ผู้จัดการรายวัน360-“น้องมิน” สาวไทยช็อกหมดสติที่เกาหลี เสียชีวิตแล้ว หลังส่งตัวกลับมารักษาที่ รพ.ราชวิถี ร่วม 2 เดือน เหตุติดเชื้อในกระแสเลือด เพราะไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ด้านพ่อแม่น้องมินนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนฌาปนกิจ ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.) โรงพยาบาลราชวิถี ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการถึงแก่กรรมของ น.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือน้องมิน ที่มีอาการช็อกหมดสติ ขณะเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี และกลับมารับการรักษาที่ไทย ว่า ตามที่น้องมิน ได้เข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งน.ส.ระภีภรณ์ จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการพยุงชีพไว้ตลอด ไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจออกได้ ซึ่งในเวลาต่อมาเกิดภาวะแทรกซ้อน จากการติดเชื้อในปอดและลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด จนเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 19 มิ.ย. น.ส.ระภีภรณ์ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ที่หอผู้ป่วยโรงพยาบาลราชวิถี ทางโรงพยาบาลจึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย
นพ.สกานต์ บุนนาค นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมสาขาอายุรกรรม หนึ่งในทีมแพทย์ที่ให้การรักษา น.ส.ระภีภรณ์ กล่าวว่า น้องมินจากไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยจากไปอย่างสงบในช่วงเช้า โดยอยากจะขอแนะนำผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรเตรียมตัวป้องกันอาการหอบเหนื่อยที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
ทั้งนี้ น้องมินเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่รับน้องมินเข้ามาดูแลในห้อง ไอ.ซี.ยู. ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เนื่องจากมีภาวะหัวใจหยุดเต้น และต้องปั๊มขึ้นมา ทำให้หายใจเองไม่ได้ สมองขาดออกซิเจน ประกอบกับมีอาการไตวายร่วมด้วย โดยในการรักษาผ่านมาระยะหนึ่ง ทำให้ควบคุมภาวะของไตวายได้ดีขึ้น น้องมินเริ่มรู้สึกตัวตอบสนองโดยการหลับตาลืมตาได้ แต่ปัญหา คือ การไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอดนำสู่การติดเชื้อในกระแสเลือด จนกระทั่งน้องมินจากไปด้วยอาการสงบ ซึ่งพ่อแม่ที่ได้เฝ้าดูอาการมาตลอดเข้าใจในภาวะของโรคว่าทีมแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งตั้งแต่ในช่วงเช้าพ่อและแม่ได้นำศพน้องมินกลับไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดแล้ว
นายธีรพงษ์ นาสะอ้าน พ่อของน้องมิน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 18 มิ.ย. เวลา 21.00 น. หมอโทรมาบอกว่าใช้เครื่องปั๊มหัวใจ เนื่องจากน้องหัวใจหยุดเต้นโดยปั๊มนานกว่า 10 นาที จนน้องกลับมาได้ แล้วโทรหาพ่อแม่และญาติให้มาดูน้อง เมื่อมาดูพบว่าน้องอาการวิกฤตแล้ว จากนั้นความดันน้องต่ำลงเรื่อยๆ หมอก็พยายามใช้เครื่องกระตุ้นจนน้องจากไปเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. โดยครอบครัวและญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยางสุทธาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และจะฌาปนกิจ ในวันที่ 22 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ในช่วงบ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. วานนี้ (19 มิ.ย.) โรงพยาบาลราชวิถี ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องการถึงแก่กรรมของ น.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือน้องมิน ที่มีอาการช็อกหมดสติ ขณะเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศเกาหลี และกลับมารับการรักษาที่ไทย ว่า ตามที่น้องมิน ได้เข้ารับการรักษาภายในโรงพยาบาล ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งน.ส.ระภีภรณ์ จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจในการพยุงชีพไว้ตลอด ไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจออกได้ ซึ่งในเวลาต่อมาเกิดภาวะแทรกซ้อน จากการติดเชื้อในปอดและลุกลามเข้าสู่กระแสเลือด จนเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 19 มิ.ย. น.ส.ระภีภรณ์ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบ ที่หอผู้ป่วยโรงพยาบาลราชวิถี ทางโรงพยาบาลจึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย
นพ.สกานต์ บุนนาค นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมสาขาอายุรกรรม หนึ่งในทีมแพทย์ที่ให้การรักษา น.ส.ระภีภรณ์ กล่าวว่า น้องมินจากไปด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือด โดยจากไปอย่างสงบในช่วงเช้า โดยอยากจะขอแนะนำผู้ป่วยโรคหัวใจ ควรเตรียมตัวป้องกันอาการหอบเหนื่อยที่อาจจะเกิดขึ้นตลอดเวลา
ทั้งนี้ น้องมินเข้ารับการรักษาเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่รับน้องมินเข้ามาดูแลในห้อง ไอ.ซี.ยู. ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา เนื่องจากมีภาวะหัวใจหยุดเต้น และต้องปั๊มขึ้นมา ทำให้หายใจเองไม่ได้ สมองขาดออกซิเจน ประกอบกับมีอาการไตวายร่วมด้วย โดยในการรักษาผ่านมาระยะหนึ่ง ทำให้ควบคุมภาวะของไตวายได้ดีขึ้น น้องมินเริ่มรู้สึกตัวตอบสนองโดยการหลับตาลืมตาได้ แต่ปัญหา คือ การไม่สามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ปอดนำสู่การติดเชื้อในกระแสเลือด จนกระทั่งน้องมินจากไปด้วยอาการสงบ ซึ่งพ่อแม่ที่ได้เฝ้าดูอาการมาตลอดเข้าใจในภาวะของโรคว่าทีมแพทย์ได้ให้การรักษาอย่างดีที่สุดแล้ว ซึ่งตั้งแต่ในช่วงเช้าพ่อและแม่ได้นำศพน้องมินกลับไปประกอบพิธีที่บ้านเกิดแล้ว
นายธีรพงษ์ นาสะอ้าน พ่อของน้องมิน กล่าวว่า เมื่อคืนวันที่ 18 มิ.ย. เวลา 21.00 น. หมอโทรมาบอกว่าใช้เครื่องปั๊มหัวใจ เนื่องจากน้องหัวใจหยุดเต้นโดยปั๊มนานกว่า 10 นาที จนน้องกลับมาได้ แล้วโทรหาพ่อแม่และญาติให้มาดูน้อง เมื่อมาดูพบว่าน้องอาการวิกฤตแล้ว จากนั้นความดันน้องต่ำลงเรื่อยๆ หมอก็พยายามใช้เครื่องกระตุ้นจนน้องจากไปเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. โดยครอบครัวและญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดยางสุทธาราม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และจะฌาปนกิจ ในวันที่ 22 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ในช่วงบ่าย