xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ตูนฟีเวอร์” ปรากฏการณ์ #ก้าวคนละก้าว ผู้ชายธรรมดาที่หัวใจไม่ธรรมดา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ออกสตาร์ทสร้างปรากฏการณ์ “ตูนฟีเวอร์” ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ของ “ตูน บอดี้สแลม” หรือ “อาทิวราห์ คงมาลัย” ร็อกสตาร์ดังผู้กลายมาเป็น “ฮีโร่ในหัวใจคนไทย” ในภารกิจวิ่งระดมทุน 700 ล้านบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์แก่ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ จากสุดเขตแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา ไปจนถึงเหนือสุดแดนสยาม อ.แม่สาย จ.เชียงราย รวมระยะทาง 2,191 ก.ม.

ทุกย่างก้าวถักทอความสมัครสมานสามัคคีของคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียวกันการวิ่งจากใต้สุดจรดเหนือสุดของ “ตูน บอดี้สแลม” ด้วยแรงใจแรงกายเต็มร้อยสู่ที่หมายอย่างมุ่งมั่น เริ่มต้นจุดสตาร์ทซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งชายแดนใต้ “พื้นที่สีแดง” ใน3 จังหวัด “จ.ปัตตานี” “จ.ยะลา” และ “จ.นราธิวาส” กับ 4 อำเภอของ “จ.สงขลา” คือ อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย ซึ่งที่รู้กันว่าเป็นพื้นที่ความขัดแย้งมาตลอดระยะเวลา 13 ปี ระหว่าง “เจ้าหน้าที่รัฐ” กับ “ขบวนการแบ่งแยกดินแดน” ที่เกิดความรุนแรงขึ้นหลายระลอก มีผู้คนล้มตายบาดเจ็บและพิการหลายพันหลายหมื่นคน

“พื้นที่สีแดง” ที่คนภายนอกไม่ปรารถนาย่างกายเข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะเข้าใจว่าเป็น “พื้นที่อันตราย” ทว่า ร็อกสตาร์ผู้นี้ได้ตัดสินใจเลือกพื้นที่ชายแดนใต้เป็น “จุดสตาร์ท” ในการออกวิ่งเพื่อภารกิจระดมทุน กระทั่ง สร้างปรากฏการณ์แห่งความรักสมัครสมานสามัคคีในหัวใจคนไทย แม้ปลายทางยังอีกไกล แต่ ณ วันนี้ ก้าวของ “ตูน บอดี้สแลม” ได้สมานแผลฉกรรจ์ที่ปลายด้ามขวานพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว


และด้วยกิริยามารยาทอ่อนน้อมไม่ถือตัว ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างให้เกียรติยิ่งส่งผลให้ “ตูน บอดี้สแลม” เป็นที่รัก ไม่ว่าจะวิ่งไปยังแห่งหนตำบลใดก็มีผู้คนมารอให้กำลังใจและร่วมบริจาคทำบุญอย่างชื่นมื่นตลอดเส้นทางที่ขบวนวิ่งผ่าน

“ตูน บอดี้สแลม” และเพื่อนๆ วิ่งผ่านชุมชนผ่านป่าเขา วิ่งตากแดดตากสายฝนอย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย เต็มเปี่ยมความมุ่งมั่นไม่หวั่นต่อสภาพอากาศแม้แดดร้อนหรือฝนตก ขณะปฏิกิริยาของผู้คนในพื้นที่อย่างชายแดนใต้ จะเห็นว่าตลอดเส้นทางวิ่ง “ก้าวคนละก้าว” ได้สร้างปรากฏการณ์ที่มิเคยเกิดขึ้นมาก่อน “รอยยิ้ม” และ “ความสุข” แผ่กระจายไปทั่วบริเวณ ผู้คนในพื้นที่ต่างพากันออกมาต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ออกมาร่วมบริจาคเงิน ออกมาร่วมขบวนวิ่ง และไม่พลาดที่จะถ่ายภาพ “เซลฟี่กับร็อกสตาร์”

เป็นประจักษ์ว่า ตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา การออกวิ่งระดมทุนเพื่อสาธารณะประโยชน์ของ “ตูน บอดี้สแลม” ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม เกิดกระแส “ตูนฟีเวอร์” ในทุกพื้นที่ที่เขาได้วิ่งผ่าน กลายๆ ว่า ความสุขที่ห่างหายจากชายแดนใต้มาเนินนานกลับคืนสู่มาตุภูมิอีกครั้ง

