ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เรียกว่า เป็น “มหาศึก” ที่ดุเดือดเลือดพล่านกันเลยทีเดียวสำหรับ “โผทหาร” รอบล่าสุด โดยเฉพาะ “กองทัพบก” เนื่องจากเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า กำลังภายในของ “ป๋าป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ที่ก่อนหน้านี้ทำท่าว่าจะ “แผ่วๆ” ไป กลับมามีสัญญาณชัดอีกครั้ง
ก็ไม่รู้ว่าด้วยประโยคสำคัญจากปากของ “นายกฯ น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อครั้งที่ประกาศต่อหน้าธารกำนัลเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประวิตรที่ว่า “อยู่กันไปทั้งชาติ”หรือไม่ ที่ทำให้ “ระบอบวงษ์สุวรรณ” ฟื้นคืนชีพอย่างทรงพลัง เพราะเสมือนหนึ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่าง “พี่ป้อมกับน้องตู่” ที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในทุกมิติ
ดังนั้น แม้บรรยากาศเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่ พล.อ.ประวิตรและพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมใจกันเดินทางไปร่วมอวยพรจะแลดูชื่นมื่น แต่ลึกๆ แล้ว สังคมรับรู้ได้ว่า สถานการณ์ไม่ต่างอะไรจาก Game of Thrones หรือ มหาศึกชิงบัลลังก์ ที่แต่ละฝ่ายไม่มีใครยอมใคร เพราะโผล่าสุดที่ปรากฏออกมา สายบูรพาพยัคฆ์วางกำลังกันยาวๆ ชนิดที่ “สายอื่นๆ” รวมทั้ง “สายป๋า” ถูกเบียดตกขอบในแทบทุกเก้าอี้ แถมไม่ใช่วางแค่ชั้นเดียวเชิงเดียว หากแต่มองเกมยาวกันหลายชั้นอีกต่างหาก
ทั้งนี้ กล่าวสำหรับ “โผทหาร” ในปีนี้นั้น เก้าอี้ที่ลงตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากบารมีของป๋าป้อมก็คือ “เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)” ที่น้องรักของ พล.อ.ประวิตรคือ บิ๊กต๋อม-พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม แหกด่านกลายเป็นเสือข้ามห้วยนั่งเก้าอี้ตัวนี้อย่างสบายใจเฉิบด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อเป็นการเปิดทางให้ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำรัฐมนตรีกลาโหม น้องรักของป๋าป้อมอีกคนหนึ่งเข้าสู่ตำแหน่งรองปลัดกระทรวงกลาโหม และจ่อคิวผงาดเป็นปลัดกระทรวงกลาโหมในปี 2561
แต่เก้าอี้ตัวอื่นๆ ดูเหมือนจะมีปัญหาพอสมควร โดยเฉพาะในกองทัพบก
และแน่นอน เก้าอี้ที่สั่นสะเทือนที่สุดก็คือ “เก้าอี้ ผบ.ทบ.” ที่แม้ในปีนี้ “บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท” นายทหารรบพิเศษเบเร่ต์แดงจะยังคงนั่งเก้าอี้ตัวเดิม ไม่ขยับไปไหน แต่ป๋าป้อมได้ส่งคนของตนเองเข้าไปอยู่ใน “ไลน์อำนาจ” พร้อมขยับยึดเบอร์หนึ่งทัพบกไทยหลังการเกษียณอายุราชการของบิ๊กเจี๊ยบปลายปีหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ที่สำคัญคือ งานนี้ “เต็งหนึ่ง” หรือ “เต็งหาม” ที่มีชื่อนอนมาเป็นเวลานานสองนานอย่าง “บิ๊กแดง พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” แม่ทัพภาค 1 สายวงศ์เทวัญซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “น้องรัก” ของ พล.