ข่าวปนคน คนปนข่าว
** เด้งดึ๋ง 2 ตร.เซลฟี่ ลดกระแสด่า “นายพลเสนอหน้า” ปิดจ๊อบ “แก๊งอีเปรี้ยว” อย่าลืมสาวต่อ "แก๊งค้ายาขอนแก่น"
ของเขาแรงจริงๆ .. อาฟเตอร์ช็อกจาก “เปรี้ยวแอนด์เดอะแก๊ง”ฆาตกรมือฆ่าหั่นศพ ทำเอา“พี่ตำรวจ”เจอพิษเซลฟี่มรณะ .. เด้งดึ๋งไปแบบไม่ทันได้ร่ำลา รายหนึ่ง พ.ต.ท.ฤทธิไกร กะระกล รองผู้กำกับการ ตม.เชียงราย อีกราย ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญตันหล้า รองสารวัตร ตม.เชียงราย ทั้ง 2 คนถูกย้ายไปเข้ากรุ ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตม.5 .. ชื่อนายตำรวจทั้งคู่อาจไม่คุ้นหู แต่คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็คนที่ทำหน้าระรื่นถ่ายภาพคู่ “สาวเปรี้ยว”นั่นแหละ .. จากที่“บิ๊กตำรวจ”เคยปก ป้องว่า นี่เป็น“จิตวิทยาขั้นเทพ”ให้ผู้ต้องหาผ่อนคลาย แต่เมื่อสู้กระแสด่ากราดในโซเชี่ยลฯไม่ไหว ก็ “คดีพลิก”ให้เหตุผลในคำสั่งว่า ภาพที่ปรากฏตำรวจทั้ง 2 นาย ส่งผลให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของสตม.และ สตช. .. คงกะจะ “ตัดตอน”ลดกระแสด่าทอวงการสีกากี จริงๆ บรรทัดฐานแบบนี้น่าจะเด้งให้หมด อย่าง“นายพลตำรวจ”ที่ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ เสนอหน้า ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่น่าเอาไว้เหมือนกัน
หลังจากนี้ต้องทำใจว่า“กระแสอีเปรี้ยว”มันก็จะเงียบๆหน่อย คงลดอาการเข็ดฟันของบางคนลงได้บ้าง ไม่ต้องมาบ่นพึมว่าไปให้ความสำคัญจน “ฆาตกร”กลายเป็น “ไอดอล”.. ก็ตอนนี้ “เปรี้ยว–เอิร์น - แจ้”ก็เข้าสู่กระบวนการฝากขังไปสมทบเพื่อนอีก 2 คน ที่โดนจับก่อนหน้านี้ในเรือนจำเป็นที่เรียบร้อย … โดยตำรวจจะมีอำนาจขอฝากขังได้ 12 ผลัดๆ ละ 7 วัน เบ็ดเสร็จ 84 วัน ความเคลื่อนไหวก็จะมีเพียงการเบิกตัวเพื่อสอบปากคำประกอบการจัดทำสำนวน ไม่มีการนำตัวมาแห่ทำแผนในอารมณ์“นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก”ให้เห็นอีกแล้ว .. แต่“แฟนคลับแก๊งหั่น”ก็ไม่ต้องห่วง “สาวเปรี้ยวและคณะ”จะมีแวบๆ ออกมาศาลเพื่อขออำนาจฝากขังต่อ ให้หายคิดถึงกันบ้าง
