ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ฮอตกว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีอีกแล้ว “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่เป็นหมู่บ้านกระสุนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่เรื่อง ผมก็เคยโดนซ่อม แต่ไม่ตาย! ที่ให้สัมภาษณ์ไม่ดูตาม้าตาเรือ จนคนด่าทั่วบ้านทั่วเมือง กรณีการตายปริศนาของ“น้องเมย” ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 จนสุดท้ายต้องยอมออกมาขอโทษ
แต่ความวัวไม่ทันหาย “บิ๊กป้อม”ก็เอาอีกแล้ว หลังอยู่ดีไม่ว่าดี ระหว่างรอถ่ายรูปหมู่ “ครม.ตู่ 5”หน้าตึกไทยคู่ฟ้า เมื่อวันจันทร์ ดันเอามือป้องหน้ากันแดด จนแสงแวววับของแหวนทองคำขาวเจิดจรัส สะท้อนส่องหน้าใครต่อใคร ชวนให้นักข่าวต้องหยิบกล้องมาถ่าย
จากแซวกันเล่นๆ เรื่องมูลค่า กลายเป็นการตามจับผิดถึงทรัพย์สินชิ้นนี้ที่บังเอิญไม่ได้มีอยู่ในรายการแสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินที่แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
แล้วมันถูกต่อยอดด้วยนาฬิกาข้อมือ ยี่ห้อหรูราคาแพงระยับที่อยู่ในมือข้างเดียวกัน ที่ก็ดันไม่ใช่อยู่ในรายการทรัพย์สินที่แจ้งเอาไว้ตอนเข้ารับตำแหน่ง เมื่อปี 2557
ทว่ามันมัดคอตัวเองตรงที่ “บิ๊กป้อม”ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวในตอนนั้นว่า มีมาตั้งนานแล้ว ! และเหตุไฉนมันไม่อยู่ในบัญชีทรัพย์สิน ในเมื่อมีมานมนาน อย่างนี้มันเข้าข่ายแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินต่อป.ป.ช.เป็นเท็จแบบเต็มเปา
ทำเอา “บิ๊กป้อม”ตกที่นั่งลำบากกันอีกระลอกกับการชี้แจงตอนแรกของตัวเองที่ไม่ค่อยได้กลั่นกรอง และระมัดระวัง ก่อนที่วันต่อมาจะสงวนท่าที ไม่ชี้แจงอะไรต่อสื่อมวลชนอีก แต่จะพูดกับป.ป.ช.เท่านั้น
เป็นอาการที่สะท้อนให้เห็นว่า ตกม้าตายอีกแล้ว จนเรื่องคิดช้าไม่ถ้วนถี่ กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ ที่ต้องรอเกิดเรื่องแล้วถึงเพิ่งจะคิดได้
แต่มันก็ช้าไปแล้ว เพราะสังคมกังขากันไปเรียบร้อย
โดยเฉพาะเมื่อในบัญชีรายการแสดงทรัพย์สินและหนี้สินไม่มี 2 รายการนี้ นี่คือ ใบเสร็จมัดที่แทบไม่ต้องการคำบรรยาย แล้วประเด็นนี้ มันยังลุกลามไปไกล คนนินทากันทั่วแล้วว่า ทำไมเป็นนายทหาร แต่เหตุไฉนมีเงินซื้อนาฬิกาหรู ที่ระดับดาราฮอลลีวูดเขาใส่กัน
อาชีพนี้มันรวยขนาดนั้นเลยหรือ ?
“บิ๊กป้อม”อ่วมอรทัย ตอนนี้ขยับอะไรโดนจับจ้องจับผิดทุกฝีก้าว ส่วนหนึ่งที่โดนกระสุนอย่างต่อเนื่อง ก็เพราะมันเป็นจังหวะดีที่จะได้ตรวจสอบบุคคลที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้มากบารมีตัวจริงของรัฐบาล โดยเฉพาะในช่วงที่กำลังเป๋ เซไป เซมา
เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อหาต่างๆ นานา ที่คนเขานินทากัน มันจริงหรือไม่ แล้วมันก็ค่อยๆ เผยออกมาให้เห็น
เอาเป็นว่า ตอนเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ที่ฟุ้งว่า โดนซ่อมแต่ไม่ตาย ! ตอนนี้นาฬิกาเรือนเดียวกำลังจะทำชีพวายในทางการเมือง เพราะเรื่องที่ตัวเองชะล่าใจว่า ไม่มีใครจะจับผิด กลายเป็นประเด็นที่ส่ง “บิ๊กป้อม”สู่เวทีการตรวจสอบขององค์กรอิสระ เป็นครั้งแรก
กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหาแบบเต็มตัว ต้องขึ้นไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแบบนักการเมือง ที่ตัวเองเคยดูแคลนเป็นตัวให้ประเทศไม่เดินหน้า
ที่ผ่านมามีคนพยายามร้องให้ตรวจสอบจำนวนมาก แต่ทำอย่างไรก็เข็นไปไม่ขึ้น คราวนี้ใครจะไปรู้ “บิ๊กป้อม”ตกม้าตายด้วยตัวเอง
คนมันดวงตกทำอะไรก็ซวยไปหมด แม้แต่ขนาดนั่งอยู่เฉยๆ ถึงทีนักการเมืองได้ทีขี่แพะไล่กันบ้าง ดูแล้วงานนี้คงไม่จบง่ายๆ หรือปล่อยผ่านเหมือนแต่ก่อน เพราะคนระดับพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์พลาด ขั้วตรงข้ามล่อหนักแน่ ถือเป็นนาทีทองให้รุมขย้ำ
นี่ถ้าเป็นช่วงรัฐบาลเลือกตั้ง แล้วผู้ใหญ่ในรัฐบาลนั้นๆ พลาด คงต้องบอกว่า งานเข้า เรื่องใหญ่ สั่นคลอนไปทั่วรัฐบาลแน่ๆ กรณีของ“บิ๊กป้อม”ในทางกฎหมายดูแล้วก็หวั่นใจแทน แต่เมื่อเหลือบไปมองคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน ภายใต้การนำของ “บิ๊กกุ้ย”พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานใหญ่ สายตรง “บ้านวงษ์สุวรรณ”ที่ตั้งแต่เข้ามากุมบังเหียนคดีของรัฐบาล หรือคสช. ช้าเป็นเรือเกลือ บางคดีตีตกแบบงงๆ
ก็ขนาดเป็นคนในองคาพยพของท็อปบูตยังรอด แต่นี่เป็นระดับบิ๊กบอสโดนตรวจสอบเอง จะกล้าชี้มูลความผิดหรือไม่ ?
