พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า(คสช.) กล่าวถึงกรณีสมาคมผู้ปลูกยางทั่วประเทศเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาราคายางพาราว่า ได้มีการหารือในที่ประชุมครม.แล้ว ซึ่งเป็นมาตรการการต่อระยะเวลาในการดำเนินการ 4 มาตราการ ที่เคยทำมาแล้ว แต่ในทางปฏิบัติขึ้นอยู่กับหลายส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่ฝ่ายเกษตรกรได้ให้คำแนะนำมา ซึ่งต้องไปหามาตรการควบคุมกำกับดูแลตาม พ.ร.บ.การยาง ที่ออกมาใหม่ ที่จะต้องมีหน่วยงานเข้าไปกำกับดูแลในส่วนของผู้ประกอบการยางด้วย
สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้เราต้องเข้าใจว่ากระบวนการต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่นั้น ความจริงดำเนินการมานานแล้ว ในโลกเสรีมีทั้งการจับขั้ว การรวมกลุ่ม การตั้งตลาดซื้อล่วงหน้า เหมือนการลงทุนซื้อหุ้น ทำให้ราคายางแกว่ง ซึ่งเป็นไปตามกลไกการค้าเสรี เราจึงต้องพยายามหาทางแก้ไขปัญหาตรงนี้ ซึ่งการคุมในประเทศ พอได้ แต่พอถึงตลาดกลางนอกประเทศ ก็คุมไม่ได้
"มาตรการอื่นๆ ที่จะทำให้ราคายางสูงขึ้น ซึ่ง 2-3 วันนี้ ขึ้นมากก.ละ 2 บาท ก็ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการด้วย ซึ่งต้องดูในหลายๆ มิติ วันนี้ก็ต้องเตรียมรองรับในเรื่องการเปิดฤดูกาลใหม่ในการกรีดยาง ซึ่งทุกครั้งก่อนเปิดฤดูการใหม่ราคายางจะตกลงทุกครั้ง ก็ต้องไปดูว่ามาจากสาเหตุอะไร อยากให้รอทางกระทรวงเกษตรฯ ชี้แจงในวันที่ 14 มิ.ย. เรื่องที่เกี่ยวข้องให้ทราบว่ามีมาตรการอย่างไร"
ส่วนที่ทางสมาคมผู้ปลูกยาง เตรียมออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ปัญหานั้น นายกฯ กล่าวว่า ขอร้อง อย่าออกมาเคลื่อนไหวอะไรเลย เพราะตนไม่อยากใช้กฎหมายบังคับ อยากหาวิธีการว่า ทำอย่างไรจะร่วมมือแก้ไขปัญหาได้ หลายอย่างคืบหน้าไปในทางที่ดีแล้ว ที่ผ่านมาราคาก็สูงขึ้น แต่ก็มีช่วงที่ลดลง ก็ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาช่วงที่ราคาลดลงอย่างไร และสาเหตุเกิดจากอะไร
"อย่าถึงขั้นเรียกร้องให้ปรับ รมว.เกษตรฯ ออกจากตำแหน่งเลย เพราะมันไม่ใช่สาเหตุ และรมว.เกษตรฯ เขาก็ทำงานหลายเรื่อง อีกทั้งหลายปัญหาเกิดขึ้นมาหลายรัฐบาลแล้ว แม้วันนี้รัฐบาลจะมีอำนาจเด็ดขาด แต่จะไปใช้อำนาจกับเกษตรกรหลายล้านคน คงทำไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องดูแลในทุกมิติ ทั้งในและต่างประเทศ ขณะนี้ก็จะมีการประชุมร่วมกันกับประเทศผู้ผลิตยางทั้งไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อให้เกิดความร่วมมือในตลาดครั้งหน้า ประเด็นสำคัญคือ ปัญหาไม่ได้อยู่ แค่ 3 ประเทศ เพราะประเทศที่ไม่ได้ผลิตเป็นเจ้าของตลาด เป็นเรื่องของการประกอบการธุรกิจ เช่น สิงคโปร์ และญี่ปุ่น อีกทั้งกรณีที่มีผลผูกพันในขณะนี้คือ เรามีสต๊อกยางอยู่ซึ่งจะมีผลต่อราคา ขณะนี้จึงต้องค่อยๆ ระบาย และไม่ให้มีผลกระทบต่อราคายางในปัจจุบัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว
สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้เราต้องเข้าใจว่ากระบวนการต่าง ๆ ที่ดำเนินการอยู่นั้น ความจริงดำเนินการมานานแล้ว ในโลกเสรีมีทั้งการจับขั้ว การรวมกลุ่ม การตั้งตลาดซื้อล่วงหน้า เหมือนการลงทุนซื้อหุ้น ทำให้ราคายางแกว่ง ซึ่งเป็นไปตามกลไกการค้าเสรี เราจึงต้องพยายามหาทางแก้ไขปัญหาตรงนี้ ซึ่งการคุมในประเทศ พอได้ แต่พอถึงตลาดกลางนอกประเทศ ก็คุมไม่ได้
"มาตรการอื่นๆ ที่จะทำให้ราคายางสูงขึ้น ซึ่ง 2-3 วันนี้ ขึ้นมากก.ละ 2 บาท ก็ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการด้วย ซึ่งต้องดูในหลายๆ มิติ วันนี้ก็ต้องเตรียมรองรับในเรื่องการเปิดฤดูกาลใหม่ในการกรีดยาง ซึ่งทุกครั้งก่อนเปิดฤดูการใหม่ราคายางจะตกลงทุกครั้ง ก็ต้องไปดูว่ามาจากสาเหตุอะไร อยากให้รอทางกระทรวงเกษตรฯ ชี้แจงในวันที่ 14 มิ.ย. เรื่องที่เกี่ยวข้องให้ทราบว่ามีมาตรการอย่างไร"
ส่วนที่ทางสมาคมผู้ปลูกยาง เตรียมออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ปัญหานั้น นายกฯ กล่าวว่า ขอร้อง อย่าออกมาเคลื่อนไหวอะไรเลย เพราะตนไม่อยากใช้กฎหมายบังคับ อยากหาวิธีการว่า ทำอย่างไรจะร่วมมือแก้ไขปัญหาได้ หลายอย่างคืบหน้าไปในทางที่ดีแล้ว ที่ผ่านมาราคาก็สูงขึ้น แต่ก็มีช่วงที่ลดลง ก็ต้องหาวิธีแก้ไขปัญหาช่วงที่ราคาลดลงอย่างไร และสาเหตุเกิดจากอะไร
"อย่าถึงขั้นเรียกร้องให้ปรับ รมว.เกษตรฯ ออกจากตำแหน่งเลย เพราะมันไม่ใช่สาเหตุ และรมว.เกษตรฯ เขาก็ทำงานหลายเรื่อง อีกทั้งหลายปัญหาเกิดขึ้นมาหลายรัฐบาลแล้ว แม้วันนี้รัฐบาลจะมีอำนาจเด็ดขาด แต่จะไปใช้อำนาจกับเกษตรกรหลายล้านคน คงทำไม่ได้ รัฐบาลก็ต้องดูแลในทุกมิติ ทั้งในและต่างประเทศ ขณะนี้ก็จะมีการประชุมร่วมกันกับประเทศผู้ผลิตยางทั้งไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เพื่อให้เกิดความร่วมมือในตลาดครั้งหน้า ประเด็นสำคัญคือ ปัญหาไม่ได้อยู่ แค่ 3 ประเทศ เพราะประเทศที่ไม่ได้ผลิตเป็นเจ้าของตลาด เป็นเรื่องของการประกอบการธุรกิจ เช่น สิงคโปร์ และญี่ปุ่น อีกทั้งกรณีที่มีผลผูกพันในขณะนี้คือ เรามีสต๊อกยางอยู่ซึ่งจะมีผลต่อราคา ขณะนี้จึงต้องค่อยๆ ระบาย และไม่ให้มีผลกระทบต่อราคายางในปัจจุบัน" นายกรัฐมนตรี กล่าว