ว่ากันตามจริง ตื้นลึกหนาบางในคดีฆ่า“น้องแอ๋ม”ก็ถูกชำแหละไปจนสิ้นไส้ สำนวนคงก็ไม่ลึกลับซับซ้อนอะไรแล้ว“ขาเผือกโซเชี่ยลฯ”ยังเขียนได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตามปกติ “พี่ตำรวจ”ก็มักใช้อำนาจฝากขังกันเต็มลิมิต ค่อยส่งสำนวนยื่นฟ้องไปตามเรื่อง อาจขอเลี้ยงไข้ไว้เผื่อมีจังหวะดีๆ เอาออกมาห้อยโหนกระแสกันอีก .. แล้วที่ต้องตามต่อก็ประเด็น“ขบวนการค้ายา”ที่ประโคมมาก่อนหน้านี้ ว่าตำรวจขอนแก่นจะต่อจิ๊กซอร์เชื่อมโยง“ตัวการใหญ่”ได้รึป่าว หรือจะไปชนตอแล้วลืมๆกันไปตามสูตร อย่างน้อยก็ต้องไม่ลืมเช็คบิล ตำรวจ ภาค 4-ตำรวจขอนแก่น ที่ปล่อยให้ยาเสพติดระบาดในพื้นที่ด้วยนะขอรับเจ้านาย
** เมื่อ"ฮีโร่ตู่" ออกปากติง"ฆาตกร"ไม่ใช่ "ฮีโร่" ปรามข่าว "แก๊งหั่นศพ" กลบเรื่องดีๆโหม้ดดด
อ้าว!! หมดรอบข่าวดัง“เปรี้ยวแอนด์เดอะแก๊ง”หันมาดูข่าวอื่นกันบ้าง เจ้าของสัมปทานพื้นที่สื่อรายเดิมอย่าง“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังกลัว “พิกุลร่วง”ไม่ให้สัมภาษณ์เหมือนเดิม มีเกาะกระแสข่าวฮอต ติงสื่อเล็กๆว่าไปนำเสนอข่าว“แก๊งหั่นศพ”จนเกินพอดี “ยุ่งอยู่กับเรื่องเดียว เรื่องดีๆ หายหมด” นายกฯเขาว่างั้นนะ ทั้งที่ในใจคงกระหยิ่มยิ้มย่อง หัวเราะโฮะๆ มีคนมาช่วยกลบกระแสข่าวผลงานรัฐบาล-4คำถามยื้ออำนาจคสช. .. แล้วนายกฯ ก็บอกอีกว่า อย่าไปยก "ฆาตกร" ให้เป็น "ฮีโร่" .. ก็เชื่อว่า คงไม่มีใครอยากยัดทะนานให้เมืองไทยต้องมี"ฮีโร่" ให้รุงรังอีกหรอก แค่ 3 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยต้องหลงอยู่ใน "ลัทธิบูชาคนดี-ฮีโร" ก่อนจะมาจับได้ว่าหลงไปบูชา "คนดี-ฮีโร่เกรดท๊อปมิลเลอร์" ก็นานเกินพอแล้ว
อ๊ะๆ ขอมาก็จัดให้ หันมาดูต่อข่าวดีๆ เรื่องเด่นๆ มีอะไรบ้าง ระเบิดรพ.พระมงกุฎเกล้า ระดมตำรวจมือดี 200 กว่านาย มาร่วมชุดสืบสวนก็ยังเงียบฉี่ สู้ตำรวจร่วมร้อยชีวิตที่ร่วมจับกุม “แก๊งสาวเปรี้ยว”ก็ไม่ได้.. แต่ขอโทษ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่มีประสบการณ์เรื่องได้สองเด้งมาก่อน ได้บอกกล่าวกับตำรวจที่ลงชื่อร่วมจับกุมเป็นหางว่าว อย่าได้หวังว่าจะได้ 2 ขั้น...ฮา!!
