ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - สำหรับประชาชนที่ต้องการชมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ นั้น ถึงแม้ว่าพื้นที่โดยรอบท้องสนามหลวงจะสามารถจุคนได้ถึง ๒๕๐,๐๐๐ คน แต่จะมีประชาชนจำนวน ๔๐,๐๐๐ - ๕๐,๐๐๐ คนเท่านั้นที่จะสามารถเข้ามารับชมพระราชพิธีเคลื่อนริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
ทั้งนี้ ประชาชนที่จะมาร่วมในพระราชพิธีนี้ ต้องพกบัตรประชาชนและเตรียมอาหารและน้ำมาด้วย ซึ่งจุดคัดกรองมีทั้งหมด ๙ จุด ได้แก่ ๑.แยกสะพานมอญ ๒.ท่าช้าง ๓.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๔.แม่พระธรณีบีบมวยผม ๕.ถนนกัลยาณไมตรี ๖.แยกสะพานช้างโรงสี ๗.แยกวัดพระเชตุพนฯ ๘.ท่าพระจันทร์ และ๙.ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยประตูจุดคัดกรอง จะเปิดในเวลา ๐๕๐๐ น. ของวันที่ ๒๕ ตุลาคม และประชาชนสามารถอยู่ได้ถึงวันที่ ๒๖ ตุลาคมจนเสร็จสิ้นพระราชพิธี
สำหรับพื้นที่ที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมมี ๗ จุด ดังนี้
จุดที่ ๑ บริเวณประตูเทวาภิรมย์ พระบรมมหาราชวัง ถนนมหาราช จากแยกท่าช้าง ถึงท่าเตียน รับประชาชนได้ ๒,๕๐๐ คน
จุดที่ ๒ บริเวณท่าเตียน และวัดโพธิ์ จากถนนท่าเตียน ถึง สามแยกเชตุพน รับประชาชนได้ ๒,๕๐๐ คน
จุดที่ ๓ ตลอดเส้นทางบริเวณศาลฎีกา ถึง สะพานผ่านพิภพลีลา รองรับประชาชนได้ ๑๕,๕๐๐ คน
จุดที่ ๔ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง บริเวณถนนพระธาตุ ถึง โรงละครแห่งชาติ รองรับได้ ๖,๕๐๐ คน
จุดที่ ๕ ถนนมหาราช ฝั่งกำแพงพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ด้านข้างสนามหญ้าประตูเทวาภิรมย์
จุดที่ ๖ คือ ถนนท้ายวัง ฝั่งกำแพงพระบรมมหาราชวัง และ
จุดที่ ๗ ริมกำแพงพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย
ริ้วขบวนที่ ๑ วันที่ ๒๖ ต.ค. ๒๕๖๐ เชิญพระโกศทองใหญ่ ลงจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดิษฐฐานบนพระยานมาศสามลำคาน ออกจากพระบรมมหาราชวัง ผ่านทางประตูเทวาภิรมย์ ใช้เส้นทางถนนมหาราชเลี้ยวเข้าสู่ถนนท้ายวัง มุ่งหน้าถนนสนามไชย บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ริ้วขบวนที่ ๒ เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ โดยเกรินบันไดนาค บริเวณวงเวียนหน้าหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ยาตราขบวน ผ่านสวนสราญรมย์ ผ่านกระทรวงกลาโหมศาลหลักเมือง เข้าสู่ถนนราชดำเนินในเข้าสู่ท้องสนามหลวงบริเวณหน้าศาลฎีกา
ริ้วขบวนที่ ๓ เชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถ ประดิษฐานบนราชรถปืนใหญ่ ตั้งขบวนเข้าสู่ราชวัติ เวียนพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ หรือเวียนซ้าย 3 รอบ จากนั้น เทียบราชรถปืนใหญ่ที่เกรินบันไดนาคพระเมรุมาศ เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน
ริ้วขบวนที่ ๔ วันที่ ๒๗ ต.ค. ๒๕๖๐ ขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ออกจากพระเมรุมาศ บริเวณหน้าศาลฎีกา ไปตามถนนราชดำเนินในเข้าสู่ถนนหน้าพระลาน ขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระบรมราชสรีรางคาร โดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย แยกเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารพักไว้ที่พระศรีรัตนเจดีย์ ส่วนขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญ พระโกศพระบรมอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน เข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ผ่านประตูพิมานไชยศรี เชิญพระโกศพระบรมอัฐิเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ริ้วขบวนที่ ๕ วันที่ ๒๙ ต.ค. ๒๕๖๐ ขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
ริ้วขบวนที่ ๖ ขบวนกองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีรางคารจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่ง ออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนกัลยาณไมตรี ข้างกระทรวงกลาโหมไปตามถนนอัษฎางค์ เลียบคลองหลอด ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จากนั้นขบวนกองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีางคาร จากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม โดยรถยนต์พระที่นั่งย้อนกลับเส้นทางเดิม เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน ผ่านสะพานผ่านพิภพลีลา สู่ถนนราชดำเนินกลาง ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเลี้ยวเข้าสู่ถนนพระสุเมรุ มุ่งหน้าไปยังวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร เพื่อบรรจุพระบรมราชราชสรีรางคาร