xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“บิ๊กอ้อม” เปล่งประกายเหนือ “บิ๊กแดง” “ว่าที่ ผบ.ทบ.” ลงตัวที่ “สายตรงวงษ์สุวรรณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ในที่สุด “เลือดก็ย่อมข้นกว่าน้ำ”

บทพิสูจน์นี้คือสัจธรรมที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง

แต่ที่ข้นกว่าเลือดเสียยิ่งกว่าก็คือ “บูรพาพยัคฆ์” เพราะฉะนั้น วงศ์เทวัญ วงศ์รบพิเศษ หรือวงศ์ไหนๆ จะมาเจิดจรัสเหนือกว่า พลพรรคเสือตะวันออก ย่อมไม่มีทางเป็นไปได้ในยุคนี้

ดังนั้น จงอย่าแปลกใจที่ในการแบ่งงาน “5 เสือ ทบ.” ที่ “บิ๊กเจี๊ยบ” พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท เพิ่งลงนามไปสดๆ ร้อนๆ จะมอบหมายงานสำคัญ “ล่วงหน้า” ให้กับ “บิ๊กอ้อม” - พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้รับตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกอย่างเป็นทางการ ซึ่งนั่นส่งผลให้เป็นที่คาดหมายกันว่า เก้าอี้ว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่สืบต่อจากบิ๊กเจี๊ยบจะเป็นใครเสียไม่ได้นอกจาก “น้องรักของป๋าป้อม” คนนี้

ส่วน แม่ทัพแดง-พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ว่าที่ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ที่ก่อนหน้านี้ประหนึ่งจะเป็น “ตัวเต็ง ผบ.ทบ.” สืบต่อจาก บิ๊กเจี๊ยบ ชั่วโมงนี้ อย่าว่าแต่เต็งหนึ่งหรือเต็งสองเลย ราคาต่อรองที่จะมีลุ้นเก้าอี้ลดฮวบอาบลงไปอยู่อันดับบ๊วยเลยเสียด้วยซ้ำไป เผลอๆ มีสิทธิหลุดวงโคจรพ้นจากกองทัพบกไปอยู่ห่างไกลศูนย์อำนาจเสียด้วยซ้ำไป

แต่จะเป็นสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หรือกองบัญชาการกองทัพไทย ก็ขึ้นอยู่วาสนา

คำสั่ง กองทัพบก(เฉพาะ) ที่ 1250 / 60 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ของ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก, เสนาธิการทหารบก และรองเสนาธิการทหารบก อันเป็นคำสั่งในการมอบหมายงานของ พล.อ.เฉลิมชัยคือสิ่งที่ยืนยันเส้นทางสายดังกล่าวได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมชัย ได้มอบหมายให้ บิ๊กอ้อม พล.ท.วีรชัย เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(1) รับผิดชอบงานและเอกสารในสายงานด้านกำลังพล , กิจการพลเรือน และงานพิเศษที่กองทัพบก มอบหมาย

ส่วนบิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ ผู้ช่วยผบ.ทบ.(2) รับผิดชอบงาน และเอกสารในสายงานส่งกำลังบำรุง และงานพิเศษที่กองทัพบก มอบหมาย...เห็นภาระงอนของบิ๊กแดงแล้ว เป็นเจ้าตัวคงต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่กันเลยทีเดียว

ด้าน บิ๊กเล็ก พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเสธ.ทบ. ว่าที่เสนาธิการทหารบก รับผิดชอบงานและเอกสารในสายงานการข่าว, ยุทธการ, การฝึกศึกษาทางทหาร , กิจการต่างประเทศ ,ปลัดบัญชี

ทั้งนี้ มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2560 เป็นต้น

เหตุผลที่ชั่วโมงนี้ “บิ๊กอ้อม” ดูจะมีราศีมากขึ้นทุกที เห็นทีจะหนีไม่พ้นปัจจัยเรื่องการสืบทอดอำนาจ ดังนั้น ความไว้ใจจึงมีความสำคัญที่สุดในสถานการณ์ทางการเมืองที่เขม็งเกลียวขึ้นมาทุกที

บูรพาพยัคฆ์ย่อมไว้ใจในบูรพาพยัคฆ์ด้วยกัน

นี่เป็น “เงื่อนไขพิเศษ” ที่แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ “รบพิเศษ” เบเร่ต์แดงอย่าง พล.อ.เฉลิมชัยสามารถฝ่าฟันจนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง “ผู้บัญชาการทหารบก” สืบต่อจาก “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีรชัย นาควานิช

ดังนั้น จึงอย่าแปลกใจที่เส้นทางแห่งอนาคตของ “บิ๊กแดง” พล.ท.อภิรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 1 สายวงศ์เทวัญ ว่าที่ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ไม่สดใสมาตั้งแต่ครั้งวางไลน์ 5 เสือ ทบ.ใหม่เพราะมีการรื้อโผตาม “ใบสั่ง” ในช่วงโค้งสุดท้าย ที่ปรากฎชื่อ “บิ๊กอ้อม” พล.ท.วีรชัย ซึ่งเป็น “น้องเลิฟ” ของ “พี่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พุ่งพรวดขึ้นรถไฟความเร็วสูงมาเป็น“ผู้ช่วย ผบ.ทบ.” ระนาบเดียวกับ “บิ๊กแดง” พร้อมสร้างประวัติศาสตร์เป็น ผบ.นรด.คนแรกที่แทรกเข้าไลน์แห่งอำนาจ 5 เสือ ทบ.สำเร็จ