** "บิ๊กไทย-บิ๊กเขมร" หนุน Startup ทหารไทย ค้าอาวุธออนไลน์
เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรนะ อาจจะมีข่าวไม่ค่อยดี แต่น่าสนใจไม่น้อย ก็กรณี“พันจ่าอากาศเอก”ขนอาวุธสงคราม เตรียมไปขายให้ชนกลุ่มน้อยภาคเหนือ แต่ดันเกิดอุบัติเหตุ รถตกถนน จนโดนรวบ .. งานฮาร์ดคอร์แบบนี้ ผู้รับสัมปทานเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก“บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่พอเกิดเรื่องก็บ่ายหน้าตรงดิ่งไปที่ จ.ตราด เพื่อสอบสวนด้วยตัวเอง ผู้ต้องหาบอกว่าเป็นอาวุธที่ซื้อจากกัมพูชา เตรียมส่งขายต่อให้ชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์ ทำมาแล้ว 3 ครั้งในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พร้อมย้ำ “กระทำการเพียงคนเดียว”ไม่น่าเชื่อ!! ท่ามกลางกระแสข่าวมี "บิ๊กไทย-บิ๊กเขมร" อยู่เบื้องหลัง จนกลายเป็นขบวนการใหญ่โตทางเบื้องบูรพาทิศมานานแล้ว
การที่ทหารหันมาลอบขนอาวุธไปขาย อาจเป็นการสนองนโยบายรัฐบาล คสช. ที่สนับสนุนให้เกิด“Startup-สตาร์ทอัพ”ผู้ประกอบการธุรกิจแนวใหม่ รายของ “พันจ่าอากาศเอก”ที่ จ.ตราด ยังไม่เข้าขั้น ตีโจทย์เรื่องโลจิสติกส์ไม่แตก เล่นเสี่ยงขนของไปส่งลูกค้าเอง จนเกิดเรื่อง .. ต้องรายนี้ ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน. 1 รอ.) กรมใน กทม.นี่เอง ขโมยยุทธภัณฑ์ ทั้งอาวุธ-ระเบิด-เครื่องกระสุน ออกจาก“คลังแสง” ตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งทางออนไลน์ แล้วจัดส่งผ่าน“บริษัทเอกชน” .. ตีโจทย์แตกโพละ เลือกสินค้าต้นทุนต่ำ มีสต็อกของไม่ต้องเช่าโกดังเสียด้วย แล้วก็ยังรู้จักใช้ระบบโลจิสติกส์ ให้เป็นประโยชน์ ทำมา 20 กว่าครั้ง ส่งของถึงมือลูกค้าไม่เคยพลาด .. นี่ถ้าไม่โดนจับได้ อาจเขียนแผนธุรกิจไปยื่นกู้แบงก์รัฐ ผ่านฉลุย
แล้วที่เรื่องแดงขึ้นมา ก็แดงที่ปลายทาง เมื่อมีผู้แจ้งว่าพบระเบิดสังหาร M 67–M 26 และเครื่องกระสุนบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ ที่ศูนย์ส่งสินค้าของบริษัทเอกชน จนขยายผลมาถึงตัวนายทหารที่ว่า ที่สารภาพว่า ทำมา 20 กว่าครั้ง สะท้อนความหละหลวม การควบคุมตรวจตรายุทธภัณฑ์กองทัพ โดยเฉพาะในยามที่มีการก่อเหตุวินาศกรรม สร้างสถานการณ์ไม่หยุดแบบนี้ .. ก็ไม่แปลกหรอกที่ทั้ง “บิ๊กเจี๊ยบ”พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และ“บิ๊กแดง”พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 จะควันออกหู
