xs
xsm
sm
md
lg

รมต.สาธารณสุขของทรัมป์ “ต้องออก”-เมื่อโกงภาษีปชช.

เผยแพร่:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


มันเป็นอาทิตย์ที่ทรัมป์ต้องเผชิญกับ “ความพ่ายแพ้” ในหลายๆ ด้าน

เริ่มจากเวทีการลงคะแนนเลือกตั้งตัวแทนพรรครีพับลิกัน (Primary) เพื่อไปแข่งขันเป็นวุฒิสมาชิกประจำรัฐ Alabama ซึ่งทรัมป์ได้ลงไปช่วยหาเสียงให้กับนักการเมืองคนเดิม ขณะที่ Steve Banon ได้ไปหาเสียงให้กับผู้สมัครหน้าใหม่ที่ไม่เคยลงสมัครมาก่อน ผู้สมัครที่ทรัมป์ไปหาเสียงให้กลับแพ้คะแนนเสียง แม้นายทรัมป์จะไปทั้งออดอ้อนและข่มขู่ว่า ผู้สมัครที่เขาสนับสนุนนั้นแพ้ไม่ได้ ถ้าแพ้ก็แสดงว่านายทรัมป์ก็จะแพ้ด้วย ขณะที่ Steve Banon บอกว่านายทรัมป์ไปเข้าข้างผู้สมัครที่ไม่มีทางชนะ เพราะมันเป็นแนวโน้มที่ผู้ลงคะแนนจะไม่ลงคะแนนให้นักการเมืองหน้าเก่าอีกต่อไปแล้ว ก็เหมือนที่นายSteve Banon ได้ช่วยนายทรัมป์หาเสียงจนเขาชนะได้เป็นประธานาธิบดีก็เพราะนายทรัมป์เป็นคนนอก ไม่ใช่นักการเมืองหน้าเก่า และตอนนี้นายSteve Banon ก็กำลังเดินสายสนับสนุนผู้สมัครหน้าใหม่ในอีกหลายๆ รัฐที่กำลังคัดตัวผู้สมัครของพรรคไปแข่งในสนามวุฒิสภาต่อไป

เรื่องนี้จะทำให้พรรครีพับลิกันยิ่งแตกแยกกันมากขึ้นด้วย

การสอบสวนเรื่องรัสเซียแทรกแซงการเมือง/การเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็เดินหน้าต่อไป และล่าสุดลูกเขยคนโปรดของนายทรัมป์ Jared Kushner ก็ถูกเปิดเผยว่า ได้ใช้โทรศัพท์ส่วนตัวปนไปกับโทรศัพท์ของทางการ (ที่มีการป้องกันด้านความมั่นคง) ซึ่งก็คล้ายๆ กับที่ฮิลลารี คลินตัน โดนสอบสวนว่ามีความผิดที่ไปใช้ E-mail ปนกัน ทำให้ความลับราชการรั่วได้ และยังมีที่ปรึกษาของนายทรัมป์ที่ทำเนียบขาวอีกหลายคนที่พลาดแบบนายJared และจะถูกอัยการพิเศษสอบในเรื่องโทรศัพท์นี้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีต่อนายทรัมป์

เรื่องสงครามคำพูดยั่วยุท้าทายที่ร้อนฉ่าระหว่างทรัมป์และคิมน้อยที่เกาหลีเหนือ ตอบโต้ว่าสหรัฐฯ ได้ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือแล้ว จนโฆษกทำเนียบขาวต้องออกมาปฏิเสธพัลวัน ซึ่งนายทรัมป์คงไม่อยากให้ออกมาปฏิเสธหลอก เพราะเขาน่าทำตามที่เขาได้ขู่ไว้คือจะทำลายเกาหลีเหนือให้ราบคาบ ไม่ใช่ออกมาปฏิเสธอย่างเสียรังวัดแบบนี้ แล้วยังมีข้อมูลจากวอชิงตันโพสต์ ที่ย้ำว่า ทางเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายพยายามติดต่อขอเจรจากับสหรัฐฯ ซึ่งก็ได้รับคำปฏิเสธไม่ยอมส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมเจรจาด้วย แม้แต่คำเชิญของเกาหลีเหนือขอให้นักวิชาการในพรรครีพับลิกันไปเยือนเกาหลีเหนือ ก็ยังถูกปฏิเสธเช่นกัน พอรายงานวอชิงตันโพสต์ ออกมาปรากฏว่า รมต.ต่างประเทศ Rex T. ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า สหรัฐฯ และเกาหลีเหนือมีความพยายามกำลังเจรจากันอย่างไม่เป็นทางการ... เท่านั้นเอง ปธน.ทรัมป์ออกมาทวิตเตือนรมต. Rex ว่าอย่าไปเสียเวลากับการเจรจากับเจ้าหนูมนุษย์จรวด

