วานนี้ (27มิ.ย.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. แถลงผลการประชุมกกต.ว่า มีการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองที่ได้รับจาก สนช.มา ว่ามีประเด็นใดขัดกับเจตนารมณ์รธน. บ้าง ซึ่งได้มอบหมายให้กิจการพรรคการเมืองไปศึกษา ถ้าพบว่าขัดแย้งก็ให้นำเสนอต่อกกต. ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ เพื่อเข้าสู่ที่ประชุม กกต.ในวันที่ 4 ก.ค. แต่เบื้องต้นสอบถามเจ้าหน้าที่แล้ว ก็ระบุว่าไม่มีประเด็นขัดรธน. พร้อมกับยืนยันว่า กกต.ไม่ได้สั่งให้ นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.ไปชี้แจงกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ว่า สามารถปฏิบัติได้ ไม่ขัดรธน. ตามที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ออกมาระบุ เพราะกกต.ไม่มีธง หรือคำสั่งว่าเจ้าหน้าที่ต้องตอบอย่างไร โดยเจ้าหน้าที่ กกต.ตอบจากประสบการณ์การปฏิบัติ อิงตามข้อกฎหมาย เพียงแต่คำตอบอาจไม่ตรงใจ กรธ.
"รองเลขาธิการกกต.ได้สรุปรายละเอียดเกี่ยวกับผลการไปหารือร่วมกับกรธ. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกรธ.ได้ซักถามประเด็นต่างๆ อย่างละเอียดรวม 11 ประเด็น จากที่ผมได้อ่านบันทึกถาม-ตอบ ก็เห็นว่าคำตอบที่เจ้าหน้าที่กกต.ได้ชี้แจงต่อ นายมีชัย เป็นการตอบที่เป็นสาระ ด้วยความเข้าใจในตัวกฎหมาย เอาประสบการณ์ที่ได้ทำงานด้านกิจการพรรคการเมืองไปตอบ เป็นการตอบได้หมดทุกประเด็น แต่คำถามที่รองเลขาฯกกต. ตอบไม่ได้ น่าจะเป็นที่ถามว่า ถ้าหาก กกต.ยืนยันว่าทำได้ และทำแล้วมีปัญหา กกต.จะรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นผม ๆ ขอตอบแทน เพราะเป็นเรื่องของกกต. ด้วยการถามกลับไปที่ กรธ.ว่า ถ้า กกต.ใหม่ 7 คนมาทำแล้วไม่ได้ผลดี หรือผู้ตรวจการเลือกตั้งมาทำงานแล้วล้มเหลว กรธ.จะรับผิดชอบหรือไม่" นายสมชัย กล่าว และว่าพร้อมให้สื่อมวลชน ไปสอบถามโดยตรงกับนายแสวง เพราะได้อนุญาตให้นายแสวงพูดถึงประเด็นที่หารือกับกรธ. รวมทั้งประเด็นที่มี กรธ.ท่านไหนมาล็อบบี้ให้พูดว่า ทำไม่ได้ด้วย ทั้งนี้ตนเห็นว่า ฝ่ายที่เห็นว่าขัดเจตนารมณ์รธน. ควรยกเหตุผลขึ้นมาแย้ง ไม่ใช่บอกว่า เป็นเพราะกกต.ไม่พร้อม แล้วเอามาเป็นเหตุผล แล้วนำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลในการให้ตั้งกมธ.ร่วม
ส่วนที่ นายมีชัยระบุว่า กกต.อาจเสี่ยงต่อการขัดรธน. กรณีที่จะให้ ใบเหลือง-ใบแดง จากการร้องเรียนว่ากระบวนการสรรหา ไพรมารี่โหวต ไม่ถูกต้องนั้น นายสมชัย กล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิด เพราะไม่ใช่เรื่องของการให้ ใบเหลือง-ใบแดง แต่เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติ เหมือนที่กกต.เคยดำเนินการมา ถ้าคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ก็สามารถไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครได้ เช่นเดียวกับระบบไพรมารีโหวต หากทำไม่ถูกต้อง ก็ไม่ประกาศรายชื่อ แต่ถ้าไปพบปัญหาภายหลังจากได้รับเลือกตั้งแล้ว กกต.