ผู้จัดการรายวัน 360 - บรรยากาศตอบ 4 คำถามนายกฯ วันที่สองยังกร่อย เพิ่มช่องทางสายด่วน 1111 อำนวยความสะดวก ส่วน มท.1 เล็งเปิดช่องทางเพิ่มในห้างฯและระบบอิเล็กทรอนิกส์ ด้าน “บิ๊กตู่” ไม่สนปั่นยอดไลค์ ย้อนกลับคนให้ความสำคัญกับ 4 คำถามเกินไปหรือไม่ ยันรับฟังประชาชนทุกคน เผยเป็นนายกฯ กังวลทุกปัญหา นอนนิ่งไม่ได้ ต้องลงมือทำ
วานนี้ (13 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดให้ประชาชนเข้าตอบแบบสอบถามความคิดเห็นตามคำถาม 4 ข้อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นวันที่ 2 ซึ่งยังคงเงียบเหงา โดยมี นายเจิม ขวัญทอง ข้าราชการบำนาญ กระทรวงศึกษาธิการ อายุ 63 ปี เดินทางมาตอบแบบสอบเป็นรายแรก โดยประชาชนสามารถเดินทางมาตอบแบบสอบถามได้ตามวันและเวลาราชการคือเวลา 08.30-16.30 น. โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการส่งคำตอบประชาชน นอกจากนี้ยังสามารถตอบคำถามดังกล่าวได้ทางโทร 1111 กด 2 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สอบถาม ชื่อ นามสกุล เลขบัตร ประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และคำตอบทั้ง 4 คำถาม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ทุกคนให้ความสำคัญกับ 4 คำถามของตนมากไปหรือเปล่า ตนไม่ได้บอกว่าประชาชนทั้ง 6 ล้านคนจะต้องมาไลค์ เพราะ 1 คน หรือ 10 คน ตนก็รับฟัง มี 100 คนก็รับฟังทั้ง 100 คนว่าเขาว่าอย่างไร
“วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องการทำโพลล์และกดไลค์ เห็นหรือไม่ที่มีข่าวการจับกุมชาวต่างชาติเพื่อรับจ้างกดไลค์ที่จังหวัดสระแก้ว ฉะนั้นคุณไม่ต้องมาไลค์ให้ผม เพราะผมไม่เชื่อหรอก ในวันนี้เงินจ้างได้หมด เทคโนโลยีไปไกลมาก ถ้าให้ความสำคัญในการสร้างความรับรู้ทางโซเชียลอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต้องสร้างอย่างที่ผมพยายามจะพูดซึ่งอาจจะไม่มีใครเขาพูดกัน จึงอาจจะเข้าใจบ้างหรือไม่เข้าใจบ้าง”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาหลายเรื่อง นายกรัฐมนตรี คนเดียวไม่สามารถแก้ได้หมด แต่จะแก้โดยการตั้งทำงานพิเศษขึ้นมาหลายภาคส่วน การเป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเหนื่อยหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของความห่วงกังวล เพราะนายกฯ ห่วงกังวลทุกเรื่อง ห่วงประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกรจะทำจะอยู่กันอย่างไร เศรษฐกิจประเทศจะเป็นอย่างไร ค่าเงินแข็งขึ้น หรืออ่อนตัว ขาดแคลนน้ำจะทำอย่างไร ฝนตกทุกครั้งก็กังวล แต่ต้องนำข้อกังวลมาสู่การปฏิบัติและขับเคลื่อนนโยบายซึ่งจะต้องทำทั้งวันนี้และวันข้างหน้า โดยคิดมาตรการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะมีมากขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน สาธารณสุข การศึกษา
“การทำงานต้องทำด้วยระบบข้าราชการหลายล้านคน วันข้างหน้าถ้าจะลดข้าราชการก็ต้องสร้างความเข้มแข็งในภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคสังคม ธุรกิจ และประชาชนเข้มแข็ง ขณะที่รัฐบาลก็คอยดูเรื่องการกระจายรายได้ ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ บริหารประเทศ เพราะในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิ มีเสียง และต้องฟังเสียงส่วนใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมการรับฟังความคิดเห็น 4 คำถามของนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องปัญหาเข้ามา โดยอาจจะมีการเพิ่มช่องทางการตอบคำถาม เช่น การเปิดรับฟังความคิดเห็นในศูนย์การค้าซึ่งจะต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ต่อไป เพราะมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องงบประมาณ แต่ถ้ามีความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ใช้สถานที่คงทำได้ ส่วนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ก็น่าเป็นไปได้ แต่ต้องยืนยันตัวเองด้วยบัตรประชาชนได้ เพราะถ้ามีการสวมสิทธิ์จะทำให้ผลการรับฟังความคิดเห็นผิดเพี้ยนไปได้ ขณะที่ผู้เขียนหนังสือไม่ได้นั้น หากอยากแสดงความคิดเจ้าหน้าที่คงหาวิธีได้