เรื่องพายุเฮอริเคน Maria ถล่มเปอโตริโกดินแดนในอารักขาของสหรัฐฯ (เป็นเกาะอยู่ในทะเลแคริเบียน มีประชากรอเมริกันอาศัยอยู่ถึง 3 ล้าน 5 แสนคน) ที่เสียหายหนักหนาสาหัส คนตายเกือบ 20 คน และไฟฟ้าขาดเกือบทั้งเกาะ, ถนนขาด, ไม่มีน้ำมันเติมรถ, การขนส่งน้ำ อาหารและยาหยุดหมด จริงๆ แล้วพายุถล่ม 7 วัน ความช่วยเหลือจาก FEMA (Federal Emergency Management Agency) หน่วยงานความช่วยเหลือด่วนจากรัฐบาลกลางควรไปถึงใน 1-2 วันแรก แต่กลับไปช้า เพราะสื่อมวลชนไม่ได้รายงานมากเท่ากับเฮอริเคน Harvy ที่ถล่ม Housten,Texas และเฮอริเคน IRMA ที่ถล่มฟลอริดา (มีรีสอร์ตของนายทรัมป์ตั้งอยู่ด้วย) ที่ได้รับความช่วยเหลือเต็มที่ ชาวเปอโตริโกได้ถล่มประธานาธิบดีเสียย่อยยับที่ส่งความช่วยเหลือไปช้า และไม่นับพวกเขาเป็นอเมริกันเหมือนกับคนอเมริกันที่แผ่นดินใหญ่หรือไม่? เกาะนี้เป็นที่พักตากอากาศของคนอเมริกัน และมีคนอเมริกันไปปักหลักถาวรที่นั่นมากมาย

เรื่องการที่นักกีฬาอเมริกันฟุตบอลออกมานั่งคุกเข่าประท้วงที่นายทรัมป์ไปช่วยปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครคัดตัวแทนพรรคไปลงสมัครวุฒิสภาที่รัฐ Alabama และอยู่ๆ ก็ไปตำหนิการคุกเข่าของนักกีฬาผิวดำ เมื่อเริ่มแข่งฟุตบอล นักฟุตบอลผิวสี (และมีผิวขาวร่วมด้วย) ได้ร่วมกันคุกเข่าต่อหน้าธงชาติขยายวงมากยิ่งขึ้น ไม่พอใจคำพูดของนายทรัมป์จนมีนักร้องเข้าร่วม เช่น Bobby Seal เป็นต้น ยิ่งทำให้ประเทศยิ่งแตกแยกระหว่างผิวดำและผิวขาว

เมื่อวันศุกร์ก็ได้มีการอนุมัติการลาออกของรมต.สาธารณสุข (Health and Human Services) ซึ่งเป็นกระทรวงใหญ่และมีความสำคัญมากสำหรับนายทรัมป์ ที่ได้หาเสียงตลอดหนึ่งปีครึ่ง ช่วงก่อนเลือกตั้งปธน.ที่เขาสัญญาว่าจะเลิกกฎหมาย Obamacare ที่ใช้มา 7 ปีมีข้อตำหนิมากมาย และรมต.สาธารณสุขของเขาจะเป็นผู้เดินหน้าเลิกกฎหมายนี้ให้ได้ ปรากฏว่า นายทรัมป์เลือกคุณหมอ Tom Price ซึ่งเคยเป็น ส.ส.จากรัฐจอร์เจียหลายสมัย และจะเป็นตัวเชื่อมกับสภาผู้แทนและวุฒิสภาเพื่อยกมือเลิกกฎหมาย Obamacare ได้สบายๆ

คุณหมอ Tom Price กลับกลายเป็นตัวปัญหาซะเอง

ก่อนอื่น หมอ Tom กลับไม่สามารถไปเกลี่ยกล่อมสมาชิกวุฒิสภาให้ลงคะแนนเลิกกฎหมาย Obamacare และลงคะแนนรับร่างใหม่ จนนาทีนี้ก็คงไม่มีหวังแล้ว หลังจากแพ้ Vote ไป 1 รอบ และรอบสองจะเอาเข้ามาอีก ก็คงไม่รอดเช่นเคย ทั้ง John McCain, Susan Collins, and Rand Paul ออกมาประกาศจะ Vote No ร่างกฎหมายใหม่จึงตายสนิท