ก็ส่งศาลให้เพิกถอน เพราะคุณสมบัติไม่ครบ หรือที่ว่า ถ้าใช้ระบบดังกล่าวพรรคอาจไม่ส่งผู้สมัคร และสุดท้ายอาจทำให้การเลือกตั้งไม่ราบรื่น ก็เห็นว่าเป็นจินตนาการ เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แล้วจะไปบอกว่าทำไม่ได้ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำ ตนเข้าใจว่าถ้าพรรคมีความเข้มแข็งเพียงพอก็จะสามารถทำได้
"รองเลขาธิการกกต.ได้สรุปรายละเอียดเกี่ยวกับผลการไปหารือร่วมกับกรธ. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกรธ.ได้ซักถามประเด็นต่างๆ อย่างละเอียดรวม 11 ประเด็น จากที่ผมได้อ่านบันทึกถาม-ตอบ ก็เห็นว่าคำตอบที่เจ้าหน้าที่กกต.ได้ชี้แจงต่อ นายมีชัย เป็นการตอบที่เป็นสาระ ด้วยความเข้าใจในตัวกฎหมาย เอาประสบการณ์ที่ได้ทำงานด้านกิจการพรรคการเมืองไปตอบ เป็นการตอบได้หมดทุกประเด็น แต่คำถามที่รองเลขาฯกกต. ตอบไม่ได้ น่าจะเป็นที่ถามว่า ถ้าหาก กกต.ยืนยันว่าทำได้ และทำแล้วมีปัญหา กกต.จะรับผิดชอบหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นผม ๆ ขอตอบแทน เพราะเป็นเรื่องของกกต. ด้วยการถามกลับไปที่ กรธ.ว่า ถ้า กกต.ใหม่ 7 คนมาทำแล้วไม่ได้ผลดี หรือผู้ตรวจการเลือกตั้งมาทำงานแล้วล้มเหลว กรธ.จะรับผิดชอบหรือไม่" นายสมชัย กล่าว และว่าพร้อมให้สื่อมวลชน ไปสอบถามโดยตรงกับนายแสวง เพราะได้อนุญาตให้นายแสวงพูดถึงประเด็นที่หารือกับกรธ. รวมทั้งประเด็นที่มี กรธ.ท่านไหนมาล็อบบี้ให้พูดว่า ทำไม่ได้ด้วย ทั้งนี้ตนเห็นว่า ฝ่ายที่เห็นว่าขัดเจตนารมณ์รธน. ควรยกเหตุผลขึ้นมาแย้ง ไม่ใช่บอกว่า เป็นเพราะกกต.ไม่พร้อม แล้วเอามาเป็นเหตุผล แล้วนำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลในการให้ตั้งกมธ.ร่วม
ส่วนที่ นายมีชัยระบุว่า กกต.อาจเสี่ยงต่อการขัดรธน. กรณีที่จะให้ ใบเหลือง-ใบแดง จากการร้องเรียนว่ากระบวนการสรรหา ไพรมารี่โหวต ไม่ถูกต้องนั้น นายสมชัย กล่าวว่า เป็นการเข้าใจผิด เพราะไม่ใช่เรื่องของการให้ ใบเหลือง-ใบแดง แต่เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติ เหมือนที่กกต.เคยดำเนินการมา ถ้าคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ก็สามารถไม่ประกาศรายชื่อผู้สมัครได้ เช่นเดียวกับระบบไพรมารีโหวต หากทำไม่ถูกต้อง ก็ไม่ประกาศรายชื่อ แต่ถ้าไปพบปัญหาภายหลังจากได้รับเลือกตั้งแล้ว กกต.ก็ส่งศาลให้เพิกถอน เพราะคุณสมบัติไม่ครบ หรือที่ว่า ถ้าใช้ระบบดังกล่าวพรรคอาจไม่ส่งผู้สมัคร และสุดท้ายอาจทำให้การเลือกตั้งไม่ราบรื่น ก็เห็นว่าเป็นจินตนาการ เป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แล้วจะไปบอกว่าทำไม่ได้ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำ ตนเข้าใจว่าถ้าพรรคมีความเข้มแข็งเพียงพอก็จะสามารถทำได้