนคดี ส่วนตนเองนั้นอยากให้ร่วมกันทำงานในรูปแบบคณะทำงานที่มีดีเอสไอเป็นทีมหลักเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นเรื่องละเอียดในการสืบค้นข้อเท็จจริง รวม ทั้ง ยังต้องประสานไปยังหน่วยงานต่างประเทศ และเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด แต่ยืนยันว่าไม่หวั่นไหวที่พบมีรายชื่อแอบอ้างอักษรย่อเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งเน้นย้ำว่าที่ผ่านมารัฐบาลไทยก็ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด เชื่อมั่นว่าไม่มีผลกับการจัดอันดับการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในเดือนมี.ค.ที่จะถึงนี้
"สำหรับกระแสข่าวว่าขบวนการค้ามนุษย์ที่วิคตอเรียอาจมีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่นั้น ผมยังไม่ทราบข้อมูลแต่ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่นำข้อคิดเห็นมาเสนอ โดยจะสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริง" พล.อ.อ.ประจิน ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงดึกของวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้เชิญตัว นายชูวิทย์ มาสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกรณีของสถานบริการดังกล่าว หลังจากนายชูวิทย์ ได้ออกรายการโทรทัศน์ เปิดเผยข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินกิจการ และการใช้บริการในสถานบริการแห่งนี้ รวมทั้งระบุด้วยว่า น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภาภรณ์ ที่เข้าพบกับพนักงานสอบสวน ดีเอสไอ เป็นเพียงนอมินี ซึ่งมีชื่อเป็นผู้ถือใบอนุญาตสถานประกอบการ แต่ไม่ใช่เจ้าของตัวจริง โดยข้อมูลต่างๆ จะสามารถเชื่อมโยง และนำไปสู่การสืบสวนเพื่อหาเจ้าของสถานประกอบการตัวจริง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ ยืนยันว่ายังไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้ามนุษย์ 3 ราย ซึ่งเป็นแคชเชียร์ ประกอบด้วย น.ส.สุพัตรา สาราด อายุ 25 ปี น.ส.ญาณิศา พรหมบุตร อายุ 31 ปี และ น.ส.ประเทือง ตู่ตระสังค์ อายุ 38 ปี ซึ่งศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่ม กรณีเข้าตรวจค้นสถานบริการอาบ อบ นวด วิคตอเรีย ซีเครท ย่านพระราม 9 โดยขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามจับกุมตัว
ส่วนการโอนย้ายสำนวนคดีให้ดีเอสไอ หลังรับเป็นคดีพิเศษนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ต้องรอหนังสืออย่างเป็นทางการจากดีเอสไอ จึงจะดำเนินการได้ ตามขั้นตอนใช้เวลา 3 วัน แต่หากระหว่างนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาก็สามารถดำเนินการไปจนถึงขั้นตอนการฝากขังคาดว่าจะสามารถส่งสำนวนได้ภายในสัปดาห์หน้า
“ส่วนกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตเจ้าของสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท มีการพาดพิงว่า ขายกิจการให้ เสี่ยกำพล ยืนยันว่าเป็นเพียงการบอกเล่าของนายชูวิทย์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์แต่ยังไม่มีน้ำหนักหรือหลักฐานเพียงพอออกหมายเรียกหรือหมายจับ โดยตามหลักฐานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพบว่าเสี่ยกำพลยังอยู่ในประเทศไทย” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.น. ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เปิดเผยความคืบหน้าว่า ทางชุดคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ข้อบกพร่อง ของนายตำรวจ 5 นาย รับผิดชอบพื้นที่ สน.วังทองหลาง นั้น ได้มีการประชุมคณะทำงานไปแล้ว ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น บัญชี โพยรายชื่อ ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปใช้บริการ โดยมีระยะเวลาการตรวจสอบภายใน 30 วัน อย่างไรก็ตาม ทางคณะทำงานจะเร่งดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ กล่าวถึงผลการคัดแยกเหยื่อด้วยวิธีเอ็มอาร์ไอว่า ผลจากการคัดแยกยืนยันเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18ปี จำนวน 6 ราย จากทั้งหมดที่ส่งไปตรวจ 11 ราย
