xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปนคน คนปนข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวปนคน คนปนข่าว



**“ผบ.แป๊ะ” ขันนอต สตม.สั่ง“ตม.รับใช้นาย”กลับกรมกอง ยังจำได้ไหม“พ.ต.ท.เฉลิมชนม์ แหลมทอง”รอง ผกก.ตม.จันทบุรี เพิ่งรับมอบอำนาจ“เมียพัชรวาท”แจ้งความจับ “นักข่าวอิศรา”เมื่อสัปดาห์ก่อน

จากดราม่าที่เคยเป็นปกติ บางคนก็คุ้นจนชินไปแล้ว กับการรอคอยขั้นตอนผ่านเข้าเมืองที่สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ 4-5 ชั่วโมง .. แต่ดราม่าหนนี้ไม่เหมือนเดิมซะแล้ว จุดเริ่มต้นจาก ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ภรรยาของเจ้าตัวเดินกลับจากสิงคโปร์ เสียเวลาอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นานเกือบ 5 ชั่วโมง .. ตอนแรกก็เป็นคิวของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ดูแลสนามบินดอนเมือง ชี้แจงไปว่าเป็นเหตุสุดวิสัย มีเครื่องบินดีเลย์ลงไล่เลี่ยกันจนผู้โดยสารล้นสนามบิน .. หรือบางสื่อก็จับเอาความเป็น“อาจารย์กลุ่มนิติราษฎร์” ของ“ปิยบุตร”ไปโจมตีว่า ต้องการให้ร้ายประเทศซะงั้น .. ยังดีที่ผู้บริหารรัฐบาลรู้ว่า อะไรเป็นอะไรบ้างจน “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งให้เร่งแก้ไขปัญหาความล่าช้าในการให้บริการตรวจคนเข้าเมือง ที่ท่าอากาศยาน .. จี้ไปที่ สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ที่ว่ากันว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้โดยสารตกค้างจำนวนมาก .. แรกๆ ว่ากันไปนู้น มีกระแสข่าวว่า จะยกเลิกแบบรายการบุคคลซึ่งเดินทางเข้ามาใน หรือออกนอกราชอาณาจักร (ตม.6) เพื่อปรับปรุงกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง แต่ที่สุดก็บอกว่าเป็นแค่แนวคิด
ที่สุดก็ไม่แคล้ว สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ที่งานนี้ตกเป็นตัวการ ทำให้เกิดปัญหาที่สนามบิน ประตูเข้าประเทศ ทั้งๆ ที่ประกาศไปทั่วโลกว่า เราเป็นดินแดนแห่งการท่องเที่ยว .. ต้องยอมรับในสปิริตของ“บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ได้รายงาน“ความจริง”ถึง “นายกฯตู่”ว่า สาเหตุที่บุคคลากร สมต. ขาดแคลน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ สตม.ที่มีรายชื่อส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ปฏิบัติงานจริง แต่กลับไปช่วยงานหน่วยงานอื่น .. โดยเฉพาะพวกที่มาฝากชื่อไว้ แล้วไป“รับใช้นาย” .. ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้แก้ไขปัญหาเร่งด่วนภายใน 2 สัปดาห์ ด้วยการเรียกเจ้าหน้าที่เหล่านี้กลับมาทำงานในตำแหน่ง .. รวมทั้งสั่งระดมเจ้าหน้าที่ตม.จากด่านตม.ทั่วประเทศร่วม 200 นาย ให้มาปฏิบัติหน้าที่เสริม ที่สนามบินหลัก 2 แห่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ นั่งปฏิบัติงานให้เต็มทุกช่องตรวจ ลดอัตราการตกค้าง .. ฟังเรื่องเจ้าหน้าที่ ตม.โผล่แต่ชื่อ ตัวไปอยู่ที่อื่น ก็ระคนสงสัยว่า มีวัฒนธรรมแบบนี้ด้วยหรือ .. พลันไปเตะตากับข่าว ที่ สมถวิล วงษ์สุวรรณ ภรรยาพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ แจ้งความดำเนินคดีกับ“นักข่าวอิศรา”ฐานบุกรุกหอพักเมื่อสัปดาห์ก่อน มีชื่อพ.ต.ท.เฉลิมชนม์ แหลมทอง ตำรวจในราชการ ตำแหน่ง รองผู้กำกับ (ผกก.) ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.)จ.จันทบุรี ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากนางสมถวิลในการแจ้งความ .. “ผบ.แป๊ะ”ครับ เจอ“ตม.รับใช้นาย”แล้วคนนึง ตามกลับไปทำงานด่วน

