xs
xsm
sm
md
lg

ที่ออสเตรเลีย ไม่มีบกพร่องโดยสุจริต

เผยแพร่:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


รัฐบาลของ ฯพณฯ มัลคอม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีของประเทศออสเตรเลีย กำลังเผชิญกับอาการร่อแร่ที่รัฐนาวาของเขาอาจต้องพลิกคว่ำลงในต้นเดือนธันวาคมนี้ เพราะเขาเป็นรัฐบาลที่มีเสียงสนับสนุนในสภาชนิดเส้นยาแดงผ่าสี่ คือ มีเสียงเกินครึ่งในสภาล่างแค่เสียงเดียว และเสียงเดียวนี้ก็เพิ่งถูกศาลสูงตัดสินว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ตุลาคมนี้ว่า เป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็น ส.ส.อีกต่อไป เพราะเขาขาดคุณสมบัติที่จะสมัครเข้าเป็น ส.ส.ตั้งแต่ต้นแล้ว

ท่านนายกฯ มัลคอม ต้องเผชิญกับปัญหาที่ไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะพบเจอ เพราะมันไม่ใช่ปัญหาที่มาจากการบริหารราชการสักหน่อย ทว่าเป็นปัญหากระทบต่อความอยู่รอดของรัฐบาลจากเสียง 1 เสียงนี้แหละที่จะชี้เป็นชี้ตายต่อรัฐบาลอย่างไม่น่าเชื่อ

เสียง 1 เสียงนี้คือ ส.ส.ของพรรคร่วมรัฐบาลที่ดำรงตำแหน่งสำคัญเป็นถึงท่านรองนายกรัฐมนตรีชื่อ ฯพณฯ บาร์นาบี จอยส์ ซึ่งเพิ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งรองนายกฯ เมื่อวันที่ 19 กรกฎาปีที่แล้วนี่เอง

ปัญหาขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.ของท่านบาร์นาบีก็คือ เขาถือสองสัญชาติ คือ สัญชาติออสเตรเลีย และสัญชาตินิวซีแลนด์ ซึ่งรัฐธรรมนูญอายุ 116 ปี (เริ่มใช้เมื่อ ค.ศ. 1901) มีบทบัญญัติข้อห้ามมิให้ ส.ส./ส.ว.มีสองสัญชาติ โดยเจาะจงลงไปว่า ส.ส./ส.ว.จะต้องมีความภักดีต่อประเทศออสเตรเลียเท่านั้น จะถือสัญชาติอื่นควบคู่กันไปไม่ได้เด็ดขาด

นายบาร์นาบีเป็นถึงหัวหน้าพรรค National Party ซึ่งเป็นแนวร่วมรัฐบาล และเขาให้การในศาลว่า เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขามีสัญชาตินิวซีแลนด์ด้วย ทั้งนี้ ก็เพราะพ่อของเขาเกิดที่นิวซีแลนด์ แล้วย้ายมาตั้งรกรากที่ออสเตรเลีย ดังนั้น พ่อของเขาก็มีสองสัญชาติ และเมื่อนายบาร์นาบีมีพ่อที่มีสัญชาตินิวซีแลนด์ด้วย เขาเองก็เลยมีสัญชาตินิวซีแลนด์ด้วยโดยอัตโนมัติ แม้ว่านายบาร์นาบีจะเกิดที่ออสเตรเลียก็ตาม และเจ้าตัวก็ไม่รู้ ไม่เห็นด้วยซ้ำว่า ตัวเองมีสัญชาติตามพ่อด้วย โดยมีทะเบียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ (ตามระบบคอมพิวเตอร์ทะเบียนราษฎร์) ว่าเขามีสัญชาติตามบิดาโดยอัตโนมัติ

ศาลพิจารณาว่า นายบาร์นาบีไม่ได้ปฏิเสธสัญชาตินิวซีแลนด์ของตนอย่างเป็นทางการ คงให้ค้างในทะเบียนนิวซีแลนด์ไว้อย่างนั้น เขาก็เลยมีความผิดในฐานะมีสองสัญชาติ ตามรัฐธรรมนูญออสเตรเลียที่เคร่งครัดห้ามคนถือสองสัญชาติเป็น ส.ส./ส.ว. (และอาจเป็นได้ถึงรมต., รองนายกฯ และนายกฯ ได้) เนื่องจากรัฐธรรมนูญออสเตรเลียเน้นเรื่องความภักดีต่อประเทศเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