อ.ประยุทธ์ เห็นทีจะยุ่งยากอยู่ไม่น้อย เพราะแม้จะเข้าไลน์ “5 เสือ ทบ.” เป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(ผช.ผบ.ทบ.) แบบนอนมาเพื่อชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ.คนถัดไป แต่ก็ใช่จะมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ
เนื่องเพราะเก้าอี้อีก 2 ตัวของ 5 เสือ ทบ.ที่เหลือ ปรากฏว่า งานนี้มีน้องเลิฟในบัญชีของ “ระบอบวงษ์สุวรรณ” เข้าไลน์มาเบียดชนิดหายใจรดต้นคอ
เก้าอี้ตัวแรก “รอง ผบ.ทบ.” ที่ว่างลงจากการเกษียณอายุราชการของ “พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร” คู่ชิง ผบ.ทบ.กับบิ๊กเจี๊ยบปีที่แล้ว คาดว่าจะตกเป็นของ บิ๊กต้อ พล.อ.สสิน ทองภักดี เสนาธิการทหารบก(เสธ.ทบ.) ตท.17
ส่วนโผเก้าอี้ตัวที่เหลือคือ 1 เสธ.ทบ.และ 1 ผช.ผบ.ทบ.นั้นน่าจับตาเป็นอย่างยิ่งเพราะเห็นได้ชัดว่า ไม่ธรรมดาจริงๆ เนื่องจากสามารถดันน้องรักคือ “บิ๊กอ้อม” พล.ท.วีรชัย อินทุโศภน ผบ.หน่วยบัญชาการ รักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ตท.18 ขึ้นเป็น ผช.ผบทบ. สำเร็จ ถือเป็น ผบ.นรด.คนแรกในประวัติศาสตร์เลยกระมังที่สามารถเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.ได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะเดินทางเข้าร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 260ซึ่งเป็นที่มาของประโยคสะท้านแผ่นดิน “อยู่กันไปทั้งชาติ”
พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร เดินทางเข้าอวยพร พล.อ.เปรม ติณสูลานท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด
พล.ท.วีรชัย น้องรักที่อยู่ พล ร.2 รอ. มากับป๋าป้อมนั้น มีอายุราชการถึง ปี 2562 พร้อมที่จะชิง ผบทบ. ในปลายปีหน้า กับ “บิ๊กแดง” ที่ขึ้น ผช.ทบ.ทบ.ที่มีอายุราชการถึง ตค.ปี 2563 อีกด้วย
พล.ท.วีรชัยคือบูรพาพยัคฆ์แท้ๆ เพราะเติบโตมาจากกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(ร.2.รอ.) และกรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์(ร.12 รอ.) ซึ่งไม่เพียงแต่สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตรเท่านั้น หากยังเป็นน้องรักของ บิ๊กหมู พล.อ.ธีรชัย นาควานิช อดีต ผบ.ทบ.ที่ปัจจุบันเป็นองคมนตรีอีกด้วย
พล.ท.วีรชัยรอคิวเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.มาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายก็ยอมให้ ตท.รุ่นพี่ก้าวไปตามระบบอาวุโสก่อน และปีนี้ก็ถึงคิวที่ ตท.18 อย่างบิ๊กอ้อมได้ฤกษ์เข้าสู่วงโคจรลุ้นเก้าอี้ ผบ.ทบ.เสียทีด้วยแรงสนับสนุนจากทั้งพี่ป้อมและบิ๊กเจี๊ยบ