**“ขาใหญ่ตระกูล ส.”ไฟเขียว “แคนคิเดต อ.”คว้าชิ้นปลามัน ผอ.ไทยพีบีเอส
ปิดกล่องแล้วจ้า.. รายชื่อผู้สมัครรับตำแหน่ง ผอ.ไทยพีบีเอส ที่ขยายระยะเวลารับสมัครมารอบนึง ที่สุดก็มี“ตัวละครลับ”โผล่มาร่วมแจมรายเดียว รวมเบ็ดเสร็จตอนนี้มีแคนดิเดตทั้งหมด 9 คน .. “ตัวละครลับ”ที่มาเติมภายหลังเห็นว่าชื่อ ฐานุตรา สร้างสุขดี ที่ลับขนาดไม่ปรากฏอยู่ในสารบบ“คนทำสื่อ”พอใช้บริการ “อาจารย์กู”ก็ยังพบแค่เคยยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมวิทยุชุมชน ของกรมประชาสัมพันธ์ เท่านั้น .. ส่วนรายอื่นๆ อีก 8 ราย ก็ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา คนที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติก็ยังอยู่ .. ในวงการกะเก็งไปตามเรื่อง ตัวเต็งที่เคยมาแรงก็ทำใจยกธงขาวไปล่วงหน้า ด้วยมีความผิดซื้อหุ้นกู้พ่วงกับ ผอ.คนเก่า เป็นชนักปักหลังอยู่ .. กระแสเลยเทมาที่“แคนคิเดต อ.”ไม่ใช่ใคร อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตผู้บริหารเนชั่นทีวี ที่คาดว่าจะคว้าชิ้นปลามันไปรับประทาน สำทับกับข่าวที่“บิ๊กค่ายบางนา”ล้อมวงแบ่งเค้กกับ“ขาใหญ่ตระกูล ส.”จัดสรรเก้าอี้ รอง ผอ.กันลงตัวเรียบร้อย .. เดี๋ยวพอประกาศผล ก็ต้องจับตา การผ่องถ่ายบุคลากรค่าตัวแพง จาก “ค่ายบางนา”โยกมากินค่าแรงที่“ไทยพีบีเอส”แทน .. ด้วยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านต่อปี คงเจียดไปเลี้ยงดู“ลูกน้องเก่า-ลูกน้องใหม่”ได้สบายๆ.
ช.ชฎา
รูป--
พ.ต.ท.ฤทธิไกร กะระกล
ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญตันหล้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ
** เด้งดึ๋ง 2 ตร.เซลฟี่ ลดกระแสด่า “นายพลเสนอหน้า” ปิดจ๊อบ “แก๊งอีเปรี้ยว” อย่าลืมสาวต่อ "แก๊งค้ายาขอนแก่น"
ของเขาแรงจริงๆ .. อาฟเตอร์ช็อกจาก “เปรี้ยวแอนด์เดอะแก๊ง”ฆาตกรมือฆ่าหั่นศพ ทำเอา“พี่ตำรวจ”เจอพิษเซลฟี่มรณะ .. เด้งดึ๋งไปแบบไม่ทันได้ร่ำลา รายหนึ่ง พ.ต.ท.ฤทธิไกร กะระกล รองผู้กำกับการ ตม.เชียงราย อีกราย ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญตันหล้า รองสารวัตร ตม.เชียงราย ทั้ง 2 คนถูกย้ายไปเข้ากรุ ปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตม.5 .. ชื่อนายตำรวจทั้งคู่อาจไม่คุ้นหู แต่คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็คนที่ทำหน้าระรื่นถ่ายภาพคู่ “สาวเปรี้ยว”นั่นแหละ .. จากที่“บิ๊กตำรวจ”เคยปก ป้องว่า นี่เป็น“จิตวิทยาขั้นเทพ”ให้ผู้ต้องหาผ่อนคลาย แต่เมื่อสู้กระแสด่ากราดในโซเชี่ยลฯไม่ไหว ก็ “คดีพลิก”ให้เหตุผลในคำสั่งว่า ภาพที่ปรากฏตำรวจทั้ง 2 นาย ส่งผลให้เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของสตม.และ สตช. .. คงกะจะ “ตัดตอน”ลดกระแสด่าทอวงการสีกากี จริงๆ บรรทัดฐานแบบนี้น่าจะเด้งให้หมด อย่าง“นายพลตำรวจ”ที่ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ เสนอหน้า ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็ไม่น่าเอาไว้เหมือนกัน
หลังจากนี้ต้องทำใจว่า“กระแสอีเปรี้ยว”มันก็จะเงียบๆหน่อย คงลดอาการเข็ดฟันของบางคนลงได้บ้าง ไม่ต้องมาบ่นพึมว่าไปให้ความสำคัญจน “ฆาตกร”กลายเป็น “ไอดอล”.. ก็ตอนนี้ “เปรี้ยว–เอิร์น - แจ้”ก็เข้าสู่กระบวนการฝากขังไปสมทบเพื่อนอีก 2 คน ที่โดนจับก่อนหน้านี้ในเรือนจำเป็นที่เรียบร้อย … โดยตำรวจจะมีอำนาจขอฝากขังได้ 12 ผลัดๆ ละ 7 วัน เบ็ดเสร็จ 84 วัน ความเคลื่อนไหวก็จะมีเพียงการเบิกตัวเพื่อสอบปากคำประกอบการจัดทำสำนวน ไม่มีการนำตัวมาแห่ทำแผนในอารมณ์“นักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก”ให้เห็นอีกแล้ว .. แต่“แฟนคลับแก๊งหั่น”ก็ไม่ต้องห่วง “สาวเปรี้ยวและคณะ”จะมีแวบๆ ออกมาศาลเพื่อขออำนาจฝากขังต่อ ให้หายคิดถึงกันบ้าง
ว่ากันตามจริง ตื้นลึกหนาบางในคดีฆ่า“น้องแอ๋ม”ก็ถูกชำแหละไปจนสิ้นไส้ สำนวนคงก็ไม่ลึกลับซับซ้อนอะไรแล้ว“ขาเผือกโซเชี่ยลฯ”ยังเขียนได้เลยด้วยซ้ำ แต่ตามปกติ “พี่ตำรวจ”ก็มักใช้อำนาจฝากขังกันเต็มลิมิต ค่อยส่งสำนวนยื่นฟ้องไปตามเรื่อง อาจขอเลี้ยงไข้ไว้เผื่อมีจังหวะดีๆ เอาออกมาห้อยโหนกระแสกันอีก .. แล้วที่ต้องตามต่อก็ประเด็น“ขบวนการค้ายา”ที่ประโคมมาก่อนหน้านี้ ว่าตำรวจขอนแก่นจะต่อจิ๊กซอร์เชื่อมโยง“ตัวการใหญ่”ได้รึป่าว หรือจะไปชนตอแล้วลืมๆกันไปตามสูตร อย่างน้อยก็ต้องไม่ลืมเช็คบิล ตำรวจ ภาค 4-ตำรวจขอนแก่น ที่ปล่อยให้ยาเสพติดระบาดในพื้นที่ด้วยนะขอรับเจ้านาย
** เมื่อ"ฮีโร่ตู่" ออกปากติง"ฆาตกร"ไม่ใช่ "ฮีโร่" ปรามข่าว "แก๊งหั่นศพ" กลบเรื่องดีๆโหม้ดดด
อ้าว!! หมดรอบข่าวดัง“เปรี้ยวแอนด์เดอะแก๊ง”หันมาดูข่าวอื่นกันบ้าง เจ้าของสัมปทานพื้นที่สื่อรายเดิมอย่าง“นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยังกลัว “พิกุลร่วง”ไม่ให้สัมภาษณ์เหมือนเดิม มีเกาะกระแสข่าวฮอต ติงสื่อเล็กๆว่าไปนำเสนอข่าว“แก๊งหั่นศพ”จนเกินพอดี “ยุ่งอยู่กับเรื่องเดียว เรื่องดีๆ หายหมด” นายกฯเขาว่างั้นนะ ทั้งที่ในใจคงกระหยิ่มยิ้มย่อง หัวเราะโฮะๆ มีคนมาช่วยกลบกระแสข่าวผลงานรัฐบาล-4คำถามยื้ออำนาจคสช. .. แล้วนายกฯ ก็บอกอีกว่า อย่าไปยก "ฆาตกร" ให้เป็น "ฮีโร่" .. ก็เชื่อว่า คงไม่มีใครอยากยัดทะนานให้เมืองไทยต้องมี"ฮีโร่" ให้รุงรังอีกหรอก แค่ 3 ปีที่ผ่านมา สังคมไทยต้องหลงอยู่ใน "ลัทธิบูชาคนดี-ฮีโร" ก่อนจะมาจับได้ว่าหลงไปบูชา "คนดี-ฮีโร่เกรดท๊อปมิลเลอร์" ก็นานเกินพอแล้ว
อ๊ะๆ ขอมาก็จัดให้ หันมาดูต่อข่าวดีๆ เรื่องเด่นๆ มีอะไรบ้าง ระเบิดรพ.พระมงกุฎเกล้า ระดมตำรวจมือดี 200 กว่านาย มาร่วมชุดสืบสวนก็ยังเงียบฉี่ สู้ตำรวจร่วมร้อยชีวิตที่ร่วมจับกุม “แก๊งสาวเปรี้ยว”ก็ไม่ได้.. แต่ขอโทษ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่มีประสบการณ์เรื่องได้สองเด้งมาก่อน ได้บอกกล่าวกับตำรวจที่ลงชื่อร่วมจับกุมเป็นหางว่าว อย่าได้หวังว่าจะได้ 2 ขั้น...ฮา!!
** "บิ๊กไทย-บิ๊กเขมร" หนุน Startup ทหารไทย ค้าอาวุธออนไลน์
เรื่องอื่นก็ไม่มีอะไรนะ อาจจะมีข่าวไม่ค่อยดี แต่น่าสนใจไม่น้อย ก็กรณี“พันจ่าอากาศเอก”ขนอาวุธสงคราม เตรียมไปขายให้ชนกลุ่มน้อยภาคเหนือ แต่ดันเกิดอุบัติเหตุ รถตกถนน จนโดนรวบ .. งานฮาร์ดคอร์แบบนี้ ผู้รับสัมปทานเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก“บิ๊กปู”พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ที่พอเกิดเรื่องก็บ่ายหน้าตรงดิ่งไปที่ จ.ตราด เพื่อสอบสวนด้วยตัวเอง ผู้ต้องหาบอกว่าเป็นอาวุธที่ซื้อจากกัมพูชา เตรียมส่งขายต่อให้ชนกลุ่มน้อยในเมียนมาร์ ทำมาแล้ว 3 ครั้งในรอบไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พร้อมย้ำ “กระทำการเพียงคนเดียว”ไม่น่าเชื่อ!! ท่ามกลางกระแสข่าวมี "บิ๊กไทย-บิ๊กเขมร" อยู่เบื้องหลัง จนกลายเป็นขบวนการใหญ่โตทางเบื้องบูรพาทิศมานานแล้ว
การที่ทหารหันมาลอบขนอาวุธไปขาย อาจเป็นการสนองนโยบายรัฐบาล คสช. ที่สนับสนุนให้เกิด“Startup-สตาร์ทอัพ”ผู้ประกอบการธุรกิจแนวใหม่ รายของ “พันจ่าอากาศเอก”ที่ จ.ตราด ยังไม่เข้าขั้น ตีโจทย์เรื่องโลจิสติกส์ไม่แตก เล่นเสี่ยงขนของไปส่งลูกค้าเอง จนเกิดเรื่อง .. ต้องรายนี้ ส.อ.ธนากรณ์ บุญกาญจน์ ทหารสังกัดกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ (ช.พัน. 1 รอ.) กรมใน กทม.นี่เอง ขโมยยุทธภัณฑ์ ทั้งอาวุธ-ระเบิด-เครื่องกระสุน ออกจาก“คลังแสง” ตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งทางออนไลน์ แล้วจัดส่งผ่าน“บริษัทเอกชน” .. ตีโจทย์แตกโพละ เลือกสินค้าต้นทุนต่ำ มีสต็อกของไม่ต้องเช่าโกดังเสียด้วย แล้วก็ยังรู้จักใช้ระบบโลจิสติกส์ ให้เป็นประโยชน์ ทำมา 20 กว่าครั้ง ส่งของถึงมือลูกค้าไม่เคยพลาด .. นี่ถ้าไม่โดนจับได้ อาจเขียนแผนธุรกิจไปยื่นกู้แบงก์รัฐ ผ่านฉลุย
แล้วที่เรื่องแดงขึ้นมา ก็แดงที่ปลายทาง เมื่อมีผู้แจ้งว่าพบระเบิดสังหาร M 67–M 26 และเครื่องกระสุนบรรจุอยู่ในกล่องพัสดุ ที่ศูนย์ส่งสินค้าของบริษัทเอกชน จนขยายผลมาถึงตัวนายทหารที่ว่า ที่สารภาพว่า ทำมา 20 กว่าครั้ง สะท้อนความหละหลวม การควบคุมตรวจตรายุทธภัณฑ์กองทัพ โดยเฉพาะในยามที่มีการก่อเหตุวินาศกรรม สร้างสถานการณ์ไม่หยุดแบบนี้ .. ก็ไม่แปลกหรอกที่ทั้ง “บิ๊กเจี๊ยบ”พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. และ“บิ๊กแดง”พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 จะควันออกหู
**“ขาใหญ่ตระกูล ส.”ไฟเขียว “แคนคิเดต อ.”คว้าชิ้นปลามัน ผอ.ไทยพีบีเอส
ปิดกล่องแล้วจ้า.. รายชื่อผู้สมัครรับตำแหน่ง ผอ.ไทยพีบีเอส ที่ขยายระยะเวลารับสมัครมารอบนึง ที่สุดก็มี“ตัวละครลับ”โผล่มาร่วมแจมรายเดียว รวมเบ็ดเสร็จตอนนี้มีแคนดิเดตทั้งหมด 9 คน .. “ตัวละครลับ”ที่มาเติมภายหลังเห็นว่าชื่อ ฐานุตรา สร้างสุขดี ที่ลับขนาดไม่ปรากฏอยู่ในสารบบ“คนทำสื่อ”พอใช้บริการ “อาจารย์กู”ก็ยังพบแค่เคยยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการเตรียมความพร้อมวิทยุชุมชน ของกรมประชาสัมพันธ์ เท่านั้น .. ส่วนรายอื่นๆ อีก 8 ราย ก็ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา คนที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติก็ยังอยู่ .. ในวงการกะเก็งไปตามเรื่อง ตัวเต็งที่เคยมาแรงก็ทำใจยกธงขาวไปล่วงหน้า ด้วยมีความผิดซื้อหุ้นกู้พ่วงกับ ผอ.คนเก่า เป็นชนักปักหลังอยู่ .. กระแสเลยเทมาที่“แคนคิเดต อ.”ไม่ใช่ใคร อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตผู้บริหารเนชั่นทีวี ที่คาดว่าจะคว้าชิ้นปลามันไปรับประทาน สำทับกับข่าวที่“บิ๊กค่ายบางนา”ล้อมวงแบ่งเค้กกับ“ขาใหญ่ตระกูล ส.”จัดสรรเก้าอี้ รอง ผอ.กันลงตัวเรียบร้อย .. เดี๋ยวพอประกาศผล ก็ต้องจับตา การผ่องถ่ายบุคลากรค่าตัวแพง จาก “ค่ายบางนา”โยกมากินค่าแรงที่“ไทยพีบีเอส”แทน .. ด้วยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านต่อปี คงเจียดไปเลี้ยงดู“ลูกน้องเก่า-ลูกน้องใหม่”ได้สบายๆ.
ช.ชฎา
รูป--
พ.ต.ท.ฤทธิไกร กะระกล
ร.ต.อ.ธวัชศิลป์ บุญตันหล้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