ก่อนหน้านี้ รมต.หญิงฟิโอนา แนช (Fiona Nash) ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค National Party ของนายบาร์นาบีก็เกิดถูกฝ่ายค้านยกเรื่องซักฟอกในสภา ว่าเธอถือ 2 สัญชาติเช่นกันคือ ถือสัญชาติออสเตรเลีย และสัญชาติอังกฤษ โดยสัญชาติอังกฤษนั้น เธอได้รับมาโดยอัตโนมัติในเมื่อพ่อของเธอถือสัญชาติอังกฤษ (เขาเป็นชาว Scot) ซึ่งทำให้เธอหมดสิทธิจะเป็น รมต.เพราะการถือสองสัญชาตินี้แหละ
<b>รมต.หญิงฟิโอนา แนช</b>
ในการตัดสินของศาลสูง เมื่อวันศุกร์นี้ ปรากฏมี ส.ว.ถึง 4 คนที่ต้องขาดคุณสมบัติ เนื่องจากการถือสองสัญชาติ ทั้งๆ ที่ 4 คนปฏิเสธไม่รู้เห็นเป็นใจกับสัญชาติที่ 2 ที่แต่ละคนได้รับโดยอัตโนมัติ ผ่านทางการสืบสัญชาติจากบุพการี (คนใดคนหนึ่งถือสืบต่อจากพ่อหรือจากแม่)

ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีพลเมืองจากประเทศในเครือจักรภพเดินทางไปตั้งรกรากมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากอังกฤษ, แคนาดา, นิวซีแลนด์, อินเดีย และประเทศในเครือจักรภพนี้ ยังรวมถึง Gibrata ดินแดนปลายใต้สุดของสเปนที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ รวมถึงเกาะ Falkland ที่อยู่ติดประเทศอาร์เจนตินา และดินแดนในครอบครองของอังกฤษช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เช่น กรีซ, ไซปรัส ซึ่งผลพวงของจักรวรรดิอังกฤษที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้ กำลังแผลงฤทธิ์ต่อ ส.ส./ส.ว.ของออสเตรเลียที่วันนี้บางคนเป็น รมต.ในคณะรัฐบาล แล้วฝ่ายค้านนำเรื่องเข้าตรวจสอบคุณสมบัติของ รมต.ว่า ขาดคุณสมบัติเป็น รมต.ต่อไปไม่ได้ เพราะแอบถือ 2 สัญชาติ

หลายคนที่โดนข้อหานี้ มีทั้งที่เป็น รมต., ส.ส., ส.ว. ของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่ส่วนใหญ่เป็นฝ่ายรัฐบาล ก็ทำให้เสถียรภาพรัฐบาลต้องสั่นคลอนจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง แต่ที่ออสเตรเลียถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะความจงรักภักดีต่อชาติของตนในเมื่อตัวเองเป็น ส.ส., ส.ว., รมต., รมช., รองนายกฯ, นายกฯ ต้องมีชาติเดียวเท่านั้นเป็น 1 ในดวงใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างทุ่มเทหมดหัวใจ ไม่ต้องพะวงว่าตัวเองจะมีหลายใจไว้เผื่อแผ่ผลประโยชน์ของประเทศอื่นด้วย

เรื่องราววุ่นวายทางการเมืองครั้งนี้ของออสเตรเลียชี้ให้เห็นว่า แม้ท่านรองนายกฯ บาร์นาบี และรมต.ฟิโอนา จะไม่รู้ไม่เห็นถึงสัญชาติที่สองที่ตนเองได้รับโดยอัตโนมัติ

และตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจเลยก็ตาม แต่ที่ออสเตรเลียจะยกเอาเหตุผลว่า “บกพร่องโดยสุจริต” มาใช้ไม่ได้ เพราะกฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์เสมอหน้า ถึงคุณจะใหญ่ขนาดรองนายกฯ และรมต.ก็ตาม

ช่างต่างกับประเทศไทย ที่เคยปล่อยให้วายร้ายตัวโจกหลุดได้ก็เพราะประโยคว่า “บกพร่องโดยสุจริต” นี้เอง ซึ่งต่อมาได้สร้างความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองอย่างเหลือคณานับ
กำลังโหลดความคิดเห็น