xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร”กลับเข้าคุก หมิ่น“มาร์ค”ฆ่าปชช. ยกฟ้อง 6 แกนนำ พธม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศาลฎีกาพิพากษากลับจำคุก “จตุพร” 1 ปี ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่น "อภิสิทธิ์" สั่งทหารยิงปชช.เมื่อปี 52 ส่งตัวเข้าเรือจำพิเศษกรุงเทพทันที จัดให้อยู่แดนแรกรับ 2 สัปดาห์ อีกด้าน ศาลยกฟ้อง 6 แกนนำพันธมิตรฯ คดีดาวกระจายบุกสถานที่ราชการ ปี 51 เหตุฟ้องซ้ำกับคดีบุกรุกทำเนียบฯ แต่อีก 3 คน กำหนดโทษ 2 ปี “ศรีวราห์” เร่งสรุปสำนวนบึ้มพระมงกุฎเกล้าส่งอัยการก่อน 8 ส.ค. แจ้งเพิ่ม 1 ข้อหา “วัฒนา” ทำให้เสียทรัพย์

วานนี้ (20 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 914 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.1962/2552 ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 332

โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.52 ระบุว่า วันที่ 10 พ.ค.52 นายจตุพร จำเลยได้ปราศรัยด้วยเครื่องกระจายเสียงต่อหน้าประชาชนใส่ความรัฐบาลนายอภิสิทธ์ (ขณะนั้น) ทำนองว่า เป็นรัฐบาลภายใต้ทรราชฟันน้ำนม รวมทั้งกล่าวหาว่า โจทก์เป็นคนสั่งทหารให้ไปยิงประชาชน เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดฆ่าประชาชน ใส่ร้ายประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียงอย่างมาก ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง จากประชาชนที่ได้ยินได้ฟังการปราศรัยของจำเลย เหตุเกิดที่วัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. คดีนี้หลังจากศาลไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่า คดีมีมูล ให้ประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณา จำเลยให้การปฏิเสธ โดยศาลชั้นต้นพิพากษา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.55 ให้ยกฟ้องจำเลย เช่นเดียวกับศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.57 ยืนยกฟ้องจำเลย

ต่อมาโจทก์ยื่นฎีกา ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว ให้พิพากษากลับว่า นายจตุพรมีความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ให้จำคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมโฆษณาคำพิพากษาย่อใน นสพ.ไทยโพสต์ เดลินิวส์ มติชน ติดต่อกัน 7 วัน ให้จำเลยเป็นผู้ชำระค่าโฆษณาจากนั้น นายจตุพร ถูกเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที

โดย นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า เมื่อนายจตุพรถูกส่งตัวมาควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่จะนำตัวไปตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือ และจัดทำประวัติผู้ต้องขัง โดยหลังรับตัวผู้ต้องขังใหม่เข้ามาก็จะต้องถูกส่งตัวไปคุมขังยังแดนแรกรับ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของเรือนจำ ทั้งนี้ เรือนจำมีแพทย์ที่คอยตรวจรักษาอาการเจ็บป่วยให้ผู้ต้องขังอยู่แล้ว หากนายจตุพรมีอาการเจ็บป่วยเพิ่มเติม หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆจะต้องแจ้งรายละเอียดให้แพทย์ทราบ

ด้าน นายกฤช กระแสทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่นำตัวนายจตุพร มาส่งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ก็ทำตามขั้นตอนการรับผู้ต้องขังใหม่ โดย นายจตุพร คงไม่เครียดมาก เนื่องจากเคยเข้ามาอยู่ในเรือนจำแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ จึงย้ายไปแดนอื่นตามความเหมาะสม

** ยกฟ้อง 6 แกนนำพันธมิตรฯ

วันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณาคดี 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.3973/2558 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิละ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ นายอมร อมรรัตนานนท์ หรือนายรัชต์ยุตม์ ศิรโยธินภักดี และนายเทิดภูมิ ใจดี เป็นจำเลยที่ 1-9 ในความผิดฐานร่วมกันกระทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ประชาชนฯ ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนฯ กรณีที่มีการรวมตัวกันต่อต้านและขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2551

โดย ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าการยื่นฟ้อง จำเลยที่ 1ถึง 6 เป็นการฟ้องซ้ำกับคดีบุกรุกทำเนียบรัฐบาล ซึ่งคดีดังกล่าวศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1-6 คนละ 2 ปี อัยการโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ให้ยกฟ้องจำเลย 1-6

ส่วนนายไชยวัฒน์ นายอมร และนายเทิดภูมิ ใจดี จำเลยที่ 7ถึง 9 นั้น ศาลเห็นว่าการกระทำเป็นความผิดฐานมั่วสุม 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่เห็นควรให้รอการกำหนดโทษจำเลยที่ 7-9 ไว้ก่อนโดยมีกำหนด 2 ปี*

** แจ้งข้อหาเพิ่ม “มือบึ้มพระมงกุฎฯ” ทำเสียทรัพย์

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงละครแห่งชาติ และหน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเก่า เรียกประชุมคณะทำงานชุดคลี่คลายคดีติดตามความคืบหน้า เพื่อเร่งสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที ก่อนเปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เป็นการเร่งรัดสรุปสำนวนคดี คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนวันที่ 8 ส.ค.นี้ จากพยานหลักฐานชี้ชัดว่า นายวัฒนา ภุมเรศ อดีตวิศวกรไฟฟ้า ก่อเหตุเพียงคนเดียว ยังไม่มีเชื่อมโยงถึงใคร สำนวนส่วนใหญ่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอะไรหนักใจ นอกจากนี้ ในที่ประชุมมีการพิจารณาแจ้งเพิ่มอีก 1 ข้อกล่าวหา คือ ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นสาธารณสถาน เช่น ตู้โทรศัพท์ของบริษัทเอกชนที่โดนวางระเบิดเสียหายตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งขาดอายุความไปแล้ว หลังจากนี้ต้องสอบถามไปยังเจ้าของเอกชนว่าจะร้องทุกข์ดำเนินคดีหรือไม่ แต่โดยหลักการก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่มอยู่แล้ว.
กำลังโหลดความคิดเห็น