นอกจากนี้ ยังมีข่าวหลุดออกมาด้วยว่า “บิ๊กเล็ก” พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองเสธ.ทบ. (ตท.2) 0 ติดอยู่ในโผที่จะขึ้น เสธ.ทบ. เพื่อชิงเก้าอี้ ผบ.ทบ. กับ พล.ท.อภิรัชต์ เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 20 ด้วยกันอีกหนึ่งคนด้วยและมีชื่อของ บิ๊กเป้ง พล.ท.ธีระวัฒน์ บุญยะวัฒน์ รอง เสธ.ทบ. จาก ตท.19 ที่โตมาจากกรมยุทธการทหารบกลุ้นสอดแทรก
งานนี้ทำเอาแม่ทัพแดง-พล.ท.อภิรัชต์ แห่งวงศ์เทวัญหนาวๆ ร้อนๆ อยู่ไม่น้อย เพราะมีโอกาสพลาดเก้าอี้ ผบ.ทบ.ไม่น้อย โดยเฉพาะคู่แข่งจากวงษ์สุวรรณอย่าง บิ๊กอ้อม-พล.ท.วีรชัย อินทุโศภณ ที่มาแรงสุดๆ ชนิดอาจหยุดไม่อยู่
ส่วนอีกรายคือ “บิ๊กแช” พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 (ตท.17) “ทหารเสืออีสาน” ที่ทำงานใกล้ชิด พล.อ.เปรม ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีมีชื่อปรากฏอยู่ในไลน์ 5 เสือ ทบ.เก้าอี้ ผช.ผบ.ทบ.เช่นกัน แต่ทำไปทำมาด้วยอิทธิฤทธิ์ของพี่ใหญ่ ทำให้ร่ำลือกันว่า นอกจากจะ “แห้ว” แล้ว ยังทำท่าว่าจะข้ามห้วยหลุดจากกองทัพบกไปกินตำแหน่ง พลเอก เป็น รองเสธ.ทบ. บก.ทัพไทย อีกต่างหาก
แถมเรื่องที่จะขออยู่ต่อในตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ต้องพูดถึง เพราะเที่ยวนี้มีรุ่นน้องสายบิ๊กตู่ และบิ๊กป้อม จ่อรออยู่เพียบ ไล่มาตั้งแต่ พล.ท.ศักดา เปรุนาวิน แม่ทัพน้อย2 และ พล.ต.ธราธร ธรรมวินทร รองแม่ทัพ2 ที่จ่อคิวรอ
นอกจากนี้ ยังมีน้องรักบิ๊กป้อมอย่าง พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ รองแม่ทัพ2 รอจ่อ ขึ้นพลโท แม่ทัพน้อยที่2 อีกหนึ่งตำแหน่ง เรียกว่า วางไลน์กันยาวๆ เลยทีเดียว
แหม....แม้จะคุ้นเคยกับนายกฯ ลุงตู่กันมาตั้งแต่เป็นนายทหารหนุ่มๆ สมัยลุงตู่ยังเป็นทหารเสือราชินี ร.21 รอ. แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะใกล้เลือกตั้งเข้ามาทุกที จำเป็นต้องใช้ “คนรู้ใจ” ในสายของตนเองมาคุมพื้นที่
ที่สำคัญคือ ถามว่า นายกฯ น้องตู่จะกล้าขัดใจรองนายกฯ พี่ป้อมที่ประกาศคำหวานในงานวันคล้ายวันเกิดรองนายกฯ พี่ป้อมว่า “อยู่กันไปทั้งชาติ” หรือ
พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ และพล.ท.วีรชัย อินทุโศภน 2 ตัวเต็งว่าที่ ผบ.ทบ.คนใหม่
พล.ท.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อีกหนึ่งนายทหารที่อาจเข้ามาสอดแทรกชิงตำแหน่งว่าที่ ผบ.ทบ.
พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ต้องอกหักเพราะไม่ใช่คนของระบอบวงษ์สุวรรณ
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ ข้ามห้วยไปเป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.)
