“บิ๊กแช” เผยยังเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ “โกตี๋” หนีไปกบดานเขมรหรือไม่ คาดหลบอยู่แถวชายแดน เกาะติดพร้อมบล็อคช่องทางจัดตั้งสหพันธ์รัฐไทยใหม่ แจงบุกบ้านดาวดินเพื่อความเรียบร้อย ไม่ต้องใช้หมายค้น เผยชาวบ้านร่วมมือเลยทราบการเคลื่อนไหว พร้อมลงพื้นที่แจง
วันนี้้ (22 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 พล.ท.วิชัย แชจอหอ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการติดตามตัวนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานีที่หลบหนีคดีและเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านว่า ได้มีการเกาะติดเรื่องนี้เป็นระดับนโยบาย ส่วนจะหลบหนีไปยังประเทศกัมพูชาจริงหรือไม่นั้น ขณะนี้ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เพราะจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ และอาจจะทำให้มีผลเสียต่อรูปคดี โดยการติดตามตัวนายโกตี๋มีหลายหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าหากโกตี๋หลบหนีออกจากประเทศลาวจริงอาจจะหลบอยู่บริเวณพื้นที่ชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ไม่ได้เข้าไปอยู่พื้นที่ด้านในเพราะอาจติดขัดปัญหาในเรื่องของภาษาการสื่อสาร
พล.ท.วิชัยยังกล่าวถึงการติดตามแนวคิดการจัดตั้งสหพันธ์รัฐไทยใหม่ ของเครือข่ายนายสุรชัย แซ่ด่าน (ด่านวัฒนกุล) และนางสุดา รังกุพันธ์ และคนกลุ่มที่มีอุดมการณ์ทางการเมือง ว่าเราติดตามการเคลื่อนไหวกลุ่มคนพวกนี้ตลอด โดยการไปกำจัดเสรีภาพในการเคลื่อนไหวระดับหนึ่ง จนทำให้ทางฝั่งเขาคงทำอะไรไม่ได้มาก ประกอบกับการที่ทหารลงไปในพื้นที่สร้างความรับรู้กับประชาชนเราก็ทำให้พี่น้องประชาชนที่คอยให้เบาะแสจนทำให้เรารู้ว่ากลุ่มคนพวกนี้เคลื่อนไหวอะไรบ้าง
กรณีการตรวจค้นบ้านกลุ่มดาวดินข้าง ม.ขอนแก่น ก่อนนายกฯ ลงพื้นที่โดยไม่มีหมายศาลไปตรวจค้นนั้น พล.ท.วิชัยกล่าวว่า เพราะต้องการให้เกิดความเรียบร้อย ไม่ให้ต้องการให้เกิดอะไร โดยก่อนหน้านี้เรามีการติดตามมาอยู่แล้ว เช่นกรณีคำว่าสหพันธรัฐไทยใหม่ก็เกี่ยวเนื่องกับพื้นที่ภาคอีสานเกี่ยวกับการเมืองข้ามไปประเทศเพื่อนบ้านใช้เป็นเอเยนต์ต่อๆ มา การข่าวต้องประเมินว่าจะเป็นการ ลดเครดิตรัฐบาลและลดเครดิตนายกฯ ให้เกิดความไม่เรียบร้อย จึงใช้อำนาจหน้าที่ทางทหารดูแล แต่ไม่เกินเลยสิ่งที่สมควรจะทำ ก็มีหลากฐานอื่นๆ เข้ามาประกอบ ส่วนจะไม่จำเป็นต้องใช้หมายศาลตรวจค้นหรือไม่นั้น พล.ท.วิชัยกล่าวว่า ใช่
“เรายังไม่เห็นความเกี่ยวข้องของไผ่ ดาวดิน หรือคุณพ่อไผ่ ดาวดิน กับสหพันธรัฐไทยใหม่ แต่เป็นเรื่องของซีกโกตี๋ อ.สุรชัย (แซ้ด่าน) อ.หวาน (สุดา) โดยเอกสารที่พวกเขาใช้เราก็ยึดมา เขาก็ดำรงความมุ่งหมายที่ยังเคลื่อนไหวอยู่ซึ่งเขากระทำได้ไม่มากเพราะเราจำกัดเสรีระดับหนึ่ง ซึ่งเราได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในอีสานที่มาแจ้งเบาะแส เราจึงได้รู้ความเคลื่อนไหว ซึ่งชาวบ้านไม่ได้ให้ความร่วมมือกลุ่ม แต่ชาวบ้านที่ห่างไกลจริงๆ โอกาสที่จะไปเชื่อ ทหารจึงต้องลงเดินพื้นที่บ่อยสร้างความรับรู้ แม้จะไม่ได้ลงไปเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อไม่ให้ชาวบ้านตกเป็นเหยื่อหรือลัทธิที่เขามาใส่ให้” พล.ท.วิชัยกล่าว