ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักเรียนเตรียมทหาร “น้องเมย - ภคพงศ์ ตัญกาญจน์” ซึ่งระหว่างการสืบสวนที่เต็มไปด้วย “การชี้นำ” และ “บิดเบือน” โดยเฉพาะการออกมาให้ข่าวของคนระดับบิ๊กในกองทัพไทย
แถมยังมีขบวนการ “ล็อบบี้” วิ่งเคลียร์คดีกับครอบครัวอย่างขมีขมัน ดังปรากฏชื่อ “น้อง ต.” และ “เจ๊ ป.” คนดังแห่งค่ายลุงกำนันที่รับอาสาจาก “พี่ใหญ่” จนสังคมวิพากษ์วิจารณ์ให้เป็นที่ครึกโครม
ทั้งนี้ ความคืบหน้าล่าสุด จากการเรียกร้องความเป็นธรรมของ “ครอบครัวตัญกาญจน์” เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของน้องเมย โดยทางครอบครัวเปิดเผยผลชันสูตรอวัยวะภายในของน้องเมยที่ได้รับคืนจาก รพ.พระมงกุฎฯ
ซึ่งเป็นผลตรวจจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ปรากฏว่าพบข้อสงสัยเพิ่มเติม กรณี “เลือดคั่งในตับ-ม้าม” ซึ่งไม่ได้เกิดจากการทำ CPR โดยยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลเรื่องเลือดคั่งในตับ-ม้าม ไม่มีการเปิดเผย “ไม่มีการพูดถึง” ในผลชันสูตรจากสถาบันพยาธิวิทยา รพ.พระมงกุฎฯ ที่นำอวัยวะภายในไปผ่านพิสูจน์ครั้งแรก กระทั่งครอบครัวตัญกาญจน์ทราบจากผลชันสูตรดังกล่าว จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งทางครอบครัวต้องการคำตอบว่า ภาวะเลือดคั่งเกิดขึ้นที่อวัยวะภายในที่ห่างจากจุดที่ CPR นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
ร่องรอยการกระทบกระแทกอย่างรุนแรงของอวัยวะภายใน ยากที่จะปฏิเสธประเด็น “ถูกซ่อม” ซึ่งเป็นประเด็นที่มีน้ำหนักมากในกรณีการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารรายนี้ แม้ว่าทางหน่วยงานทหารจะกล่าวยืนยันก่อนหน้า ความว่า “เรื่องการทำโทษนั้น ยืนยันว่าขั้นตอนของการลงโทษเป็นไปตามขั้นตอนทางทหาร คือห้ามแตะเนื้อต้องตัวกัน เพราะผิดกฎหมาย” ก็ตาม
นอกจากนี้ ครอบครัวตัญกาญจน์ เปิดเผยต่อไปว่าได้รับข้อมูลจากผู้หวังดีเกี่ยวกับรายชื่อผู้เกี่ยวข้องและสาเหตุการเสียชีวิตของน้องเมย โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวันเสียชีวิต 17 ต.ค. 2560 แต่ครอบครัวยังขอปิดข้อมูลเป็นความลับเป็นหลักฐานในชั้นศาล
สำหรับความคืบหน้าผลชันสูตร ล่าสุด นายสมณ์ พรหมรส ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 ว่าจำเป็นต้องมีการตรวจยืนยันว่าเป็นอวัยวะของ นตท.ภคพงศ์จึงส่งชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ห้องปฏิบัติการกองสารพันธุกรรม ทว่า ผลการตรวจยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากสารพันธุกรรมผ่านการดองน้ำยาฟอร์มาลีนจึงมีการเสื่อมสลายมาก การตรวจวิเคราะห์รูปแบบสารพันธุกรรมทำได้ยากต้องใช้น้ำยาสกัดสารพันธุกรรมแบบพิเศษ Formalin-fixed Paraffin-embedded (FFPE) และต้องดำเนินการวิเคราะห์อย่างรอบคอบ
ประเด็นสำคัญคือ น้ำยาสกัดสารพันธุกรรมแบบพิเศษหมดเกลี้ยง จึงไม่สามารถตรวจวิเคราะห์ได้ขณะนี้ ซึ่งยังไม่มีงบจัดซื้อ ณ ตอนนี้จึงยังไม่สามารถสรุปสาเหตุการเสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังเหตุเสียชีวิตปริศนาของ น้องเมย - นตท.ภคพง ศ์ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ สร้างความเคลือบแคลงสงสัยต่อสังคมมากเหลือคณานับ โดยเฉพาะคำสัมภาษณ์จะชี้นำสาเหตุการเสียชีวิตจากปัญหาสุขภาพของเด็ก แสดงการบิดเบือนข้อเท็จจริง ไม่ยี่หระผลชันสูตรแต่อย่างใด