“ตูนฟีเวอร์” สร้างปรากฏการณ์รวมพลังความสามัคคีของผู้คนในแผ่นดินไทยเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยไม่แบ่งแย่งถึงเชื้อชาติศาสนาหรือเพศวัยที่แตกต่าง กิจกรรมครั้งนี้ส่งผลให้ทุกคนร่วมทำความดีโดยมี “ตูน บอดี้สแลม” เป็นจุดศูนย์กลางเป็นพลังอันทรงค่าเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกัน

ขณะที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งการให้กองทัพช่วยดูแลการวิ่งของ “ตูน บอดี้สแลม” ในกิจกรรมวิ่งการกุศลครั้งนี้ โดยมอบหมายให้ทุกกองทัพภาค กล่าวคือทหารจะช่วยดูแลตลอดเส้นทางที่ขบวนวิ่งผ่าน โดยเฉพาะพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ช่วยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่


อาจกล่าวได้ว่าทุกก้าวของ “ตูน บอดี้สแลม” นำมาซึ่งรอยยิ้มแก่พ่อแม่พี่น้องชาวใต้ และนำมาซึ่งขวัญกำลังใจแก่บรรดาเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานในพื้นที่ชายแดนใต้ กลายเกิดภาพความทรงจำประทับใจที่แชร์กันในโลกออนไลน์ เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจกว่า 300 นาย เรียงแถวให้กำลังใจส่งท้ายภารกิจดูแลฮีโร่ผู้นี้ บริเวณรอยต่อเขตพื้นที่ จ.ปัตตานี เข้าสู่พื้นที่ จ.สงขลา

และต้องยอมรับความจริงกันตรงๆ ว่า “ตูน บอดี้สแลม” ทำในสิ่งที่รัฐบาลไหนๆ ไม่เคยทำได้

แม้กิจกรรมวิ่งระดมทุนของในครั้งนี้มิอาจดับไฟใต้ให้มอด แต่มีการวิเคราะห์ตรงกันว่าการวิ่งในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” จากชายแดนใต้จรดเหนือสุดแดนสยามของร็อกสตาร์ดังขวัญใจคนไทยผู้นี้ นำ “เมล็ดพันธุ์อันดีงาม” เข้ามาบ่มเพาะในหัวใจของคนส่วนหนึ่งในพื้นที่แห่งความขัดแย้ง ซึ่งกำลังงอกงามในหัวใจของคนปลายด้ามขวานเพื่อที่จะสร้าง “สันติสุข” ลดความขัดแย้งในพื้นที่สีแดง ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ภาครัฐ โดย กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ควรพัฒนาให้เป็นต้นกล้าพันธุ์ดีเติบโตต่อไป

และแน่นอนว่า กิจกรรมครั้งนี้กระทบต่อ “กลุ่มบีอาร์เอ็นฯ” และ “กลุ่มสุดโต่ง” ในพื้นที่ชายแดนใต้ เป็นอย่างมาก เพราะเยาวชนมุสลิมชาย-หญิง จำนวนมากออกมาร่วมกิจกรรมกับ “ตูน บอดี้สแลม” ในรูปแบบพหุวัฒนธรรมอันเป็นการอยู่ร่วมของคนทุกศาสนาในพื้นที่เดียวกันอย่างเต็มอกเต็มใจ

การนี้สังคมไทยจึงได้เห็นปรากฏการณ์จาก “กลุ่มสุดโต่ง” ที่ยังคงพยายามสร้างวัฒนธรรมเชิงเดี่ยวเข้มข้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้โซเชียลฯ โจมตีและประณามผู้ที่เป็นมุสลิมที่เข้าร่วมกิจกรรมกับตูนในครั้งนี้ว่าเป็นการกระทำผิดหลักการศาสนา ทั้งในเรื่องการ “บริจาคเงิน” และการ “เซลฟี่กับตูน”

นัยสำคัญของการออกโจมตีของ “บีอาร์เอ็นฯ” และ “กลุ่มสุดโต่ง” นั่นเป็นเพราะเกิดหวาดวิตกว่า หากเยาวชนมุสลิมเข้าร่วมกิจกรรมลักษณะนี้บ่อยครั้งขึ้น อาจจะทำให้บีอาร์เอ็นฯ สูญเสียมวลชนและสร้างมวลชนรุ่นใหม่เข้าสู่ขบวนยากขึ้น

และไม่ว่า “ตูน บอดี้สแลม” จะวิ่งถึงปลายทางเหนือสุดแดนสยามหรือวิ่งไปไกลสุด ณ จุดใดของประเทศ สิ่งสำคัญวันนี้คนไทยได้รวมพลังแสดงความสามัคคีเป็นที่ประจักษ์ โดยการร่วมบริจาคร่วมส่งเสียงเชียร์กึกก้อง

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแส “ตูนฟีเวอร์” เป็นหนึ่งในประเด็นฮิตที่โซเชียลมีเดียให้ความสนใจมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องราวส่วนของร็อกสตาร์ผู้นี้ที่นำไปค้นหาในเสิร์ชเอ็นจิ้น สร้างไทม์ไลน์เรื่องเก่าเล่าใหม่ตอกย้ำความฮอตของ “ตูน บอดี้สแลม” เป็นต้นว่า เรียนดีมีดีกรีบัณฑิตจากคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กิจกรรมเด่นทั้งดนตรีหรือกีฬาอย่างปิงปอง ฯลฯ

รวมทั้ง เรื่องหวานใจผู้อยู่เคียงข้างเขาไม่ว่ายามสุขหรือยามทุกข์ ซึ่งมาร่วมวิ่งในโครงการครั้งนี้ด้วย “ก้อย - รัชวิน วงศ์วิริยะ” ดีเจและนักแสดง ซึ่งได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวโดยให้กำลังใจแฟนหนุ่ม “ตูน บอดี้สแลม” ความว่า
รอยยิ้มของ “ก้อย รัชวิน” แฟนสาวที่มองหน้า “ตูน” สะท้อนให้เห็นถึงความรักและความภาคภูมิใจที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม

“ตราบใดที่พี่ไม่เหนื่อย หนูก็ไม่เหนื่อย ตราบใดที่พี่มีความสุข หนูก็มีความสุข และถ้าตอนไหนพี่เหนื่อย ก็แค่หันมาข้างๆ หนูจะคอยเติมพลังให้ เพราะสิ่งเดียวที่หนูอยากได้ คือ "รอยยิ้ม" ของพี่ ในทุกๆ วัน”

สำหรับความเป็นมาของ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” ถือเป็นการต่อยอดจากโครงการวิ่งระดมทุนเพื่อการกุศลในครั้งก่อน ย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2559 “ตูน บอดี้สแลม” ปลุกประแสสังคมชวนคนไทยทั่วประเทศมาช่วยเหลือโรงพยาบาลขนาดกลางแห่งหนึ่งใน อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน” โดยทำการระดมทุนด้วยการวิ่งระยะไกล เริ่มต้นจาก กรุงเทพฯ สิ้นสุดที่ รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมเป็นระยะทาง 400 กม.

เข้าสู่ปี 2560 สู่ก้าวครั้งใหม่ใน “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” เบตง - แม่สาย รวมระยะทาง2,191 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 25 ธ.ค.2560 ตั้งเป้าระดมทุน 700 ล้านบาท วิ่งเพื่อการกุศลนำเงินไปช่วยสมทบทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ

“ก้าวคนละก้าว” มีการวางแผนประชาสัมพันธ์โครงการมาเป็นอย่างดี ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน รวมทั้ง ทีมงานฯ ระดับหัวกะทิจากหลายแขนง ซึ่งมีการนำเทคโนโลยทันสมัยมาเป็นเครื่องมือสร้างการรับรู้อย่างกว้างขว้าง นำเสนอเรื่องราวผ่านสื่อต่างๆ ตอบโจทย์คนในยุคดิจอตอล เป็นต้นว่า จัดทำเว็บไซต์ https://www.kaokonlakao.com และเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/kaokonlakao อัปเดตข้อมูลเรียลไทม์ ตัวเลขการบริจาค ระยะทางการวิ่ง รวมทั้ง มีการ Live ถ่ายทอดสดการวิ่งของให้ผู้สนใจได้ติดตามอย่างใกล้ชิด เปิดช่องทางรองรับการร่วมบริจาคการกุศลแก่ประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง เพื่อบรรลุเป้าหมายระดมทุน 700 ล้านในการสร้างสาธารณะประโยชน์

รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา การวิ่งระดมทุนของ “ตูน บอดี้สแลม” ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม สร้างปรากฏการณ์ “ตูนฟีเวอร์” กลายเป็น “วาระแห่งชาติ” ที่สะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า กระทั่งคนไทยทั้งประเทศยกให้เขาเป็น “ฮีโร่” เป็น “คนต้นแบบ” ที่กล้าออกมาทำเรื่องดีๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์

ทว่า แม้จะได้รับการยกย่องสรรเสริญเพียงใด แต่ชายผู้นี้เลือกจะยกคุณงามความดีทั้งหมดแก่คณะทำงานผู้ปิดทองหลังพระ

“...ไม่อยากให้ทุกคนลืมเป้าหมายของการวิ่งครั้งนี้ว่า เราจะช่วยกันเรื่องอะไร เราจะรวบรวมเงิน ไปช่วยใคร ที่ไหน ไม่อยากให้ทุกคนลืม มีคนที่สมควรถูกเรียกว่า "ฮีโร่" "วีรบุรุษ" กว่าผมเยอะ ผมไม่กล้ารับตรงนั้น มีคุณหมอ คุณพยาบาล ที่โรงพยาบาลรัฐ ผมออกวิ่งมาแค่ 8 วัน แต่คุณหมอ คุณพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรัฐ "วิ่งมาแล้วทั้งชีวิต และจะวิ่งต่อไป”

“...ฮีโร่ตัวจริงอยู่ที่โรงพยาบาลทำงานอยู่ตรงนู้น ไม่ได้อยู่บนเวทีนี้แต่อย่างใด อยากให้ทุกคนให้กำลังใจพวกเขา ไม่แน่ว่าวันใดวันหนึ่งเราอาจต้องให้เขาช่วย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าเราไม่อยากให้เขาช่วยเราก็ต้องดูแลตัวเองให้ดี ด้วยการออกกำลังกาย...” ตูน บอดี้สแลม กล่าว (ณ โรงเรียนบ้านบ่อแดง อ.สทิงพระ จ. สงขลา เมื่อ8 พ.ย. 2560)


เป็นคำตอบที่สร้างรอยยิ้มในหัวใจของใครหลายคน และเชื่อว่าอีกหลายคนอาจน้ำตารื้นด้วยความปลาบปลื้มในหลักคิดของผู้ชายคนนี้

...ถึงตรงนี้ กล่าวได้ว่า ปรากฏการณ์ตูน บอดี้สแลมเกิดขึ้นเพราะเขากล้าทำเรื่องเล็กๆ ที่โคตรจะยิ่งใหญ่ในหัวใจคนไทย นั่นคือตั้งใจทำอย่างจริงจังเพื่อบ้านเพื่อเมือง และสิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นนับแต่วันแรกที่วิ่งจากเบตงสะท้อนให้เห็นศรัทธาของพี่น้องชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่มีต่อ “คนธรรมดาๆ” อย่างตูนแบบที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อน

เป็นก้าวที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนและสังคม
จะมีสักกี่คนในบ้านเมืองนี้ทำได้อย่างตูน บอดี้สแลม
ตูนไม่ได้ดีแต่พูด แต่ตูนทำให้เห็น

ตูนไม่ได้ใช้เงิน ใช้อำนาจสร้างศรัทธา แต่ใช้หัวใจอันบริสุทธิ์ทำในสิ่งที่เขามุ่งมั่นเพื่อตอบแทนสังคม

นั่นคือสิ่งที่คนไทยปรารถนา โดยเฉพาะในยุคที่ไม่อาจถวิลหาได้จากผู้มีอำนาจในบ้านนี้เมืองนี้

เพียงแค่ “การวิ่ง” ยังสามารถสร้างปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทยได้ขนาดนี้ แล้วคุณล่ะกล้าที่จะ “ก้าวคนละก้าว” ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองเหมือนอย่างตูน บอดี้สแลมบ้างหรือไม่




ขอขอบคุณ
ภาพบางส่วนจาก Vin buddy หรือ ภูริต เนติมงคลชัย


กำลังโหลดความคิดเห็น