ในที่สุด ก๊วน “น้องเปรี้ยว” สาวผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญก็ได้เป็นคนดังระดับซูเปอร์เซเลบเมื่อถูกจับกุมพร้อม 2 เพื่อนสาว โดยตำรวจพม่าที่ท่าขี้เหล็ก ส่งตัวให้ตำรวจไทยหลังจากที่มีข่าวว่า 3 สาวสวยสังหารได้หลบหนีเข้าไปในพื้นที่ว้าแดงประเทศพม่าแล้ว
บางสื่อรู้มากอ้างเป็นตุเป็นตะว่าแก๊งสวยโหดได้ไปซบอก “พันโทยี่เซ” เรียบร้อย แลกกับการได้ที่พักพิงหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยเหมือน “บังรอน” นักค้ายาบ้า ทุกวันนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร แถมมีเสียงร่ำลือว่าอาจกลับมาบ้านแล้ว
เดิมทีวันนี้กระพ้มว่าจะเขียนเรื่องการเมืองน้ำเน่าฝุ่นตลบเพราะนักซื้อเสียงเลือกตั้งเริ่มเคลื่อนไหว ทั้งๆ ที่รู้ดีว่าคงไม่มีเลือกตั้งอีกนาน เรื่องเลือกตั้งปี 2561 นั้นเกินสภาพข่าวโคมลอยกลายเป็นเรื่องฝันเฟื่อง ถึงอย่างไรก็จะไม่มีเลือกตั้งโดยมีเหตุผลพิสดารธรรมดาๆ
คดี 3 สาวผู้ต้องหานักฆ่าหั่นศพไม่ธรรมดาหลายประการ เช่นเป็นแก๊งสาวสวยสามใบเถามีประวัติโลดโผนไม่เบา เลือดเย็น อำมหิต ฆ่าแล้วยังเอาเลื่อยมาหั่นศพเหยื่อสาวเพื่อนร่วมอาชีพเป็นท่อนๆ อวัยวะภายในเกลื่อนก็ยังทำได้ ไม่สะทกสะท้านเพราะแรงแค้น
ทั้ง 3 สาว สวยพอใช้ ใจถึง การไล่ล่าของตำรวจไทยจึงโดนกระตุ้นด้วยข่าวอันโอชะของสื่อ แข่งกันค้นหาเส้นทางหลบหนี ล่าสุดพันโทยี่เซคงแช่งชักหักกระดูกคนทำข่าว “ไอ้ห่. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมมาทึกทักว่ากูจะได้เมียเพิ่ม...” มันน่าแค้นมั้ย!
ยังดีนะ พันโทยี่เซไม่ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ปฏิเสธว่าได้รับอุปการะ “น้องเปรี้ยว” ให้อยู่ในสังกัด หรือหาเรื่องให้เมียตัวเองต้องไปซื้อเลื่อยมาเตรียมไว้ ถ้าท่านผู้พันรับคนไว้ใต้ชายคาจริงอย่างที่สื่อข่าวลือ เมื่อโดนเจ้าหน้าที่พม่าจับกุมไปแล้ว จะเสียดายมั้ย
อันที่จริง ทั้ง 3 สาวสวยสังหารไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นมากนัก ภาพจากกล้องวงจรปิดในตลาดท่าขี้เหล็กฝั่งตรงข้ามด่านแม่สายโชว์ทั้ง 3 สาวเดินชอปปิ้งอย่างสบายใจ ไม่ได้หนีหัวซุกหัวซุนแต่อย่างใด หรือดูแล้วว่าต่อให้หนีไปหาว้าแดง ใช่ว่าพันโทยี่เซจะอวยด้วยง่ายๆ
สื่อไทยดูหมิ่นรสนิยมท่านพันโทยี่เซเกินไป สาวว้าสวยธรรมชาติไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ซิลิโคน หรือสารแปลกปลอม และคุณนายผู้พันจะยอมง่ายๆ หรือ?! ความโกรธ ความผิดหวัง ความแค้นของสตรี ทำให้ชายนักรักโดนหั่นเป็นตาลยอดด้วนสิ้นท่าไปเยอะแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารพม่าถือว่ามีฝีมือเก่งฉกาจ มีพลังกดดันใช้ได้ ไม่มีใครกล้ารับทั้ง 3 สาวไว้ในอุปการะ ถ้าประเมินแล้วเก่งกว่าเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวเยอะ เพราะหาตัวแก๊งล้มเจ้า 16 คนซุกตัวอยู่ในลาวตั้งหลายปี ป่านนี้ยังไม่รู้ว่าไปฝึกอาวุธ ออกทีวี วิทยุที่ไหน
ถ้าเจ้าหน้าที่พม่าไม่ยอมร่วมมือติดตามจับกุม ทั้ง 3 สาวคงลอยนวล ส่งภาพเซลฟี่มาให้สื่อไทยได้เกาะกระแสอีกนาน ตำรวจไทยคงได้แต่รอความร่วมมือเหมือนกำลังรอ สปป. ลาวทุกวันนี้ ไม่ต่างจากรอพร้อมความหวังแบบลมๆ แล้งๆ ไม่มีคำอธิบายได้ว่าทำไม