วานนี้ (13 มิ.ย.) ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ฝั่งก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเปิดให้ประชาชนเข้าตอบแบบสอบถามความคิดเห็นตามคำถาม 4 ข้อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นวันที่ 2 ซึ่งยังคงเงียบเหงา โดยมี นายเจิม ขวัญทอง ข้าราชการบำนาญ กระทรวงศึกษาธิการ อายุ 63 ปี เดินทางมาตอบแบบสอบเป็นรายแรก โดยประชาชนสามารถเดินทางมาตอบแบบสอบถามได้ตามวันและเวลาราชการคือเวลา 08.30-16.30 น. โดยยังไม่มีกำหนดวันสิ้นสุดการส่งคำตอบประชาชน นอกจากนี้ยังสามารถตอบคำถามดังกล่าวได้ทางโทร 1111 กด 2 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่สอบถาม ชื่อ นามสกุล เลขบัตร ประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และคำตอบทั้ง 4 คำถาม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ทุกคนให้ความสำคัญกับ 4 คำถามของตนมากไปหรือเปล่า ตนไม่ได้บอกว่าประชาชนทั้ง 6 ล้านคนจะต้องมาไลค์ เพราะ 1 คน หรือ 10 คน ตนก็รับฟัง มี 100 คนก็รับฟังทั้ง 100 คนว่าเขาว่าอย่างไร
“วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องการทำโพลล์และกดไลค์ เห็นหรือไม่ที่มีข่าวการจับกุมชาวต่างชาติเพื่อรับจ้างกดไลค์ที่จังหวัดสระแก้ว ฉะนั้นคุณไม่ต้องมาไลค์ให้ผม เพราะผมไม่เชื่อหรอก ในวันนี้เงินจ้างได้หมด เทคโนโลยีไปไกลมาก ถ้าให้ความสำคัญในการสร้างความรับรู้ทางโซเชียลอย่างเดียวคงไม่ได้ แต่ต้องสร้างอย่างที่ผมพยายามจะพูดซึ่งอาจจะไม่มีใครเขาพูดกัน จึงอาจจะเข้าใจบ้างหรือไม่เข้าใจบ้าง”
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้บ้านเมืองมีปัญหาหลายเรื่อง นายกรัฐมนตรี คนเดียวไม่สามารถแก้ได้หมด แต่จะแก้โดยการตั้งทำงานพิเศษขึ้นมาหลายภาคส่วน การเป็นนายกฯ ไม่ใช่เรื่องเหนื่อยหรือไม่ แต่เป็นเรื่องของความห่วงกังวล เพราะนายกฯ ห่วงกังวลทุกเรื่อง ห่วงประชาชนผู้มีรายได้น้อย เกษตรกรจะทำจะอยู่กันอย่างไร เศรษฐกิจประเทศจะเป็นอย่างไร ค่าเงินแข็งขึ้น หรืออ่อนตัว ขาดแคลนน้ำจะทำอย่างไร ฝนตกทุกครั้งก็กังวล แต่ต้องนำข้อกังวลมาสู่การปฏิบัติและขับเคลื่อนนโยบายซึ่งจะต้องทำทั้งวันนี้และวันข้างหน้า โดยคิดมาตรการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่จะมีมากขึ้นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน สาธารณสุข การศึกษา
“การทำงานต้องทำด้วยระบบข้าราชการหลายล้านคน วันข้างหน้าถ้าจะลดข้าราชการก็ต้องสร้างความเข้มแข็งในภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคสังคม ธุรกิจ และประชาชนเข้มแข็ง ขณะที่รัฐบาลก็คอยดูเรื่องการกระจายรายได้ ทุกคนจะมีส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศ บริหารประเทศ เพราะในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิ มีเสียง และต้องฟังเสียงส่วนใหญ่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมการรับฟังความคิดเห็น 4 คำถามของนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องปัญหาเข้ามา โดยอาจจะมีการเพิ่มช่องทางการตอบคำถาม เช่น การเปิดรับฟังความคิดเห็นในศูนย์การค้าซึ่งจะต้องมีการพิจารณาความเหมาะสมและเป็นไปได้ต่อไป เพราะมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องงบประมาณ แต่ถ้ามีความร่วมมือจากภาคเอกชนให้ใช้สถานที่คงทำได้ ส่วนช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ก็น่าเป็นไปได้ แต่ต้องยืนยันตัวเองด้วยบัตรประชาชนได้ เพราะถ้ามีการสวมสิทธิ์จะทำให้ผลการรับฟังความคิดเห็นผิดเพี้ยนไปได้ ขณะที่ผู้เขียนหนังสือไม่ได้นั้น หากอยากแสดงความคิดเจ้าหน้าที่คงหาวิธีได้