** เซลล์มงกุฏเพชรยังต้องอาย “รัฐมนตรีมะกัน”แวะไทย 5 ชม. ขายขีปนาวุธ 800 ล้านบาท “บิ๊กป้อม”ถามจะเอาไปยิงใครเหรอ ??

ตีปิ๊บกันใหญ่โต กับหมายที่ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาเยือนประเทศไทย และเข้าพบ“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา .. ที่น่าตื่นเต้นเพราะ“รมต.ทิลเลอร์สัน”ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับ"รัฐมนตรีว่าการ" คนแรกของสหรัฐฯ ที่มาเยือนไทย ภายหลังการรัฐประหาร 22 พ.ค.57 .. อีกทั้งยังถือเป็นโอกาสดีของรัฐบาลคสช. ในการแก้ข่าวที่ “นายกฯตู่”เพิ่งหลุดปากว่า ตัวเองโดนแบล็กลิสต์ ที่หลายประเทศทั่วโลกไม่ต้อนรับ .. รวมทั้งกำหนดการเยือนสหรัฐฯ ที่เคยคุยเขื่องว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กริ๊งกร๊างมาชวนด้วยตัวเอง ยังไปไม่ถึงไหน .. การมาเยือนของ รมว.ต่างประเทศ ซึ่งเป็นตำแหน่งเบอร์ 2 ของ“รัฐบาลอินทรีสหรัฐ”จึงถูกจับตาว่า คงนำเทียบเชิญอย่างเป็นทางการมาส่งให้ถึงมือ“นายกฯประยุทธ์”รวมทั้งวางประเด็นเบื้องต้นว่า ไปมาหาสู่กันแล้ว จะพูดคุยเรื่องอะไรบ้าง .. แต่ภายหลังการพูดคุย ฝ่ายไทยกลับยังไม่สามารถบอกกำหนดการที่ “ผู้นำไทย”จะไปเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการได้ บอกกว้างๆ ว่าจะได้ไปในช่วงเดือนต.ค.นี้ .. ย้อนแย้งกับเหตุผลก่อนหน้านี้ว่า เหตุใด“นายกฯตู่”จึงไม่เดินทางไปเยือนต่างประเทศบ้างว่า ติดภารกิจพระราชพิธีสำคัญ ซึ่งก็จัดในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนต.ค.พอดี .. แล้วแบบนี้ “นายกฯตู่”มีคิวบินข้ามโลกในเดือนต.ค.จริงหรือ ..
ตลอดจนคำถามถึงระดับความสำคัญของไทยในสายตามหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ กับการที่“รมต.ทิลเลอร์สัน”แวะมาที่ไทย เพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนมุ่งหน้าต่อไปยังมาเลเซีย .. เข้าใจได้ว่าบุคคลสำคัญระดับนี้คงมีภารกิจรัดตัว อันนั้นไม่ว่ากัน .. ซึ่ง 5 ชั่วโมงอันมีค่านั้น ก็เห็นว่ามีการคุยกันเรื่องการดึงนักลงทุนสหรัฐฯ เข้ามายังโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่นั้นก็เป็น “เรื่องอนาคต”ที่ยังไม่เกิดขึ้น .. แต่ที่เห็นมรรคเห็นผลทันตากลับเป็น การที่ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา แถลงเรื่องการขายขีปนาวุธให้รัฐบาลไทย ตามที่รัฐบาลไทยร้องขอโดยขีปนาวุธดังกล่าวคือ ขีปนาวุธฮาร์พูน บล็อก ทูว์ รุ่น RGM-84L ขายให้แก่ไทย มูลค่า 828 ล้านบาท .. ตอนที่ข่าวออกมา “นายกฯตู่”รวมทั้ง “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ความมั่นคง ต่างปฏิเสธทันที รายหลังพูดขนาดว่า "จะเอาไปยิงกับใครเหรอ" .. ล่าสุดเป็นพล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ ออกมายอมรับแล้วว่า ซื้อจริง ฮา .. อยากถามกลับเลยว่า จะเอาไปยิงใครหรา ?? .. ยังไงก็ต้องชื่นชมสกิลการขายของ“รมต.ทิลเลอร์สัน”ที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ปิดการขายได้ยอดไปตั้ง 800 ล้านบาทไทย

** “กกต.สมชัย”ควรเลิกงอแง กลับไปตั้งหน้าตั้งตาเคลียร์งานค้าง คุ้ยปมคุณสมบัติ 9 รัฐมนตรี ส่งศาลรัฐธรรมนูญ กระตุกบรรทัดฐาน“รัฐบาลคนดี”

