xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

๑ ปีที่ “พ่อ” จากไป ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นับตั้งแต่วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
จนถึงวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐
๓๖๕ วันแห่งความโศกเศร้าอาดูรถูกจารึกในหัวใจของคนไทยอย่างไม่เสื่อมคลาย

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เสียงร่ำไห้ดังระงมทั่วทั้งแผ่นดินด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง หลังจากสำนักพระราชวังประกาศว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ นาฬิกา

ตลอดระยะเวลา ๑ ปีที่ผ่านมา ไม่มีวันใดที่ปวงชนชาวไทยไม่น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณใน“พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างสุดหัวใจจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดใดๆ ได้


นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๙ ทรงมุ่งมั่นประกอบพระราชกรณียกิจอย่างมากมาย ใต้ร่มพระบารมี ๗๐ ปี แห่งการครองราชย์นำมาซึ่งประโยชน์สุขของปวงชนและความเจริญงอกงามของประเทศชาติ ดังถ้อยคำจากพระราชหฤทัย “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” อันส่งผลให้พระองค์สถิตอยู่ในดวงใจของพสกนิกรไทยตราบชั่วนิรันดร์

ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรไทย ทำให้ตลอดระยะเวลาที่สำนักพระราชวังเปิดให้เข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง บรรยากาศเนืองแน่นไปด้วยพสกนิกรไทยทั่วสารทิศเข้าแถวรอกราบสักการะเป็นจำนวนมาก

แม้ฝนจะตกหรือแดดจะร้อนสักเพียงใดก็มิอาจขวางกั้นความรักของคนไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งพระองค์นี้

ขณะเดียวกัน ด้วยพระบารมีที่แผ่ไพศาลไปทั่วโลก พระประมุข ประมุข และผู้นำนานาอารยประเทศต่างแสดงความอาดูรต่อการเสด็จสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตลอดจนเดินทางเข้าถวายราชสักการะ ถวายสักการะพระบรมศพฯ และเตรียมเข้าร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ เช่น สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ แห่งญี่ปุ่น, สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก แห่งราชอาณาจักรภูฏาน, เจ้าชายโฮกุน มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์, สมเด็จอัครมหาเสนาเดโชฮุน เซน นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา, ยาโนซ อาเดร์ ประธานาธิบดี แห่งสาธารณรัฐฮังการี, สมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซียพระองค์ที่ 14 ตวนกู อับดุล ฮาลิม, นายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว, ประธานาธิบดีโทนี ตัน แห่งสิงคโปร์ ฯลฯ


กระนั้นก็ดี แม้การสูญเสียพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งจะนับเป็นความวิปโยคโศกศัลย์ที่สุดในชีวิตของคนไทย ทว่า ก็ได้สร้างปรากฏการณ์หลอมรวมดวงใจของพสกนิกรที่แตกสลายให้กลายเป็นหนึ่ง แสดงออกถึงความจงรักภักดีเป็นประจักษ์ไปทั่วโลก

ภายหลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร 50 วัน ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พสกนิกรร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นพระราชกุศล

และนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดเกล้าฯ ขยายเวลาเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จากกำหนดเดิมระหว่างวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐ เป็นเวลาเที่ยงคืนของวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ได้อย่างทั่วถึง

รวม ๓๓๗ วัน มีประชาชนเข้าร่วมกราบถวายบังคมพระบรมศพฯ รวมทั้งสิ้น ๑๒,๗๓๙,๕๓๑ คน และถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงินทั้งสิ้น ๘๘๙,๕๔๕,๑๐๐.๐๑ บาท

และประชาชนคนสุดท้ายที่มีโอกาสเข้ากราบถวายสักการะเป็น “สุภาพสตรีอุ้มเด็กน้อย” หลังเจ้าหน้าที่ “ปิดจุดคัดกรอง” บริเวณตรงข้ามโรงแรมรัตนโกสินทร์ ออกมาเพียงเสี้ยวนาทีในเวลา ๐๐.๐๙ นาฬิกา ล่วงเข้าวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๐

เธอเปิดเผยความรู้สึกต่อคณะสื่อมวลชนที่ปักหลักรอทำข่าวว่า “ขอให้ครั้งหนึ่งในชีวิตได้เข้ากราบพระบรมศพฯ” โดยไม่ขอเปิดชื่อหรือให้สัมภาษณ์มากมายนัก เพียงแต่บอกเล่าว่า คนไทยทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่าขอให้ครั้งหนึ่งในชีวิตได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพฯ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทำการปิดประตูวิเศษไชยศรี เป็นการสิ้นสุดการเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

อย่างไรก็ดี สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงรับรู้ถึงพลังความรักอันประเสริฐสุด ความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทย จึงโปรดเกล้าฯ ให้ทำซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เพื่อให้ประชาชนสามารถถวายดอกไม้สักการะ ในวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดย พล.อ.ท.ภักดี แสงชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาประดิษฐานข้างกำแพงพระบรมมหาราชวัง พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๘.๐๐ นาฬิกาเป็นต้นไป ยกเว้นวันซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ในวันที่ ๑๕, ๒๑ และ ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

สำหรับ ซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ ประกอบด้วยพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์เดียวกันกับที่ประดิษฐานด้านหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยถูกตกแต่งด้วยสีฟ้า แสดงถึงวันพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ โดยมีพานพุ่มสีทองตั้งอยู่ขนาบข้าง ด้านบนมีสัญลักษณ์พระมหาพิชัยมงกุฎประดับอยู่บนยอด ภายในมีเลขเก้าไทยอยู่ตรงกลาง แสดงถึงเลขรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และปรมาภิไธย ภปร โดยมีพานพุ่มสีทองตั้งอยู่ขนาบข้าง ส่วนด้านล่างตั้งโต๊ะหมู่บูชาเครื่องราชสักการะตามพระราชประเพณี และมีเครื่องทองน้อยที่แสดงถึงเจ้านายที่ไม่ทรงพระชนม์ ด้านหน้าบริเวณทางเดินหน้าซุ้มพระบรมฉายาลักษณ์ มีโต๊ะและพานสีเงินจำนวน ๙ พาน เพื่อรองรับดอกไม้และพวงมาลัยจากประชาชนที่จะเข้าถวายสักการะ

ขณะเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ยังได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั้ง “จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” เพื่อเป็นการรวมพลังความรักอันมีค่า รวมพลังน้ำใจของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมกล้าฯ ส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยด้วยหัวใจอันจงรักและภักดี

ประกอบด้วยกิจกรรมจิตอาสาเฉพาะกิจ ๘ ประเภท ประกอบด้วย งานดอกไม้จันทน์ งานประชาสัมพันธ์ งานโยธา งานขนส่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชน งานบริการประชาชน งานแพทย์ งานรักษาความปลอดภัย และงานจราจร สำหรับใช้ในกิจกรรมจิตอาสาเฉพาะกิจระหว่างวันที่ ๑๘-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยเปิดรับสมัครมาตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน ๒๕๖๐ โดยมีประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมสมัครเป็นจิตอาสาจำนวนมาก

ทั้งนี้ ยอดผู้ลงทะเบียนวันตั้งแต่วันที่ ๑-๒๘ กันยายน ๒๕๖๐ รวมทั้งสิ้น ๒,๙๙๐,๖๑๑ คน และจิตอาสาทุกคนจะได้รับสิ่งของพระราชทาน ประกอบด้วย บัตรประจำตัวจิตอาสา เสื้อโปโลสีดำ หมวกแก๊ปสีฟ้า ผ้าพันคอสีเหลืองประชาชนจิตอาสา และปลอกแขน

เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๐ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชกระแสทรงขอบใจประชาชนชาวไทยที่ร่วมบำเพ็ญประโยชน์เป็นจิตอาสา และช่วยเหลืองานพระบรมศพและงานด้านต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นการทำดีด้วยหัวใจ ความว่า

“ขอขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้พร้อมกันมาถวายสักการะพระบรมศพ อย่างพร้อมเพรียงด้วยความจงรักภักดี ด้วยน้ำใจบริสุทธิ์งดงาม อีกทั้งพร้อมใจกันบำเพ็ญประโยชน์เป็นจิตอาสา และช่วยเหลืองานพระบรมศพและงานด้านต่างๆ อย่างเต็มกำลังความสามารถ เป็นการทำด้วยหัวใจ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

“บัดนี้ การถวายพระเพลิงพระบรมศพ จะเป็นไปด้วยความสมบูรณ์เรียบร้อย และสมพระเกียรติ เชื่อว่าการทำความดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความทุ่มเทเสียสละ และด้วยความสมัครสมานสามัคคีของประชาชนชาวไทยในครั้งนี้ หากพระพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงทราบด้วยพระญาณวิถีใดๆก็ตาม จะทรงชื่นชมโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง

“จึงขอขอบใจทุกๆ ท่าน ด้วยความซาบซึ้งอย่างที่สุดจากหัวใจ ด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง”

การนี้นำมาซึ่งความปลื้มปีติแก่เหล่าพสกนิกรยิ่ง

ไม่เพียงเท่านั้น ความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยยังสร้างปรากฏการณ์เหลืองสะพรั่งทั้งแผ่นดิน หลังรัฐบาลเชิญชวนประชาชนชาวไทยให้ร่วมกัน “ปลูกดาวเรือง” หรือดอกไม้ที่มีสีเหลืองในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างวันที่ ๒๕-๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ เพื่อถวายความอาลัยและร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี ผ่านการปลูกดอกไม้ประดับบ้านเรือนประชาชน รวมทั้ง อาคารสถานที่หน่วยงานห้างร้านต่างๆ ซึ่ง ณ เวลานี้ทุกพื้นทั่วประเทศไทยเต็มไปด้วยดอกดาวเรือง ที่ประชาชนร่วมปลูกและเลือกหามาประดับตบแต่ง และพร้อมจะบานสะพรั่งในช่วงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงโพสต์ภาพในอินสตาแกรมส่วนพระองค์ เป็นภาพและคลิปวิดีโอต้นดาวเรืองสีเหลืองอร่ามประดับอยู่รอบซุ้มธารน้ำตก โดยพระองค์ทรงโพสต์ข้อความว่า “#ดาวเรืองเต็มไปหมดรอบไปบ้าน #ปลูกดาวเรืองถวายพ่อของพวกเรา”

บัดนี้ พสกนิกรไทยทั้งผองรวมใจเป็นหนึ่งเข้าสู่ห้วงเวลานับถอยหลังไปสู่การส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สู่สวรรคาลัยในวันที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐

ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมศิระกาน กราบแทบเบื้องพระยุคลบาท ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้.





กำลังโหลดความคิดเห็น