เพราะคนที่กำลังจะตรวจสอบก็เป็นคนผลักดันให้ “บิ๊กกุ้ย”มาถึงฝั่งฝัน นั่งเป็นประธานป.ป.ช.อยู่ทุกวันนี้ ที่สำคัญ ชาวบ้านชาวช่องเขารู้กันทั่วว่า เหตุที่ดันก้นอดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มานั่งคุมหน่วยงานปราบโกง ก็เพื่อมาทำหน้าที่“นายท้ายเรือ”
คอยควบคุมคดีของขั้วการเมือง และค่อยดูแลคดีของพวกพ้อง เห็นชัดๆ ก็กรณี “บิ๊กป๊อด”พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ที่ว่ากันว่า รอดคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 มาได้ก็เพราะบารมีพี่ชายกับ“นายท้ายเรือ”นาม“บิ๊กกุ้ย” ที่คุมงานปราบโกงอยู่
เชื่อขนมกินล่วงหน้าได้เลย งานนี้เซฟ “บิ๊กป้อม”กันสุดลิ่มทิ่มประตู เพราะมีช่องโหว่ให้พออุ้มพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ได้ โดยเฉพาะถ้ามีการอ้างว่า ได้มาหลังจากที่มีการแสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินก่อนเข้ารับตำแหน่งต่อ ป.ป.ช. เมื่อปี 2557 ไปแล้ว ก็ดูกันให้ดีๆ เที่ยวนี้ “บิ๊กป้อม”ไม่ยอมชี้แจงรายละเอียดเองหลังเกิดเรื่อง แต่เลือกที่บอกว่าจะชี้แจงต่อป.ป.ช.เองเท่านั้น
มันก็ตีความกันได้ตรงตัว ว่าคนที่จะออกมาบอกว่า“บิ๊กป้อม”บริสุทธิ์หรือไม่บริสุทธิ์ ก็คือ ป.ป.ช. ที่การชี้แจงจะมีน้ำหนักมากกว่าพี่ใหญ่ที่ตอนนี้เครดิตไหลลงอย่างเดียว เหมือนกับเมื่อครั้ง “บิ๊กติ๊ก”พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม โดนตรวจสอบเรื่องทรัพย์สินอย่างไรอย่างนั้น
อย่างไรก็ต้องอุ้ม “บิ๊กป้อม”กันสุดตัว เพราะถ้าปล่อยให้พี่ใหญ่ตายในเรื่องนี้ จะสะเทือนกันไปทั้งรัฐบาล เพราะถือเป็น“มิสเตอร์ดีล”ที่คอยเดินเกมการเมือง ที่ต้องประคองไปถึงรัฐบาลชุดหน้า ถ้าหายไปสักคน แผนทั้งหมดที่วางเอาไว้เป็นอันจบเห่
ลำพังถูกเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปีก็สาหัส เพราจะทำให้ดำรงตำแหน่งอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะทางการทหาร อยู่เบื้องหลังไม่มีอำนาจเท่าเบื้องหน้า แต่ถ้าปล่อยให้ขึ้นเขียงโดนชี้มูลในฐานแจ้งเท็จ มันยังเสี่ยงที่จะโดนพ่วงอีกกระทง ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ ที่เป็นออปชั่นคู่กัน โทษคือ ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน แล้วอาจพ่วงด้วยโทษจำคุก
แต่ไม่ว่า จะรอดด้วยอิทธิฤทธิ์ฟอกขององค์กรตรวจสอบหรือไม่ แต่ปมนาฬิกาหรูแพงระยับเที่ยวนี้ บอกได้คำเดียว ทำเอา“บิ๊กป้อม”ตายในทางการเมืองเรียบร้อย โดยเฉพาะภาพลักษณ์ที่คนคาใจมานาน เพิ่มน้ำหนักเข้าไปอีก
เป็นทหารอะไรจะรวยขนาดนี้ !