xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“บิ๊กตู่”กับ“ประชาธิปไตยไทยนิยม”..???

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”

ระบอบการเมืองที่ดีนั้น ต้องเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพผู้คนในสังคมไทย วัดผลลัพธ์ตรงระบอบการเมืองดี ต้องส่งผลดีต่อชาติและคนส่วนใหญ่เป็นหลัก

ส่วน“อำนาจ”นั้น..ทำให้“คน”ไม่สามารถเป็นกลางได้เลย!

“อำนาจ”อยู่ในมือของคนชั่ว กลุ่มคนชั่วจะใช้อำนาจอย่างอธรรม ทำเรื่องชั่วร้าย

“อำนาจ”อยู่ในมือของคนดี กลุ่มคนดีจะใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม ทำความดี

“ในหลวงรัชกาลที่ 9”จึงรับสั่ง ให้เอาคนดีขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจไงล่ะ!

แต่จะน่าเสียดายอย่างยิ่ง ถ้า“อำนาจ”ตกอยู่ในมือ“กลุ่มคนดีแต่ปาก” ที่ไร้ความมุ่งมั่นในการสร้างผลงานดี เพื่อแก้ต้นเหตุปัญหาชาติอย่างจริ

ใจ เพราะ“กลุ่มคนดีแต่ปาก”มักใช้“อำนาจ”สะเปะสปะ ทำให้“เสียของ-ไม่คุ้มค่า-ไม่สมคุณค่า” ในพลังแห่ง“อำนาจ”อันยิ่งใหญ่ ดังที่เกิดขึ้นหลายครั้งในชาติไทย

ปี 2475 ที่ทหารและพลเรือนกลุ่มหนึ่งนาม“คณะราษฎร” ได้รัฐประหารเปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้เป็น“ระบอบประชาธิปไตยเลือกตั้ง”แบบ“คณะราษฎร” บนความไม่พร้อมในหลากมิติของชาติและคนไทยส่วนใหญ่

นับแต่นั้นชาติไทยก็ได้“เปิดฉากวงจรอุบาทว์”ทางการเมือง สไตล์“สมบัติชาติผลัดกันโกง” ให้กับชาติและชาวไทย นั่นคือ ระบอบ“เผด็จการรัฐสภา” กับ“เผด็จการทหาร”

เผด็จการรัฐสภา-“คลอดจากครรภ์การเลือกตั้ง” ซึ่งเต็มไปด้วยการซื้อเสียงและโกงเลือกตั้งสารพัดวิธี ในนาม“ประชาธิปไตยเลือกตั้ง(จอมปลอม)” ที่ก่อเกิด“คณะรัฐบาลชั่วช้าสามานย์” ที่เร่งถอนทุนบวกกำไรจากการคอร์รัปชั่นโกงชาติ

เผด็จการทหาร-“คลอดจากครรภ์การรัฐประหาร” โค่นล้ม“คณะรัฐบาลชั่ว”มาจากการเลือกตั้งสกปรก ที่คอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างมโหฬาร แต่“คณะรัฐบาลรัฐประหาร”ไม่เคยปฏิรูปชาติ เพื่อแก้ต้นเหตุการเลือกตั้งสกปรก อันเป็นที่มาของรัฐบาลโกงชาติเลย

ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงไม่“ไทยนิยม” กับระบอบการเมือง“เผด็จการรัฐสภา” และ“เผด็จการทหาร” เพราะระบอบการเมืองทั้ง 2 รูปแบบ คือ ผลประโยชน์ของ“คนกลุ่มน้อยนิด” มิใช่ผลประโยชน์ของชาติและคนส่วนใหญ่

ที่น่าขยะแขยงอย่างยิ่งสำหรับสังคมไทย คือ “ผู้นำ”และ“สาวก” ใน“กลุ่มเผด็จการรัฐสภา”และ“กลุ่มเผด็จการทหาร” มักอ้างอย่างสามานย์ว่า “พวกเขา”ทำเพื่อชาติและคนส่วนใหญ่เป็นหลัก ทั้งๆที่“พวกเขา”ล้วนทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้องเป็นหลัก

ดังรัฐบาล“เหลี่ยม”กับเครือข่าย ที่มาจากการเลือกตั้งสกปรก ทำการคอร์รัปชั่นโกงชาติอย่างหน้าด้านๆ คือตัวอย่างชัดเจนที่สุดของสังคมไทย เพราะเป็น“รัฐบาลมาจากเลือกตั้ง” ที่เริ่มต้นด้วย “คนไทยนิยม”อย่างท่วมท้น แต่เพราะทำชั่วทั้งโกงชาติและล้มเจ้า พลันกลายเป็น“รัฐบาลฯคนไทยไม่นิยม” ถูกประชาชนคนส่วนใหญ่สาปแช่งประณาม และถูกชาว“พธม.”และ“กปปส” ชุมนุมขับไล่อย่างต่อเนื่อง

