ผู้จัดการรายวัน 360 - "รองนายกฯ" เผยจนปัญหายึดทรัพย์ "ยิ่งลักษณ์-บุญทรง" เหตุหาไม่พบ ทั้งที่ศาลปกครองไม่ได้คุ้มครองชั่วคราว ก.คลังยันตั้งทีมสืบทรัพย์ "ปู" แล้ว แต่ไม่รับปากว่าเสร็จเมื่อไร “ทนายปู” เผย ไต่สวนจำนำข้าวนัดสุดท้าย21ก.ค. เหลือพยานจำเลย19ปาก3นัด คาดไม่นานตัดสินได้ "ไก่อู" ยัน “บิ๊กตู่” ฟื้นครม.สัญจรเพื่อพบประชาชน6ภูมิภาค-อีอีซี ย้ำชัดไม่ได้หวังหาเสียง
วานนี้ (22 มิ.ย.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการยึดทรัพย์คดีจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้คดีอาญาอยู่ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนคดีแพ่งอยู่ในศาลปกครอง ซึ่งทางจำเลยต้องร้องขอคัดค้านการยึดทรัพย์ไปยังศาลปกครองอยู่แล้ว เพื่อให้ศาลปกครองพิจารณาเพิกถอนคำสั่ง
เมื่อถามว่าขณะนี้กรมบังคับคดียังทำอะไรไม่ได้ จนกว่าศาลปกครองจะมีคำสั่งออกมาใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทำได้ แต่ไม่ทราบจะไปทำอะไร ที่ไหน ซึ่งที่หยุดไว้เพราะยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เหมือนกับคดีอื่นที่ศาลตัดสินว่าคนนั้นแพ้คดี แล้วให้ไปยึดทรัพย์เพื่อมาชำระหนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็หาทรัพย์แต่เมื่อหาทรัพย์ไม่เจอก็หยุดไว้ก่อน
“ผมเข้าใจว่า เวลานี้ยังไม่ถูกเบรกจากศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราว ทำให้กรมบังคับคดีเดินหน้าไปได้ แต่ยังไม่มีอะไรที่จะไปยึด เพราะไม่เจอว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์มีอะไร รวมถึงคดีขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ด้วยที่ดำเนินการเช่นเดียวกัน แต่นายบุญทรงยังมีคดีข้าวล็อตอื่นที่อยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช. ซึ่งจะเป็นคดีใหม่ที่ตามมาอีก ส่วนคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เรื่องข้าวกว่า 800 คดีนั้น เป็นส่วนของเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับรายงานมาบ้างแล้ว มีหลายประเภท แต่ตนตอบไม่ถูก" นานวิษณุ กล่าว
** ก.คลังตั้งทีมสืบทรัพย์ "ปู"
อีกด้าน นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินเรื่องยึดทรัพย์โครงการจำนำข้าวจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์เพื่อติดตามสืบหาทรัพย์สิน น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ โดยทำหน้าติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมที่ดิน เพื่อสืบหาว่ามีสินทรัพย์เท่าไร รวมถึงตรวจดูรายการที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.หลังจากนั้นจะนำมาสรุปจำนวนทรัพย์สิน เพื่อส่งให้กรมบังคับคดีดำเนินการติดตามยึดทรัพย์ต่อไป อย่างไรก็ตามยังระบุเวลาไม่ได้ว่าจะทำเสร็จเมื่อไร เพราะเป็นเรื่องของคณะทำงานที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และยึดหลักการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมกับให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
** “ทนายปู” เชื่ออีกไม่นานตัดสินคดี
ขณะที่ นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบกรณีละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว จนทำให้รัฐเสียหายกว่า 5 แสนล้านบาท ได้เปิดเผยความคืบหน้าของคดีว่า ขณะนี้คดียังคงอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานจำเลย ซึ่งเหลืออีกเพียง 3 นัด 19 ปาก คือ วันที่ 29 มิ.ย. ไต่สวนพยานจำเลย 3 ปาก, วันที่ 7 ก.ค. ไต่สวนพยาน 8 ปาก และนัดสุดท้ายวันที่ 21 ก.ค. ไต่สวนพยานจำเลย 8 ปาก ส่วนจะมีการขอไต่สวนพยานเพิ่มหรือไม่ ขอพิจารณาอีกครั้ง และจะแถลงปิดด้วยวาจาหรือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งศาลจะเป็นผู้กำหนดในวันไต่สวนพยานจำเลยปากสุดท้ายว่า จะให้แถลงปิดคดีภายในกี่วัน และนัดฟังคำพิพากษาในวันไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่าปกติแล้วคดีในศาลฎีกาฯนักการเมืองจะใช้เวลาในการพิจารณาคำพิพากษานานหรือไม่ นายนรวิชญ์กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีความแน่นอน ขึ้นอยู่กับปัญหาข้อเท็จจริงว่ามีมากน้อยแค่ไหน บางคดีเป็นคดีเล็กข้อเท็จจริงไม่เยอะไต่สวนนัดสุดท้ายอีก15วันนัดฟังคำพิพากษาก็มี เท่าที่ผ่านมาไม่เห็นว่ามีคดีที่มีรายละเอียดข้อเท็จจริงเยอะ อย่างคดีปล่อยกู้กรุงไทย ใช้เวลาไม่นาน คดีในศาลฎีกาฯนักการเมืองจะใช้เวลาในการพิจารณาทำคำพิพากษาไม่นาน
** ปัด “บิ๊กตู่” ฟื้น ครม.สัญจรหวงหาเสียง
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าแนวคิดการฟื้นการประชุม ครม.สัญจร ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ต้องการให้มีการประชุมครม.สัญจร ซึ่งสอดคล้องกับที่ได้สั่งการให้รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการลงพื้นที่ ได้เน้นย้ำว่าการลงพื้นที่ ไม่ใช่ไปสร้างคะแนนเสียงเพราะเราไม่ได้ต้องการเล่นการเมืองในอนาคต แต่ต้องการลงไปรับฟังทุกข์สุขประชาชน ของกลุ่มในพื้นที่จากปากของเขาเอง และต้องการให้เจ้าหน้าที่ระดับนโยบาย ลงไปพูดคุยกับข้าราชการในสังกัดของตนเองในพื้นที่ว่านโยบายจากส่วนกลางที่ลงไปนั้น ตรงกันหรือไม่ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นในเรื่องการประชุม ครม.สัญจร" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นกำหนดไว้ใน 6 พื้นที่ 6 ภูมิภาค คือเหนือ กลาง อีสาน ใต้ กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างไรก็ตาม ถ้ามีช่วงโอกาส และจังหวะเวลาที่เหมาะสมก็อาจจะขยายไปในส่วนของ18กลุ่มจังหวัดด้วย ซึ่งถ้าทำได้ก็จะเป็นเรื่องดี พล.อ.ประยุทธ์เคยปรารภว่าการลงไปพื้นที่ต่างๆนั้นอยากได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่อยากไปเพียงแค่กิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง เพราะทุกเรื่องต้องมีความเชื่อมโยงกัน การไปต่างจังหวัดแล้วค้างคืนก็อาจตอบโจทย์ได้.