"บิ๊กติ๊ก" รับลูกชายลาออกจากราชการทหารจริง ระบุเพื่อความสบายใจ หลังถูกหลายฝ่ายจับตามอง เผยเตรียมไปเรียนต่ออังกฤษ
วานนี้ (20 ส.ค.) พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ร.ต.ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา หรือ "หมวดป้อง" บุตรชายคนเล็ก ได้ลาออกจากราชการทหารแล้วว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งบุตรชายของตน ได้ลาออกจากราชการทหารมานานแล้ว เนื่องจากอยากไปศึกษาต่อ ด้านสาขานิเทศศาสตร์ ที่ประเทศอังกฤษ เพราะเขาจบปริญญาตรีด้านนี้มา อีกทั้งเขาอยากไปเรียนภาษาด้วย ส่วนเป็นเพราะถูกหลายฝ่ายจับตามองจนทำให้รู้สึกกดดัน เนื่องจากเป็นหลานชายของนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ทุกอย่างก็เพื่อความสบายใจของเขาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ หมวดป้อง ลาออกจากราชการทหาร หลังรับราชการมาได้ประมาณ 1 ปี หลังจากที่ใช้วุฒิปริญญาตรี สาขาสื่อสารมวลชน ภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร บรรจุเข้ารับราชการทหารสัญญาบัตร ยศ ร.ต. เมื่อเดือน เม.ย.59 ในตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือนของกองทัพภาค 3 จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนั้น ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เรื่องความเหมาะสม หลังมีการเผยแพร่เอกสารบรรจุรับราชการของกระทรวงกลาโหม ในโซเชียลมีเดีย โดยในขณะนั้น พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่งเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม
วานนี้ (20 ส.ค.) พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวว่า ร.ต.ปฏิพัทธ์ จันทร์โอชา หรือ "หมวดป้อง" บุตรชายคนเล็ก ได้ลาออกจากราชการทหารแล้วว่า เป็นเรื่องจริง ซึ่งบุตรชายของตน ได้ลาออกจากราชการทหารมานานแล้ว เนื่องจากอยากไปศึกษาต่อ ด้านสาขานิเทศศาสตร์ ที่ประเทศอังกฤษ เพราะเขาจบปริญญาตรีด้านนี้มา อีกทั้งเขาอยากไปเรียนภาษาด้วย ส่วนเป็นเพราะถูกหลายฝ่ายจับตามองจนทำให้รู้สึกกดดัน เนื่องจากเป็นหลานชายของนายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ทุกอย่างก็เพื่อความสบายใจของเขาเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ หมวดป้อง ลาออกจากราชการทหาร หลังรับราชการมาได้ประมาณ 1 ปี หลังจากที่ใช้วุฒิปริญญาตรี สาขาสื่อสารมวลชน ภาควิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร บรรจุเข้ารับราชการทหารสัญญาบัตร ยศ ร.ต. เมื่อเดือน เม.ย.59 ในตำแหน่งนายทหารปฏิบัติการกิจการพลเรือนของกองทัพภาค 3 จ.พิษณุโลก ซึ่งขณะนั้น ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เรื่องความเหมาะสม หลังมีการเผยแพร่เอกสารบรรจุรับราชการของกระทรวงกลาโหม ในโซเชียลมีเดีย โดยในขณะนั้น พล.อ.ปรีชา ดำรงตำแหน่งเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม