บก.สปพ. แถลงผลจับกุมขบวนการปลอมวุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการตำรวจ ขายผ่านออนไลน์ ได้ผู้ต้องหา 6 ราย พบข้อมูลแฝงตัวอยู่ในกลุ่มขายอาวุธปืนเถื่อน ยาเสพติด รวมถึงรถหนีภาษี ก่อนนำเงินที่ได้ไปฟอกในธุรกิจอื่น
วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. แถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมวุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการตำรวจ และเอกสารราชการ ส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ โดยมีผู้ต้องหา 6 ราย ได้แก่ นายศุภชัย ไชยนิตย์ อายุ 20 ปี นายสุริยา คำสองสี อายุ 31 ปี นายสท้าน รอดพันธ์ อายุ 44 ปี นายนิธิภัทร์ ใจดี อายุ 52 ปี น.ส.ประพัฒศร สายรัตน์ อายุ 24 ปี และน.ส.จิตติมา อินเบิด อายุ 26 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนและติดตามพบว่า เป็นผู้กระทำความผิดที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มจำหน่ายอาวุธปืน และกระสุนปืนเถื่อน ยาเสพติด รวมถึงรถหลุดจำนำสวมทะเบียน และรถหนีภาษี ถือเป็นความผิดที่มีความสอดคล้อง และเอื้อประโยชน์ต่อกัน โดยผู้ต้องหาได้มีการจำหน่ายสิ่งผิดกฏหมายข้างต้นผ่านทางออนไลน์ อาทิ แอพพลิเคชั่นไลน์ หรือโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ พร้อมของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารจำนวนมาก จากนั้นจึงมีการสืบสวนขยายผลต่อไปทำให้พบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกระทำผิดดังกล่าวเพิ่มเติม จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลังฐานขอศาลออกหมายจับบุคคลดังกล่าวเพิ่มเติม
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า ส่วนหนึ่งของกระบวนการจำหน่ายสิ่งผิดกฏหมายออนไลน์นั้น มักมีการนำบัญชีของผู้อื่นมาใช้ โดยให้มีการรับจ้างเปิดบัญชี แลกกับค่าจ้างประมาณ1,000 - 2,000 บาท โดยมีการกระทำเป็นขบวนการ มีจุดประสงค์เพื่อปิดบังอำพรางธุรกรรมทางการเงิน หลบเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งมีการใช้เอกสารเท็จในการทำธุรกรรม พร้อมนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอกในธุรกิจอื่น ซึ่งการที่ผู้ใดมีพฤติกรรมรับจ้างเปิดบัญชี ขายบัญชี หรือยินยอมให้ผู้อื่นนำบัญชีตนเองไปใช้ทำธุรกรรมผิดกฏหมายนั้น ถือเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจสนับสนุนโจรให้ก่อเหตุอาชญากรรมซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
วานนี้ (11 มิ.ย.) ที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (บก.สปพ.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. แถลงผลการจับกุมขบวนการปลอมวุฒิการศึกษา บัตรข้าราชการตำรวจ และเอกสารราชการ ส่งขายออนไลน์ทั่วประเทศ โดยมีผู้ต้องหา 6 ราย ได้แก่ นายศุภชัย ไชยนิตย์ อายุ 20 ปี นายสุริยา คำสองสี อายุ 31 ปี นายสท้าน รอดพันธ์ อายุ 44 ปี นายนิธิภัทร์ ใจดี อายุ 52 ปี น.ส.ประพัฒศร สายรัตน์ อายุ 24 ปี และน.ส.จิตติมา อินเบิด อายุ 26 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ
ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนและติดตามพบว่า เป็นผู้กระทำความผิดที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มจำหน่ายอาวุธปืน และกระสุนปืนเถื่อน ยาเสพติด รวมถึงรถหลุดจำนำสวมทะเบียน และรถหนีภาษี ถือเป็นความผิดที่มีความสอดคล้อง และเอื้อประโยชน์ต่อกัน โดยผู้ต้องหาได้มีการจำหน่ายสิ่งผิดกฏหมายข้างต้นผ่านทางออนไลน์ อาทิ แอพพลิเคชั่นไลน์ หรือโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสารราชการ พร้อมของกลางที่ใช้ในการกระทำผิดเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารจำนวนมาก จากนั้นจึงมีการสืบสวนขยายผลต่อไปทำให้พบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับการกระทำผิดดังกล่าวเพิ่มเติม จึงได้ทำการรวบรวมพยานหลังฐานขอศาลออกหมายจับบุคคลดังกล่าวเพิ่มเติม
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า ส่วนหนึ่งของกระบวนการจำหน่ายสิ่งผิดกฏหมายออนไลน์นั้น มักมีการนำบัญชีของผู้อื่นมาใช้ โดยให้มีการรับจ้างเปิดบัญชี แลกกับค่าจ้างประมาณ1,000 - 2,000 บาท โดยมีการกระทำเป็นขบวนการ มีจุดประสงค์เพื่อปิดบังอำพรางธุรกรรมทางการเงิน หลบเลี่ยงการตรวจสอบ ซึ่งมีการใช้เอกสารเท็จในการทำธุรกรรม พร้อมนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปฟอกในธุรกิจอื่น ซึ่งการที่ผู้ใดมีพฤติกรรมรับจ้างเปิดบัญชี ขายบัญชี หรือยินยอมให้ผู้อื่นนำบัญชีตนเองไปใช้ทำธุรกรรมผิดกฏหมายนั้น ถือเป็นผู้รู้เห็นเป็นใจสนับสนุนโจรให้ก่อเหตุอาชญากรรมซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