เจอพิษ“เซตซีโร”โละยกแผงเข้าไป .. ทำเอา สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังคงเล่นบทเด็กดื้อ งอแงใส่ คสช. จนถูกมองว่า “อารมณ์ค้าง” .. ฐานเป็น กกต.หน่อเดียวที่ออกมาตีโพยพายไม่เลิก แม้จะเลิกบ่นเรื่องโดนโละ แต่ก็จ้องจับผิด คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่กำลังง่วนอยู่กับการทำกฎหมายลูก พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ แบบทุกเม็ด .. โดยเฉพาะประเด็นไหนที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง “สมชัย”ก้มหน้าก้มตา สับแหลก แถมไต่ระดับความรุนแรงของคำพูดคำจา ขึ้นเรื่อยๆ รอบสัปดาห์ก่อนเหวี่ยงหมัดใส่ มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. แบบไม่สนหัวหงอก หัวดำ ว่า “ไบโพลาร์”มนุษย์สองอารมณ์ วันก่อนว่าอย่าง วันนี้ว่าอีกอย่าง .. จากประเด็นที่ กรธ. จะระบุไว้ในกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครจับเบอร์รายเขต ยกเลิกระบบพรรคเดียวเบอร์เดียว ไม่ใช้เบอร์เดียวทั่วประเทศ โดยอ้างว่า ป้องกันการซื้อเสียง ขจัดพวกส.ส.เสาไฟฟ้า-เสาโทรเลข ทั้งที่ตอนร่างรัฐธรรมนูญ พรีเซนต์ “ระบบสัดส่วนผสม”ไว้ดิบดีว่า ต้องการให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง .. ซึ่งไม่ว่าจะสูตรไหน “สมชัย”ในฐานะ กกต.ก็ต้องบอกว่า มันจบแล้ว ไม่น่าจะอยู่ในฐานะที่วิพากษ์วิจารณ์ได้อีก ดู กกต.ท่านอื่นเป็นตัวอย่าง ที่เล่นบท “เสือ”ได้ดี โดยเฉพาะ ศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กับวลี “เป็นเสือต้องไม่ร้อง”จึงไม่เห็น กกต.อีก 4 คน ออกมาตีโพยตีพายอะไรเลย
เวลาที่เหลืออยู่น่าจะไปเคลียร์งานค้างให้จบๆ ไม่ต้องเป็นภาระของคนข้างหลัง .. อย่างกรณีการตรวจสอบ รัฐมนตรี 9 ราย ในรัฐบาลคสช. ที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ ต้องพ้นจากตำแหน่ง ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญใหม่ ที่ กกต.ชุดใหญ่รับลูกไปจาก เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ แล้วมอบหมายให้ อนุกรรมการฯไปพิจารณามาเป็นเดือน จนผลสอบน่าจะสรุปไม่ยาก ก็ควรเอาทำตามกระบวนการให้แล้วๆ .. ก็เรื่องนี้“กูรูกฎหมาย–เซียนข้างบ่อน”ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มันจ้าซะเหลือเกิน .. อาจจะหลุดไม่หมดพวง 9 ราย แต่ส่วนใหญ่ไม่รอด หลักก็พวกที่ถือครองหุ้นในกิจการสื่อ-สัมปทานของรัฐ .. ก่อนหน้านี้ กกต.เองก็เคยส่ง กรณีของ มานิต นพอมรบดี อดีต รมช.สาธารณสุข สมัยรัฐบาล อภิสิทธิ์ ให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดมาแล้ว .. หนนี้ก็ไม่ต่างกัน แถมเป็นรัฐบาล คสช. ที่พรั่งพร้อมไปด้วย“รัฐมนตรีคนดี”น่าจะมีบรรทัดฐานที่สูงส่งยิ่งกว่าพวกนักการเมืองเสียอีก .. แถมพวกที่อยู่ในลิสต์ ก็ไม่ได้คีย์แมนหลักของคสช. คงมี วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ดูบิ๊กเนมหน่อย แต่ข้อกล่าวหาที่ไปมีตำแหน่งในสภาสถาบันศึกษาต่างๆ นั้น ในอดีตก็เคยมีการวินิจฉัยให้ ไม่มีความผิดมาแล้ว รายของ “วิษณุ”จึงไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไร .. ส่วนรายอื่นนี้ จ้าซะเหลือเกิน กกต. ก็น่าจะกลับไปทำงานตัวเอง ส่วนส่งไปแล้วศาลรัฐธรรมนูญจะว่าอย่างไร อันนั้นก็อีกเรื่อง .

ช.ชฎา

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา
พ.ต.ท.เฉลิมชนม์ แหลมทอง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
สมชัย ศรีสุทธิยากร
กำลังโหลดความคิดเห็น