ที่ร้ายที่สุดคือ คุณหมอ Tom Price กลับใช้อำนาจหน้าที่ผลาญเงินภาษีประชาชนไปถึงกว่า 1 ล้านดอลลาร์ภายใน 4 เดือนจากพฤษภาคม-สิงหาคม โดยเดินทางด้วยเครื่องบินเอกชนเหมาลำ (Chartered Luxury Jet) หรือโดยเครื่องบินราชการ (แบบเหมาลำ) หรือเครื่องบินทหาร โดยเอางานราชการบังหน้า (จะไปหาเสียงสนับสนุนให้คว่ำ Obamacare และรับร่างใหม่ของพรรครีพับลิกัน)

บางทีเดินทางใกล้ๆ ซึ่งในรัฐบาลก่อนของโอบามา รมต.จะยอมนั่งรถไฟไปราชการ (เช่น รองปธน. Joe Biden) เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย คือซื้อตั๋วรถไฟ หรือซื้อตั๋วเรือบินนั่งปนไปกับผู้โดยสารอื่นๆ)

แต่คุณหมอ Tom Price นั่งเครื่องบินเหมาลำตลอด บางทีบอกจะไปตรวจงานที่รัฐบ้านเกิดตนเอง ไปถึงก็ไปตรวจงานแค่ 2-3 ชั่วโมง แล้วมีนัดกินข้าวกลางวันกับลูกชายแล้วค้างคืน แล้วบินกลับ เสียค่าใช้จ่ายเหมาลำสูงมาก (ชั่วโมงละ 25,000 ดอลลาร์-สำหรับเครื่องบินทหาร)

มีครั้งหนึ่งบินไปกับภรรยา บอกจะไปตรวจงาน แต่ปราฏว่าไปตรวจงานราชการประมาณ 1 ชั่วโมง เวลาที่เหลือกลับไปกับภรรยาไปดูรีสอร์ตที่คุณหมอ Tom และภรรยากำลังพัฒนาก่อสร้างอยู่

สื่อ Politico เอามาเปิดโปงถึงการเหมาลำเดินทางด้วยระยะที่ใกล้มาก (ควรไปด้วยรถไฟ) และไม่ใช่ราชการด่วนอะไรเลย ไม่ใช่ราชการลับด้วย มีเรื่องธุรกิจส่วนตัวแอบซ่อนอยู่ ทั้งหมด 26 ครั้งที่เหมาลำใน 4 เดือน ผลาญเงินภาษีประชาชนไปกว่า 1 ล้านเหรียญ

ที่สำคัญตอนที่คุณหมอ Tom เป็น ส.ส.อยู่ได้อภิปรายฟาดฟันอดีตประธานสภา Nancy Pelosi สมัยประธานาธิบดีโอบามาว่า ใช้เครื่องบินเหมาลำผลาญเงินภาษีไปตรวจราชการหรือประชุม แทนที่จะซื้อตั๋วเรือบินนั่งปนไปกับผู้โดยสารอื่น แต่ตัวเองกลับผลาญเงินได้เลวร้ายกว่า Pelosi มากนัก

เรื่องคุณหมอ Tom Price นี้ ทำเอาปธน.ทรัมป์อารมณ์เสีย ถูกผู้สื่อข่าวจวกแทบทุกวันตลอด 1 อาทิตย์ จนคุณหมอ Tom ได้ออกมาประกาศขอโทษประชาชน และบอกจะไม่ทำอีก จะระวังในการใช้จ่ายค่าเดินทาง

แต่ก็สายไป เพราะนายทรัมป์ไม่มีทางเลือกนอกจากปลดออกลูกเดียว ก็เลยให้หมอ Tom เขียนจดหมายลาออก และอนุมัติทันทีโดยไม่มีคำพูดสรรเสริญขอบคุณการทำงานใดๆ

เรื่องการเดินทางนี้ ยังมี รมต.คลัง Steve Mnuchin ก็เคยเอาเครื่องบินทหารเหมาลำ พาศรีภรรยา (อดีตดาราหนัง) ไปฮันนีมูนไปดูสุริยุปราคาที่เมืองที่มองเห็นชัด แล้วก็เอาการประชุมเรื่องงบประมาณมาบังหน้า และยังมีรมต.มหาดไทย Ryan Zinke ก็ปฏิบัติเช่นเดียวกัน

รัฐมนตรีทั้ง 3 คนต่างแก้ตัวว่า การเดินทางเหมาลำของพวกเขาได้ผ่านการอนุมัติจากทำเนียบขาวอย่างถูกต้อง

ตอนนี้ทำเนียบขาวเลยออกระเบียบใหม่ที่รัดกุมยิ่งขึ้น กับการอนุมัติเบิกจ่ายค่าเดินทางของรมต.เพื่อไม่ผลาญภาษีของประชาชนอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น