เมื่อเจ้าหน้าที่พม่าส่งตัวแก๊ง “น้องเปรี้ยว” มาแล้ว 3 สาวยังคงไม่ตื่นเต้นตกใจ ตามข่าวบอกได้ว่าอาจอ่อนเพลีย หลังจากตุหรัดตุเหร่หนีการจับกุมนานหลายวัน แต่ได้รับการดูแล ประคบประหงม เอาใจเป็นอย่างดีโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่แม่สาย
ไม่ต้องใส่กุญแจมือในฐานะเป็นผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมโหด ได้นอนพักในห้องปรับอากาศ หลังจากหายเหนื่อยก็แต่งหน้า มาร์คหน้าเพื่อให้ดูสดสวย ทำเอาเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปถ่ายรูปด้วยทั้งหมู่และเดี่ยว “น้องเปรี้ยว” จึงได้เป็นเซเลบระดับชาติ
“น้องเปรี้ยว” ดังคนเดียว อีก 2 คนรู้สึกอิจฉาหรือไม่? แต่ “น้องเปรี้ยว” มีคลิปโชว์คุณภาพในท่าต่างๆ ทั้งเปลือยทั้งปิดบ้าง แพร่กระจายให้ชายกลัดมันชมกันทั่ว นับว่าเธอใจถึงมาก จึงไม่แปลกที่เธอโดดเด่นกว่าเพื่อนร่วมหั่นศพอีก 2 แม้อาจรับโทษอาญาเท่ากัน
เมื่อมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักเรื่องความเอื้ออาทรของเจ้าหน้าที่ คณะเซลฟี่กับเซเลบเปรี้ยวจะทำให้เจ้านายกริ้ว สั่งสอบวินัยหรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือเป็นปฏิบัติการจิตวิทยา?
เจ้าหน้าที่ยอมให้ 3 สาวมาร์คหน้า แต่งหน้าให้ดูสวยพริ้งถือว่าเป็นกรณีพิเศษ เมื่อถึงเวลาแถลงข่าวจะได้ไม่ดูเครียด แต่ก็ผิดหวัง เจ้าหน้าที่ยังเอื้ออาทรจัดหาหมวก แว่นตาดำ หน้ากากอนามัยมาให้ ผู้สื่อข่าวก็เลยไม่ได้ยลโฉม พิศดูสีหน้าแววตาให้คุ้มค่าการรอ
“น้องเปรี้ยว” และเพื่อนๆ ก็ยิ้มสู้กล้องถ่ายรูป คงนึกว่ากลุ้มใจไปทำไม อย่างไงก็หนีไม่รอด ไม่มีโทษประหารชีวิตอยู่แล้ว อย่างไรก็คงได้แก่ตายนอกคุกแน่เพราะมาตรการผ่อนปรน โทษประหารชีวิตมีก็จริงอยู่ แต่ไม่มีใครโดนประหารมา 8 ปีแล้ว มีกฎหมายไว้ดูโก้ๆ
เป็นเซเลบดังสวยประหารระดับนี้ทำเอา “เบนซ์เรซซิ่ง” และ “น้องแพท” ชิดซ้าย! ดูคดีหมอวิสุทธิ์ และหมอเสริมนั่นไง ออกมาเดินปร๋อนอกคุกนานแล้ว หลังจากได้รับการลดโทษมาเป็นลำดับ นี่เป็นรูปแบบของการเอื้ออาทรไทยสไตล์ ไม่มีใครเหมือน จากโทษประหารก็ลดมาเหลือจำคุกตลอดชีวิต ลดมาเรื่อยๆ ติดคุกเพียงไม่กี่ปีก็พ้นโทษ
รอดูเถอะ “น้องเปรี้ยว” และเพื่อนร่วมหั่นศพยังไม่ทันแก่ เป็นแค่สาวใหญ่เท่านั้น!
รายชื่อผู้มีส่วนร่วมในการจับกุมของตำรวจหน่วยต่างๆ แล้วร่วมร้อยนาย นับตั้งแต่ ผบ.ตร.เจ้าภาพหลัก สร้างมิติใหม่ในการทำคดีนี้เมื่อจำนวนเจ้าหน้าที่มากเกิ๊น เทียบกับผู้ต้องหาแค่ 3 สาว ทั้งๆ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพม่าเป็นผู้จับกุมคุมตัวมาส่งให้ตำรวจไทยแท้ๆ
แบบนี้ไง จึงได้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลคุณท่านได้จัดการปฏิรูปตำรวจ อัยการ หรือกระบวนการยุติธรรมทุกระดับให้เรียบร้อย มีความน่าเชื่อถือ เที่ยงธรรมในการทำหน้าที่แบบมืออาชีพ ก่อนบ้านเมืองเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยเลือกตั้ง ชาวบ้านจะได้อุ่นใจ
ความดังของ “น้องเปรี้ยว” ลดฮวบเมื่อตำรวจถูกสั่งห้ามถ่ายภาพเผยแพร่ซะแล้วหลังจากโดนนำตัวไปทำแผนฆ่าประกอบการทำคดี ทำใจนะ เมืองไทยก็เป็นแบบนี้แหละ