อดีต ส.ส.ปชป.เผยไม่เคยระบุพื้นที่ บช.ภ.8 ซื้อขายตำแหน่ง แต่เมื่อพบมีมูลต้องจัดการ แนะ คกก.ปฏิรูปตำรวจนำบทเรียนมาเป็นโมเดลแก้ปัญหา เชื่อซื้อขายเก้าอี้ลามถึง สตช. ควรยุติโยกย้ายจนกว่าจะได้แนวทางแก้ไข ย้อน ผบ.ตร.รับผิดชอบที่ฟ้องกล่าวหาตนคะนองปากยังไง
วันนี้ (1 ส.ค.) นายวิทยา แก้วภราดรัย อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึงผลการตรวจสอบกรณีที่การตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2559 ใน บช.ภ.8 ที่มี พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานมีข้อสรุปว่ามีมูลความจริง ว่าตนเป็นผู้ให้ข้อมูลประกอบเพื่อเป็นพยานหลักฐานว่ามีการซื้อขายตำแหน่ง แต่ไม่เคยพูดว่าเป็นพื้นที่ บช.ภ.8 ดังนั้น ในเมื่อพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีมูลความจริง พล.ต.อ.ปัญญาจะต้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว และในฐานะที่ พล.ต.อ.ปัญญาก็เป็นหนึ่งในคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจจะต้องนำเรื่องนี้ไปรายงานผลให้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจได้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจจะต้องนำบทเรียนนี้มาเป็นโมเดลในการแก้ไขปัญหาและปฏิรูปตำรวจให้สำเร็จ
นายวิทยากล่าวว่า ตนเชื่อว่าปัญหาการซื้อขายโยกย้ายตำแหน่งไม่ได้มีแค่ในพื้นที่ บช.ภ.8 เท่านั้น แต่ยังลุกลามไปถึงโครงสร้างใหญ่อย่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะฉะนั้น ตนอยากให้ยุติการโยกย้ายตำแหน่งในช่วงนี้ก่อนจนกว่าคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจจะได้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง และเป็นธรรมแก่นายตำรวจทุกคน โดยการแต่งตั้งโยกย้ายจะต้องถูกจัดระบบใหม่ทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนกรณี บช.ภ.8
“ผมติดใจว่า สตช.จะรับผิดชอบอย่างไรกับผม ที่บอกว่าจะไปดำเนินการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเอาความผิดกับผม โดยเฉพาะท่าน ผบ.ตร.ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่านายวิทยาพูดไปโดยคะนองปาก แต่ตอนนี้ผลสอบจากท่าน พล.ต.อ.ปัญญาออกมาแล้วว่ามีมูลความจริง ท่าน ผบ.ตร.จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร เพราะผมพูดด้วยข้อเท็จจริง ไม่ได้พูดแค่คะนองปาก สิ่งสำคัญคือผมจะได้ยินคำขอโทษจาก สตช.หรือไม่” นายวิทยากล่าว