ในที่สุด“รัฐบาลมาจากเลือกตั้ง-ไทยเลิกนิยม” เครือข่าย“เหลี่ยม”ที่สามานย์ ก็ถูก“นายทหารกลุ่มหนึ่ง”ทำรัฐประหาร โค่นลงถึง 2 ครั้ง ทำให้“ผู้นำ”ที่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี 2 คน กับพวกพ้องอีกกลุ่มหนึ่ง ต้องหนีคุกตะราง และความผิดในคดีความมากมายไปอยู่ต่างแดน ในขณะที่รัฐมนตรีกับพวกพ้องอีกหลายคน ต้องติดคุกอยู่จนบัดนี้

ทว่า.. ย้อนดูช่วงแรก เมื่อ“กลุ่มนายทหาร”ยึด“อำนาจ” ด้วยการทำรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง ก็พบการมอบ“ดอกไม้แทนใจ”อย่างล้นหลาม แสดงอาการ“ไทยนิยม”อย่างชัดแจ้ง

เพราะประชาชนหลงเชื่อว่า “กลุ่มอัศวินม้าเขียว” ที่ถือปืนขี่รถถังออกมาขับไล่“พวกอัศวินควายดำ” ที่ปล้นชาติปล้นประชาชน จะต้องเป็น“คนดีจริง” ที่เข้ามาทำดี เพื่อชาติเพื่อประชาชนอย่างแน่นอน

แต่แล้ว “อัศวินม้าเขียว”ชุดแรกที่ทำรัฐประหาร ยึดอำนาจรัฐไปไว้ในกำมือ ก็ทำให้บรรดา“ไทยนิยม”หัวใจสลาย กับรัฐประหาร“เสียของ-เยี่ยวไม่สุด-มวยล้มต้มกองเชียร์” เพราะ“ท่านผู้นำอัศวินม้าเขียว”เสพติดอำนาจ และมุ่งแต่จะสืบทอดอำนาจลูกเดียว

นอกจากมิได้ใช้“อำนาจ”ลงโทษกลุ่มคนที่คอร์รัปชั่นโกงชาติเท่าที่ควรแล้ว ยังแอบไป“สมานฉันและเธอ”กับกลุ่มคนชั่ว จนลด-ละเลิก-เพิกเฉย ฯลฯ ต่อการใช้อำนาจอย่างสร้างสรรค์ ในการทำภารกิจอันยิ่งใหญ่เพื่อชาติและประชาชน ดังที่ประกาศในห้วงทำรัฐประหาร

แถม“อัศวินม้าเขียว-บังเละ”ที่ไม่ปฏิรูปชาติ ยังเร่งให้มีการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม จนทำให้เครือข่าย“เหลี่ยม”หวนกลับมาครองเมืองได้อีก โดยมี“อัศวินม้าเขียว-บังเละ”นั่งในสภา เป็นหนึ่งใน“ผี-โม่แป้ง” เป็น“หัวหอก”ผลักดันกฎหมาย“นิรโทษกรรมสุดซอย” ให้“เหลี่ยม”และพวกพ้นผิดจากการโกงชาติ

“ดอกไม้แทนใจ-ไทยนิยม” ที่รัฐประหารชุดแรกของ“อัศวินม้าเขียว-บังเละ”ได้รับในตอนแรก จึงพลันกลายเป็น“ก้อนหินแทนใจ-ไทยเลิกนิยม”ไปเสียฉิบ

ส่วนรัฐประหารของ“อัศวินม้าเขียว”ชุดสอง ที่โค่นล้มรัฐบาล“พี่คิด-น้องโกง”เครือข่าย“เหลี่ยม” ก็ยังคงได้รับ“ดอกไม้แทนใจ-ไทยนิยม”ในตอนแรกเช่นกัน แต่ด้วยครองอำนาจรัฐในกำมือย่างเข้าสู่ปีที่ 4 โดยมีผลงานในระหว่าง“ขี่ม้าเลียบค่าย”อยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นผลงาน การบริหารชาติสไตล์“ข้าราชการประจำ” ที่ทำได้เพียง ตัดตอนอำนาจของเครือข่าย“กลุ่มนักการเมืองทุนสามานย์-เหลี่ยม”แค่ชั่วคราวเท่านั้น

ส่วนผลงานการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน เพื่อแก้ต้นเหตุปัญหาอันชั่วร้ายของชาตินั้น “อัศวินม้าเขียว-ตู่”ยังไม่ได้ทำให้สำเร็จ จนประจักษ์ชัดต่อสายตาบรรดา“ไทยนิยม”ที่ให้“ดอกไม้แทนใจ”เลย

