พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการร่วมประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เตรียมออกคำสั่งคสช. 3 ฉบับ เกี่ยวกับการให้อำนาจสถาบันอุดมศึกษา การเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และ แนวคิดการรวมหน่วยงานบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลทั้งหมด ว่า ปัจจุบันการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษา มีปัญหาในการสรรหาผู้ มาดำรงตำแหน่งผู้บริหาร ส่งผลให้มีความล่าช้า และขาดความต่อเนื่องในการบริหารงาน รวมทั้งทำให้การขับเคลื่อนสถานศึกษาไม่เป็นไปตามระบบ ส่งผลให้การปฏิรูปการศึกษา ไม่เป็นไปตามแผนงาน คำสั่งฉบับดังกล่าว จะให้อำนาจสถาบันอุดมศึกษาในการแต่งตั้งบุคคลที่อาจไม่ได้เป็นข้าราชการพลเรือน มาดำรงตำแหน่ง อธิการบดี รองอธิการบดี ผู้ช่วยอธิการบดี คณบดี หรือ หัวหน้าหน่วยงานต่างๆ โดยคุณสมบัติ ข้อจำกัดอื่นๆ ยังเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังเตรียมออกคำสั่งเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยคำสั่งดังกล่าว ให้มีการปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบ และขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
รวมทั้งการจัดตั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี เพื่อรวบรวมหน่วยงานบริหารจัดการน้ำของภาครัฐทั้งหมดเข้าด้วยกัน ให้การทำงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
โดยจะโดยจะมีการชี้แจงรายละเอียด สำหรับบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องมีการโยกย้ายมายังสำนักดังกล่าว โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) และจะออกเป็นคำสั่งคสช. ต่อไป
นอกจากนี้ยังเตรียมออกคำสั่งเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยคำสั่งดังกล่าว ให้มีการปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบ และขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
รวมทั้งการจัดตั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี เพื่อรวบรวมหน่วยงานบริหารจัดการน้ำของภาครัฐทั้งหมดเข้าด้วยกัน ให้การทำงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
โดยจะโดยจะมีการชี้แจงรายละเอียด สำหรับบุคลากรจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องมีการโยกย้ายมายังสำนักดังกล่าว โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) และจะออกเป็นคำสั่งคสช. ต่อไป