กระทั่งกลายเป็น “ประเด็นร้อน” เกิดการ “กดดันทางสังคม” หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำต้องกู้ศักดิ์ศรีตั้งคณะสืบสวนสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารรายนี้อีกครั้ง
24 พ.ย. 2560คำสั่งกองทัพไทยที่ 104/2560 สั่งย้าย “พ.อ.ฉัตรชัย ดวงรัตน์” ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการปัองกันประเทศ ( ผบ.กรม.นร.รร.ตท.สปท.) ไปอยู่ในตำแหน่ง นายทหารปฏิบัติการประจำ บก.ทท. ย้าย “พ.อ.เบญจพล เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา” รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ( ร.21 รอ.) ข้ามไปเป็น ผบ.กรม.นร.ตท.สปท. (พันเอกพิเศษ) แทน ย้าย “น.ท.นพศิษฐ์ เพียรชอบ” ผู้บังคับกองพันนักเรียน กรมนักเรียน โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ( ผบ.พัน.นร.กรม นร.รร.ตท.สปท.) ไปประจำ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ( นย.) และย้าย “น.ท. ประเสริฐศิลป์ วรสิษฐ์” หัวหน้านายทหารฝ่ายสรรพาวุธ ฝ่ายสรรพาวุธ นย. มาเป็น ผบ.พัน.นร.กรม นร.รร.ตท.สปท. แทน
นอกจากนี้ ยังมีผลการตรวจสอบเบื้องต้นของทางโรงเรียนเตรียมทหาร ชุดของ พล.ต.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ซึ่งการตรวจสอบแบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 ถูกรุ่นพี่ซ่อมเมื่อ 2 เดือนก่อนเหตุการณ์เสียชีวิต ในวันที่ 17 ต.ค. 2560จนทำให้หยุดหายใจไปชั่วขณะ และแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจจนกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง การสอบสวนพบว่า เป็นการทำเกินกว่าเหตุ จึงได้สั่งลงโทษผู้เกี่ยวข้อง และทางครอบครัวตัญกาญจน์ไม่ติดใจเอาความ
กรณีที่ 2 คือ เหตุการณ์วันที่ 17 ต.ค. ที่ทำให้เสียชีวิต โดยตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดทั้งหมด รวมถึงสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมทั้งเพื่อนๆ ผลการสอบสวนพบว่า ไม่พบว่าถูกผู้ใดทำร้ายและแพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ด้านกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งเป็นหน่วยบังคับบัญชาของโรงเรียนเตรียมทหาร ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกชุดขึ้น โดยมี พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร เป็นประธาน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่างๆ ว่า มีการกระทำเกินเลยกว่าที่ควรจะเป็นหรือไม่ อย่างการซ่อม ธำรงวินัย รวมทั้งอาการเจ็บป่วยจากการถูกซ่อมเดี่ยวก่อนหน้านี้มาจากสาเหตุอะไร ทว่า ยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาสอบสวนว่าแล้วเสร็จเมื่อใด
ย้อนกลับไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารและนายทหารปรากฏเป็นข่าวอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลเปิดเผยว่าทุกกรณีที่เกิดขึ้นกองทัพจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นการภายใน และมีเพียงไม่กี่กรณีเท่านั้นที่ผู้เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย อาทิ
1. กรณี “พลทหารยุทธกินันท์ บุญเนียม” ค่ายวิภาวดีรังสิต มณฑลทหารบกที่ 45จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตเพราะกล้ามเนื้อสลายจากการถูกทำร้ายร่างกาย จนไตวายเฉียบพลัน ต่อมา ศาลทหารอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 9 ราย แบ่งเป็นทหารและพลทหาร