การครองอำนาจเกือบ 4 ปีในยามนี้ ของรัฐประหารที่ได้ผลงานไม่คุ้มค่า ทำท่าจะ“เสียของ” จึงทำให้“กองหนุนไทยนิยม”ชักหดหาย กลายเป็น“กองหนุนไทยเลิกนิยม”มากขึ้นเรื่อยๆ “ดอกไม้แทนใจ-ไทยนิยม”ลดน้อยลงจนน่าใจหาย ในขณะที่ “ก้อนหินแทนใจ-ไทยเลิกนิยม” เพิ่มทวีราวห่าฝน!

ทั้งนี้เพราะ“อัศวินม้าเขียว-ตู่”กับพวกพ้อง ที่ยังยึดครองอำนาจไว้ในกำมือ ใช้อำนาจทำงานเพื่อชาติและประชาชนชนิดไม่สะเด็ดน้ำ โดยมี“ใครบางคน”ยังแอบไปต่อรองทางการเมือง กับกลุ่มคนที่เคยคอร์รัปชั่นโกงชาติและล้มเจ้า ด้วยสูตร“ปรองดองเธอและฉัน” ชนิดไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม

เพื่อหวังผลในการกดและควบคุมสถานการณ์ ให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยเพียงชั่วคราว ด้วยอำนาจเผด็จการทหารและกฎหมาย จนกลุ่มการเมืองของ“กลุ่มเหลี่ยม” ต้องเคลื่อนไหวแบบ“มึงมากูหลบ” เพื่อรักษากองกำลังรอวันก่อตัว เป็น“สึนามิทางการเมืองในวันที่“มึงแย่-กูตี”ให้ล้มครืน

เพราะรัฐบาลรัฐประหาร“อัศวินม้าเขียว-ตู่” ไม่ได้ลงโทษกลุ่มคอร์รัปชั่นโกงชาติและล้มเจ้า ของ“อัศวินควายดำ-เหลี่ยม”และพวกพ้องอย่างจริงจังเท่าที่ควร แถมยังปล่อยให้เคลื่อนไหวไม่หยุดหย่อน ทั้งใต้ดินและบนดิน ทำร้ายทำลายสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

ที่สำคัญ “อัศวินม้าเขียว-ตู่”ไม่ได้ใช้อำนาจล้นฟ้า ทำการ“ปฏิรูปชาติก่อนการเลือกตั้ง” ที่เป็นกระแสสูงแห่งเสียงเรียกร้องของ“ไทยนิยม” แต่ทำจนกลายเป็นกระแส“เลือกตั้งก่อนปฏิรูป”ไปเสียแล้ว

นี่ยังไม่รวมการไม่ปราบคอร์รัปชั่นอย่างจริงจังเท่าที่ควร ราวกับ“ไทยนิยม”กินแกลบกินหญ้า กรณี “บิ๊กป้อม”คนใกล้ชิด“นายกฯตู่” อ้างยืมนาฬิกาเพื่อน 25 เรือนมาสวมใส่ และได้คืนให้เพื่อนหมดแล้ว

เหตุผลที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ “ประธาน ปปช.”ที่เคยเป็นรองเลขาฯของ“บิ๊กป้อม” ซึ่งได้รับการต่ออายุฯทั้งที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง ยังเงียบราวเป่าสากกะเบืออ่างศิลา

ใครจะเชื่อว่า.. “ประธาน ปปช.” เที่ยงธรรม? ใครจะเชื่อว่า..ปปช. จะยังเป็นองค์กรอิสระที่เที่ยงธรรม?

ใครจะเชื่อว่า “บิ๊กตู่” ที่ยืนยันว่า“บิ๊กป้อม”ดีเลิศประเสริฐศรี จะยืนอยู่บนความเที่ยงธรรม ในการปราบคอร์รัปชั่น ซึ่ง“บิ๊กตู่”ประกาศลั่นว่าเป็นวาระแห่งชาติ?

เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นในชาติไทยตลอดเกือบ 4 ปี จึงมิใช่เรื่องของ“ประชาธิปไตยไทยนิยม” แต่แท้จริงเป็นเรื่องของ“ประชาธิปไตยสามปอนิยม”มากกว่า เพราะไทยนิยมจริงๆดูยังไงๆ ก็มีแต่เครื่องหมาย “คำถาม”

ก็..แค่เรื่องนาฬิกา 2 โหลกว่าของ“บิ๊กป้อม” มันเห็นกันชัดๆว่า..รัฐบาล“บิ๊กตู่”ขาดซึ่งธรรมาภิบาล!




กำลังโหลดความคิดเห็น