วานนี้ (2 ส.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังพบตำรวจ 3 นาย ซึ่งมีทั้งตำรวจชั้นผู้ใหญ่ 1 นาย ร่วมกับตำรวจยศ พ.ต.ท. และ พ.ต.ต. ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง ในพื้นที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (บช.ภ.8) ว่า หลังจากคณะกรรมการตรวจสอบเท็จจริงที่มี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นประธาน พบว่าการกล่าวหามีมูล ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็จะตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป ขณะนี้กำลังพิจารณาว่าจะมอบหมายให้ใครรับผิดชอบเรื่องนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้มอบหมายให้ รอง ผบ.ตร. คนใดดูแล แต่ยืนว่าไม่มีมวยล้มแน่นอน กำลังเร่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนให้เร็วที่สุด ยังไม่ได้ระบุเวลา แต่การตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ก็ดำเนินการได้แล้ว
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การตรวจสอบก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดำเนินการ โดยส่วนตัวยังไม่ทราบ ชื่อ นามสกุล สังกัด ของตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายดังกล่าว ไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใด ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในสำนวน
อย่างไรก็ตาม การพบมูลความผิดตำรวจ 3 นาย ในการแต่งตั้งของ บช.ภ. 8 เชื่อว่าไม่กระทบความเชื่อมั่นในภาพรวมของ การแต่งตั้งโยกย้ายวาระ ปี 2559 เพราะเป็นคนละส่วนกัน โดยส่วนตัวไม่อยากให้มองแบบนั้น กรณีนี้เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล อย่ามองที่ระบบ ระบบวางไว้ดีแล้วมีการตรวจสอบเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอาจใช้เวลา แต่พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ช่วยราชการ ศปก.ตร. จะเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่าพล.ต.ท.เทศา มีความผิดเกี่ยวข้องก็สามารถดำเนินคดีเอาผิดย้อนหลังได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า พล.ต.ท.เทศา คือ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนนั้น หรือไม่
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งความกับนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. ฐานหมิ่นประมาท ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการซื้อขายตำแหน่งนั้น รองโฆษก ตร. กล่าวว่า การแจ้งความเอาผิดกับนายวิทยา เพราะมีการมาพูดพาดพิงการซื้อขายตำแหน่งในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ไม่เกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 อย่างไรก็ขอขอบคุณที่มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การตรวจสอบก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องดำเนินการ โดยส่วนตัวยังไม่ทราบ ชื่อ นามสกุล สังกัด ของตำรวจชั้นผู้ใหญ่รายดังกล่าว ไม่ทราบว่าเป็นบุคคลใด ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องอยู่ในสำนวน
อย่างไรก็ตาม การพบมูลความผิดตำรวจ 3 นาย ในการแต่งตั้งของ บช.ภ. 8 เชื่อว่าไม่กระทบความเชื่อมั่นในภาพรวมของ การแต่งตั้งโยกย้ายวาระ ปี 2559 เพราะเป็นคนละส่วนกัน โดยส่วนตัวไม่อยากให้มองแบบนั้น กรณีนี้เป็นเรื่องปัจเจกบุคคล อย่ามองที่ระบบ ระบบวางไว้ดีแล้วมีการตรวจสอบเป็นขั้นเป็นตอนอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอาจใช้เวลา แต่พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผบช.ภ.8 ช่วยราชการ ศปก.ตร. จะเกษียณอายุราชการอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบว่าพล.ต.ท.เทศา มีความผิดเกี่ยวข้องก็สามารถดำเนินคดีเอาผิดย้อนหลังได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า พล.ต.ท.เทศา คือ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนนั้น หรือไม่
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้แจ้งความกับนายวิทยา แก้วภราดัย อดีตแกนนำ กปปส. ฐานหมิ่นประมาท ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องการซื้อขายตำแหน่งนั้น รองโฆษก ตร. กล่าวว่า การแจ้งความเอาผิดกับนายวิทยา เพราะมีการมาพูดพาดพิงการซื้อขายตำแหน่งในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ไม่เกี่ยวกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 อย่างไรก็ขอขอบคุณที่มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