ผู้จัดการรายวัน360 - "ศรีวราห์" สอบ “วัฒนา” เพิ่ม ยังไม่เชื่อก่อเหตุคนเดียว พบ"ดีเอ็นเอ-ลายนิ้วมือ"2-3คนติดสายไฟประกอบบึ้ม ด้านพนักงานสอบสวนฝากขังมือระเบิดที่ศาลอาญา พร้อมขอนำตัวกลับไปควบคุมที่ มทบ.11 มทภ.2 คาด ‘โกตี๋’ หนีซุกกัมพูชา เชื่ออยู่ตามชายแดน
วานนี้ (22 มิ.ย.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เข้าสอบปากคำ นายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาคดีระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า และจุดอื่นๆ ในพื้นที่ กทม. ที่ สน.พญาไท โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังว่า หลักฐานสายไฟต่อระเบิดที่พบจากเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าก็พบลายนิ้วมือแฝงติดอยู่จำนวนหนึ่ง น่าจะเป็นของบุคคลอีก 2-3 คน แต่ทั้งดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่พบยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของบุคคลใด ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนเก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือของบุคคลใกล้ชิดของนายวัฒนาทั้งคนในครอบครัว และหญิงคนรักมาตรวจเปรียบเทียบแล้ว เมื่อหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถสรุปไปที่คนๆ เดียวได้อย่างนี้ก็ยังเชื่อไม่ได้
จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายวัฒนา ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.-3 ก.ค.2560 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลอีก 14 ปาก และรอผลการตรวจประวัติต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร กับพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา รวมทั้งผลตรวจพิสูจน์ของกลางในคดีจากกองพิสูจน์หลักฐาน สตช. โดยได้คัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและมีอัตราโทษสูง ก่อนขอให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (มทบ.11) ด้วย ศาลได้พิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ และมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของพนักงานสอบสวน ให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (มทบ.11) ระหว่างการฝากขัง 12 วัน
** มทภ.2 คาด‘โกตี๋’หนีซุกชายแดนกัมพูชา
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ที่หลบหนีคดีและเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ว่าทางกองทัพได้เกาะติดเรื่องนี้เป็นระดับนโยบาย ส่วนจะหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาจริงหรือไม่นั้นไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ อาจจะทำให้มีผลเสียต่อรูปคดี
โดยการติดตามตัวนายโกตี๋ มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน เชื่อว่าหากหลบหนีออกจากประเทศลาวจริง อาจจะหลบอยู่บริเวณพื้นที่ชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่พื้นที่ด้านใน เพราะติดขัดปัญหาเรื่องของภาษาการสื่อสาร
ส่วนการติดตามแนวคิดการจัดตั้งสหพันธรัฐไทยใหม่ของเครือข่าย นายสุรชัย แซ่ด่าน และนางสุดา รังกุพันธ์ รวมทั้งคนกลุ่มที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองนั้น กองทัพได้ติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มคนพวกนี้ตลอด โดยไปจำกัดเสรีภาพการเคลื่อนไหวระดับหนึ่ง จนทำให้ทางฝั่งเขาทำอะไรไม่ได้มาก ประกอบกับทหารลงไปในพื้นที่สร้างความ
วานนี้ (22 มิ.ย.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เข้าสอบปากคำ นายวัฒนา ภุมเรศ ผู้ต้องหาคดีระเบิด รพ.พระมงกุฎเกล้า และจุดอื่นๆ ในพื้นที่ กทม. ที่ สน.พญาไท โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยภายหลังว่า หลักฐานสายไฟต่อระเบิดที่พบจากเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าก็พบลายนิ้วมือแฝงติดอยู่จำนวนหนึ่ง น่าจะเป็นของบุคคลอีก 2-3 คน แต่ทั้งดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงที่พบยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของบุคคลใด ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวนเก็บดีเอ็นเอ และลายนิ้วมือของบุคคลใกล้ชิดของนายวัฒนาทั้งคนในครอบครัว และหญิงคนรักมาตรวจเปรียบเทียบแล้ว เมื่อหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถสรุปไปที่คนๆ เดียวได้อย่างนี้ก็ยังเชื่อไม่ได้
จากนั้น พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวนายวัฒนา ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.-3 ก.ค.2560 เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานบุคคลอีก 14 ปาก และรอผลการตรวจประวัติต้องโทษจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร กับพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหา รวมทั้งผลตรวจพิสูจน์ของกลางในคดีจากกองพิสูจน์หลักฐาน สตช. โดยได้คัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและมีอัตราโทษสูง ก่อนขอให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปควบคุมที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (มทบ.11) ด้วย ศาลได้พิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ และมีคำสั่งอนุญาตตามคำขอของพนักงานสอบสวน ให้ส่งตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนนครไชยศรี (มทบ.11) ระหว่างการฝากขัง 12 วัน
** มทภ.2 คาด‘โกตี๋’หนีซุกชายแดนกัมพูชา
วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ที่หลบหนีคดีและเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ว่าทางกองทัพได้เกาะติดเรื่องนี้เป็นระดับนโยบาย ส่วนจะหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาจริงหรือไม่นั้นไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ อาจจะทำให้มีผลเสียต่อรูปคดี
โดยการติดตามตัวนายโกตี๋ มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน เชื่อว่าหากหลบหนีออกจากประเทศลาวจริง อาจจะหลบอยู่บริเวณพื้นที่ชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่พื้นที่ด้านใน เพราะติดขัดปัญหาเรื่องของภาษาการสื่อสาร
ส่วนการติดตามแนวคิดการจัดตั้งสหพันธรัฐไทยใหม่ของเครือข่าย นายสุรชัย แซ่ด่าน และนางสุดา รังกุพันธ์ รวมทั้งคนกลุ่มที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองนั้น กองทัพได้ติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มคนพวกนี้ตลอด โดยไปจำกัดเสรีภาพการเคลื่อนไหวระดับหนึ่ง จนทำให้ทางฝั่งเขาทำอะไรไม่ได้มาก ประกอบกับทหารลงไปในพื้นที่สร้างความ