2. กรณี “สิบโทกิตติกร สุธีพันธุ์” ค่ายวีรวัฒน์โยธินมณฑลทหารบกที่ 25 จ.สุรินทร์ เสียชีวิตจากเหตุรุมทำร้ายร่างกาย ขณะถูกคุมขัง ได้ถูกพลอาสาสมัครและสิบเวรผู้คุมเรือนจำ ค่ายวีรวัฒน์โยธิน พร้อมพวกรวม 4 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิด โดยทางครอบครัวยื่นฟ้องแพ่งต่อกองทัพบกเพื่อเรียกค่าเสียหายด้วย
3. กรณี “พลทหารวิเชียร เผือกสม” ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิตหลังถูกนายทหาร 10 นายร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยหลานสาวเดินหน้าร้องขอความเป็นธรรมโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ต่อมา มีการลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง
4. กรณี “สิบโทปัญญา เงินเหรียญ” กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 19จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตหลังหมดสติจากการถูกทำโทษถูกสั่งให้ออกกำลังกายหนักเกินไป
5. กรณี “พลทหารทรงธรรม หมุดหมัด” ค่ายพยัคฆ์ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เสียชีวิตจากการถูกทำโทษ ถูกซ่อมและทรมานทางร่างกาย
6. กรณี “สิบโทกิตติกร สุธีพันธุ์” ค่ายวีรวัฒน์โยธินมณฑลทหารบกที่ 25 จ.สุรินทร์ เสียชีวิตเพราะถูกรุมทำร้ายร่างกายในเรือนจำ
7. กรณี “ร้อยตรีสนาน ทองดีนอก” หน่วยฝึกกรมทหารราบที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ เสียชีวิตระหว่างฝึก ถูกบังคับให้ว่ายน้ำเกินกำลังที่ร่างกายจะทนได้ ทำให้จมลงสู่ก้นสระ
8. กรณี “พลทหารสมชาย ศรีเอื้องดอย” ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตโดยผลชันสูตรระบุว่าติดเชื้อไข้หวัดนก แต่ญาติไม่ปักใจเชื่อ เพราะพลทหารบอกญาติก่อนเสียชีวิตว่าถูกนายทหารลงโทษด้วยการใช้ปี๊บคลุมศีรษะ ถูกอาวุธตีที่ศีรษะและร่างกาย
9. กรณี “พลทหารนพดล วรกิจพันธ์” ค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กลับมาเสียชีวิตที่บ้านพักหลัง โดยแพทย์แจ้งผลว่า มีเลือดคั่งในทรวงอก ปอด และหัวใจฉีก ม้ามแตก สาเหตุจากการโดนกระแทกอย่างรุนแรง ญาติสงสัยถูกซ่อมจึงเรียกร้องความเป็นธรรม
10. กรณี “พลทหารอดิศักดิ์ น้อยพิทักษ์” สังกัดกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 15 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 5 เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2560เสียชีวิตจากสาเหตุติดเชื้อในช่องท้องจากลำไส้ทะลุ ญาติสงสัยถูกซ่อมโดนซ้อมทรมานร่างกาย ขณะกองทัพยืนยันผลชันสูตรป่วยโรคประจำตัว
11.กรณี “นตท.กรัณฑ์ อรชร” นักเรียนเตรียมทหาร ร.ร.เตรียมทหาร จ.นครนายก เสียชีวิตจากเหตุ “ถูกซ่อม” โดยถูกบังคับให้ดื่มน้ำปริมาณ 40 ลิตร เป็นการลงโทษระหว่างหลับเวร ฯลฯ
จวบจนกรณีการเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหาร “น้องเมย ” แม้สาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่การออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมของ “ครอบครัวตัญกาญจน์” ได้สะท้อนปัญหาที่ซุกใต้พรมในโรงเรียนเตรียมทหาร “เงื่อนงำ” “การชี้นำ” “บิดเบือน” “ปิดบัง” และ “ความจริง” ที่สังคมเฝ้ารอคำตอบ