และพิสูจน์ชัดอีกครั้งแบบไม่ต้อง “ลับ ลวง พราง” ให้เสียเวลา เมื่อ พล.อ.เฉลิมชัย ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน ลงนามในคำสั่งแบ่งงาน “5 เสือ ทบ.” ออกมาล่วงหน้า .. โดยมอบหมายให้ “บิ๊กอ้อม” เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.คนที่ 1 รับผิดชอบงานด้านกำลังพล-กิจการพลเรือน-ภารกิจพิเศษ ในขณะที่ “บิ๊กแดง” เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.คนที่ 2 รับผิดชอบงานสายงานส่งกำลังบำรุง-ภารกิจพิเศษ ซึ่งพิเคราะห์ดูแล้วภาระที่รับผิดชอบนั้น มิได้มีความสำคัญแต่ประการใด

สัญญาณดังกล่าวจึงมิอาจตีความเป็นอย่างอื่นได้ว่า เป็นการสกัดบิ๊กแดงไม่ให้ไปถึงเก้าอี้สูงสุดของกองทัพบก
กระนั้นก็ดี การที่ “บิ๊กอ้อม” ได้เป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.คนที่ 1 ถือว่าเหมาะสม ด้วยความอาวุโสในฐานะ รุ่นพี่เตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 18ของบิ๊กแดง (ตท. 20)และถ้าในที่สุดจะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะมิได้มีอะไรที่ด่างพร้อย

แต่หากดูที่เนื้องานการดูแล “กำลังพล” ในช่วงที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่า น่าสังเกตอยู่ไม่น้อย เนื่องเพราะเส้นทางของ “บิ๊กแดง” นั้นเดินมาในสายคุมกำลังเป็น “ผู้การ-แม่ทัพ” แบบไม่ขาดตอน ส่วน “บิ๊กอ้อม” แม้จะมีรากเหง้าจาก “ค่ายบูรพาพยัคฆ์” กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) และ กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 รอ.) ทำงานใกล้ชิดกับ “บิ๊กป้อม” มาก่อน แต่ก็ไม่ได้อยู่ในสายคุมกำลัง

แถมในช่วงที่หลุดโค้งไปสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ก็ไปรั้งตำแหน่ง ผอ.สำนักส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร และเจ้ากรมวิทยาศาสตร์ทหารบก ก่อนได้ “อิทธิฤทธิ์พี่ป้อม” ดึงกลับมาโตที่ ทบ.ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนักในประวัติศาสตร์กองทัพบก

การแบ่งงานให้ “บิ๊กอ้อม” คุมกำลัง “บิ๊กแดง” เป็นส่วนสนับสนุน จึงถูกตีความว่า เป็นการประกาศอย่างไม่เป็นทางการว่า“บิ๊กอ้อม ศ.วงษ์สุวรรณ” คือ ผบ.ทบ.คนต่อไปแทบจะแน่นอนแล้ว

ที่สำคัญคือ พอจะมี “ช่องว่าง” หรือ “ข้ออ้าง” อันอมตะนิรันดร์กาลที่จะอธิบายต่อกองทัพและต่อตัวบิ๊กแดงด้วยว่า “ให้พี่เขาก่อน น้องรอทีหลัง”ได้อย่างเนียนๆ เนือ่งเพราะ “บิ๊กอ้อม” จะเกษียณอายุราชการในปี 2562 ส่วน “บิ๊กแดง” เกษียณถัดจากนั้นไปอีก 1ปี

และบิ๊กแดงที่ได้ชื่อว่าเป็น “น้องรัก” ของ “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็คงจะต้องกลืนเลือดยอมรับสภาพโดยดุษฎี

หรือดีไม่ดีอาจมีรายการเขี่ย “บิ๊กแดง” พ้นเส้นทางข้ามห้วยไปกินอัตราจอมพลในสำนักปลัดกลาโหมหรือกองบัญชาการกองทัพไทย ก็เป็นได้ เพราะงานนี้ ป๋าป้อมได้ส่ง “บิ๊กต่าย พล.ท.ณัฐพลขึ้นมาเป็นเสนาธิการทหารบก ซึ่งสามารถสอดแทรกและปาดหน้า “บิ๊กแดง” จ่อคิวอยู่อีก

ถามว่า ถ้าสถานการณ์ดำเนินไปเช่นนั้นจริง “นายกฯ น้องตู่” จะกล้าขัดใจ “รองนายกฯ พี่ป้อม” ได้หรือไม่ เพราะยุคนี้เป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้วว่า “สายตรงตึกไทยฯ” ที่ว่าแน่หรือจะสู้ “สายตรงป่ารอยต่อฯ” หรือ “สายตรงวงษ์สุวรรณ” ได้

เพราะ “นายกฯ น้องตู่” มีวันนี้เพราะพี่ให้ และประกาศชัดเจนในงานวันคล้ายวันเกิด “รองนายกฯ พี่ป้อม” ให้ทราบโดยทั่วกันแล้วว่าจะ “อยู่กันไปทั้งชาติ”


กำลังโหลดความคิดเห็น