ด้านแม่ทัพภาคที่ 1 ชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กตู่(เล็ก)” พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพน้อยที่ 1 สายบูรพาพยัคฆ์ น้องรัก “บิ๊กป้อม” ขึ้นเป็น แม่ทัพภาค 1 คนใหม่ เพราะจ่อคิวอยู่ หลังจากโยกย้ายปีที่แล้วยอมหลีกทางให้ บิ๊กแดง พล.ท. อภิรัชต์ ขึ้นแม่ทัพภาค1 ไปก่อนแล้ว
ส่วนเก้าอี้ แม่ทัพน้อยที่1 ก็มีหลายตัวเลือกระหว่าง “บิ๊กติ่ง” พล.ต.สันติพงษ์ ธรรมปิยะ นายทหารเสือราชินี น้องรัก นายกฯ กับ บิ๊กหนุ่ย พล.ต.ธรรมนูญ วิถี รองแม่ทัพภาค1 สายบูรพาพยัคฆ์
ทั้งนี้ ในหมู่ทหารเสือฯ รู้ดีว่า นายกฯ บิ๊กตู่ จะดัน พล.ต.สันติพงษ์ ขึ้น แม่ทัพน้อย1 จ่อ แม่ทัพภาค1 ในปีหน้า. แต่ก็เชื่อว่า พล.ต.ธรรมนูญ ก็น่าจะได้ พลโท ขึ้น รองเสธ.ทบ. โดยที่ปีหน้าก็จะชิง แม่ทัพภาค1 ได้ด้วยเช่นกัน
แถมทั้ง พล.ต.สันติพงษ์ อายุน้อยกว่า เกษียณ 2565 ส่วน พล.ต.ธรรมนูญ เกษียณ2564
อย่างไรก็ดี การจัดสรรกำลังคนในกองทัพบกครั้งนี้ ได้ก่อให้เกิดกระแสความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย เพราะหลังจากปล่อยให้เบเร่ต์แดงรบพิเศษอย่าง พล.อ.เฉลิมชัย ขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ. เที่ยวนี้ “บูรพาพยัคฆ์” กำลังจะกลับมาผงาดอีกครั้งภายใต้การผลักดันของ “ระบอบวงษ์สุวรรณ” ที่วางไลน์อำนาจไว้ยาวสุดลูกหูลูกตา
ตัดฉากกลับไปที่ “กองทัพเรือ” หลังการเกษียณอายุราชการของ “บิ๊กณะ” พล.ร.อ. ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. (ตท.15) กันบ้าง เพราะทำท่าจะร้อนแรงไม่เบา เพราะปล่อยข่าวกันมาตั้งแต่หัววันว่า “บิ๊กลือเรือดำน้ำ” พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ เสธ.ทร.(ตท.18) อาจพลาดเก้าอี้ตัวนี้เข้าให้แล้ว
ตัวเต็งที่เข้ามาเทียบรัศมีบิ๊กลือเรือดำน้ำ ก็คือ บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผช.ผบ.ทร.(ตท.16) และต้องลุ้นกันชนิดนาทีต่อนาทีกันเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นที่รับรู้กันว่า พล.ร.อ.ณะเป็นคนเสนอชื่อ พล.ร.อ.นริส เป็น ผบ.ทร.คนใหม่
แรกเริ่มข่าวว่า บิ๊กนุ้ยจะมาแบบชั่วคราว เป็นแม่ทัพเรือไป 1 ปี จากนั้นจึงจะถึงคิวของบิ๊กลือที่มีอายุราชการอีกยาวนาน กว่าจะเกษียณก็ปาเข้าไปปี 2563 โน้น จึงสามารถร้องเพลงรอต่อไปได้ ให้บิ๊กนุ้ยไปก่อนแล้วค่อยถึงคราวของบิ๊ก ลือตอนปลายปี 2561 แต่ทำไปทำมาก็ไม่แน่อีกเช่นกันว่าบิ๊กลือจะชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า เพราะมีข่าวออกมาว่า พล.ร.อ.ณะดันนายทหารเรือ ตท.18 เพื่อนบิ๊กลือ ที่เก่งๆ อีกหลายคน ที่ยังมีอายุราชการ ถึงปี 2562 ขึ้นมาเป็นคู่เทียบกับบิ๊กลือ
ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กโส พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล ที่อาจจะมาเป็น ประธานที่ปรึกษา บิ๊กตุ๋ย พล.ร.ท.พิเชฐ ตานะเศรษฐ์ รองเสธ.ทร. ที่คาดว่า จะเป็น เสธ.ทร. คู่ใจ บิ๊กนุ้ย หรือ บิ๊กนวล พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ ที่ปรึกษาพิเศษทร. ที่เติบโตมาในสายส่ง กำลังบำรุงและร่วมดูแลโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจีนก็อาจจะขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทร. เพื่อสานต่อโครงการเรือดำน้ำจีน
ก็ไม่รู้ว่า งานนี้ เป็นผลพวงมาจากการจัดซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า ในครั้งนั้นบิ๊กณะนั้นเงียบกับเรื่องนี้อย่างผิดสังเกตและปล่อยให้บิ๊กลือรับบทบาทในการเข้ามาแจกแจง...ถ้าจะมีการพลิกโผไปจาก พล.ร.อ.นริสกลับมาเป็น พล.ร.อ.ลือชัยอีกครั้งก็คงต้องอาศัย “กำลังภายใน” ซึ่งก็คงต้องติดตามว่า รองนายกฯ ลุงป้อมผู้อยู่เบื้องหลังการจัดซื้อเรือดำน้ำจะกล้าหักบิ๊กณะหรือไม่
แต่บอกได้เลยว่า กำลังภายในของทั้งคู่ ไม่ธรรมดา
ด้านกองทัพอากาศ ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะ พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ยังคงรั้งเก้าอี้ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) ต่อไปอีก 1 ปี และขยับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยศริน จากตำแหน่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผช.ผบ.ทอ.)ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทอ.เพื่อจ่อคิวขึ้นเป็นแม่ทัพฟ้าคนต่อไป
ส่วนเก้าอี้ที่ลงตัวที่สุด เห็นที่จะหนีไม่พ้น “ผู้บัญชาการทหารสูงสุด” ที่ “พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ” เสนาธิการทหาร นอนมาตั้งแต่ไก่โห่และไม่น่าพลาดจากเก้าอี้ตัวนี้
แต่จัดไปจัดมา ก็ดูเหมือนว่า สร้างแรงสั่นสะเทือนให้อารมณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะก่อให้เกิดกระแสความไม่พอใจและความร้าวฉานในกองทัพแล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ในลักษณะของการวางไลน์อำนาจหลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ลงจากหลังเสือและอยู่ต่อในระบบเลือกตั้งอีกต่างหาก
“ออกมา รับรองน่า ว่ากลั่นกรองกันมาแล้ว อย่าไปเขียนให้มันวุ่นวายว่า คนนั้นไม่ได้ คนนี้ได้ เป็นการแย่งอำนาจ คนของคนนั้นคนนี้ ไม่ได้เป็น ไม่ใช่ เขามีคณะกรรมการพิจารณา เป็นธรรมอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศลั่นเมื่อถูกถามเรื่องโผทหาร
และเมื่อถามว่า โผนี้ เป็นโผที่ คสช.จะลงหลังเสือก่อนจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ปรี๊ดขึ้นมาทันทีทันใด ก่อนกล่าว และชี้หน้านักข่าวว่า “ผมไม่จำเป็นต้องตั้งคนมาปกป้องตัวเอง คุณก็คิดแบบนี้ ให้คิดสิว่า คนมีอำนาจคนเป็นรัฐบาล ต้องทำความดีปกป้องตัวเอง ไม่ใช่ตั้งคนมาปกป้องตัวเอง แล้วเป็นไง ปกป้องได้มั้ยล่ะ คดีศาลปกป้อง ได้มั้ยล่ะ”
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างอารมณ์เสียก่อนขึ้นรถออกจากบ้านป๋าเปรมหลังจากเข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดและได้รับคำเตือนว่า ให้หนักแน่น มั่นคง อย่าอารมณ์เสีย จะได้ไม่ปวดศีรษะ มาสดๆ ร้อนๆ
งานนี้ ต้องบอกว่า ไม่ธรรมดา และไม่ง่ายเหมือนดังที่ “พี่ป้อม” ต้องการ เพราะคลื่นใต้น้ำภายในกองทัพบกที่เกิดขึ้นครั้งนี้นั้น หนักหน่วง รุนแรงและว่ากันว่าพร้อมจะแตกหัก ไม่เช่นนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะไม่อารมณ์เสียทั้งๆที่เพิ่งถูกป๋าเปรมเตือน
...มหาศึกครั้งนี้ ใหญ่หลวงยิ่งนัก และเป็นเดิมพันที่ไม่มีใครยอมใคร
ขอขอบคุณภาพบางส่วนจากเฟซบุ๊ก Wassana Nanuam