ผู้จัดการรายวัน 360 - อัยการต่างประเทศ เผยล่า “บอส อยู่วิทยา” ยังไม่คืบหน้า เตรียมประชุมร่วมคณะทำงานอัยการ-ตำรวจ 9 มิ.ย.นี้ ชี้ถอนพาสปอร์ตก็แค่ทำให้เดินทางยากขึ้น อีกด้าน “ฟอร์บประเทศไทย” เปิดโผอภิมหาเศรษฐีไทย ตระกูล "เจียรวนนท์" ยังครองแชมป์ “สิริวัฒนภักดี - จิราธิวัฒน์” ตามห่างๆ ส่วน “เฉลิม อยู่วิทยา” แห่งกระทิงแดง รวยขึ้นเกือบแสนล้าน
วานนี้ (1 มิ.ย.) นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันทีว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งทางอัยการสำนักงานต่างประเทศก็ตั้งคณะทำงานรออยู่แล้ว ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้จะมีการประชุมร่วมกันของฝ่ายกองการต่างประเทศของ สตช.และคณะทำงานจากสำนักงานอัยการต่างประเทศ
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการเพิกถอนพาสปอร์ตจะส่งผลต่อการติดตามตัวผู้ต้องหาอย่างไร นายอำนาจกล่าวว่า จะทำให้การตามตัวง่ายขึ้น เพราะเขาจะไม่สามารถนำพาสปอร์ตไทยไปใช้ประโยชน์ในการเดินทางได้ แต่ส่วนนายวรยุทธจะมีพาสปอร์ตประเทศไหนอีกหรือไม่นั้นเราไม่ทราบ แต่การเพิกถอนพาสปอร์ตไทยก็ทำให้การเดินทางของเขายากขึ้น การเดินทางที่จะใช้เส้นทางที่จะใช้ประโยชน์จากพาสปอร์ตไทยก็หมดไป
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาได้ประสานขอเข้ามอบตัวหรือไม่ นายอำนาจกล่าวว่า เรื่องการติดต่อขอมอบตัวหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของทางตำรวจ ตนรับผิดชอบเฉพาะกรณีที่ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
“จะคุยกันเรื่องนี้เพื่อมีความคืบหน้าในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ก็คงเตรียมการว่าหากเรารู้ว่าอยู่ประเทศไหนแล้วก็จะมาทำความเข้าใจกันเพื่อให้มีการประสานงานเร็วขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายทั้งระดับผู้บังคับบัญชาบริหารและระดับปฏิบัติ” นายอำนาจ กล่าว
** “อยู่วิทยา” รวยขึ้นแสนล้าน
อีกด้าน รายงานจาก นิตยสารฟอร์บ ประเทศไทย เปิดเผยผลการจัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2560 โดยตระกูลเจียรวนนท์ยังคงครองอันดับ 1 มูลค่าทรัพย์สิน 7.418 แสนล้านบาท อันดับ 2 ยังคงเป็นเจริญ สิริวัฒนภักดีด้วยมูลค่าทรัพย์สิน5.313 แสนล้านบาท อันดับ 3 ตระกูลจิราธิวัฒน์ มีมูลค่าทรัพย์สิน5.278 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 18% จากปี 2559 อันดับ 4 นายเฉลิม อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดง ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4.312 แสนล้านบาท โดยทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 9.66 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากเครือเจริญโภคภัณฑ์) ตามาด้วยอันดับ 5 นายวิชัย ศรีวัฒนประภา แห่งเครือคิงเพาเวอร์ มูลค่าทรัพย์สิน1.621 แสนล้าน รายงานระบุว่ามาจากรายได้ร้านค้าปลอดภาษีที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20%
ขณะที่มีอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่เข้าสู่ทำเนียบ 1 ใน 50 อันดับเป็นครั้งแรก ถึง 3 ราย ได้แก่ นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ผู้ก่อตั้ง ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป มีมูลค่าทรัพย์สิน2.587 หมื่นล้านบาท นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ผู้ก่อตั้งกิจการสาหร่ายอบแห้งตราเถ้าแก่น้อย มีมูลค่าสินทรัพย์ 2.104 หมื่นล้านบาท ด้วยวัยเพียงเพียง 32 ปี อีกรายคือ นายน.ส.ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ แห่งคาราบาวแดง สหายผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจกับ นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ และนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว จนมีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง2.035 หมื่นล้านบาท
“สองในสามของเหล่า 50 มหาเศรษฐีไทยจากการจัดอันดับความมั่งคั่งประจำปี 2560 โดยนิตยสารฟอร์บ ประเทศไทยนั้น ล้วนมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ กลุ่มอภิมหาเศรษฐีในทำเนียบห้าอันดับแรก ทำให้ทรัพย์สินรวมของผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ 50 อันดับพุ่งขึ้นแตะ 4.26 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี
วานนี้ (1 มิ.ย.) นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหาย และไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันทีว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งทางอัยการสำนักงานต่างประเทศก็ตั้งคณะทำงานรออยู่แล้ว ในวันที่ 9 มิ.ย.นี้จะมีการประชุมร่วมกันของฝ่ายกองการต่างประเทศของ สตช.และคณะทำงานจากสำนักงานอัยการต่างประเทศ
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีการเพิกถอนพาสปอร์ตจะส่งผลต่อการติดตามตัวผู้ต้องหาอย่างไร นายอำนาจกล่าวว่า จะทำให้การตามตัวง่ายขึ้น เพราะเขาจะไม่สามารถนำพาสปอร์ตไทยไปใช้ประโยชน์ในการเดินทางได้ แต่ส่วนนายวรยุทธจะมีพาสปอร์ตประเทศไหนอีกหรือไม่นั้นเราไม่ทราบ แต่การเพิกถอนพาสปอร์ตไทยก็ทำให้การเดินทางของเขายากขึ้น การเดินทางที่จะใช้เส้นทางที่จะใช้ประโยชน์จากพาสปอร์ตไทยก็หมดไป
เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาได้ประสานขอเข้ามอบตัวหรือไม่ นายอำนาจกล่าวว่า เรื่องการติดต่อขอมอบตัวหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของทางตำรวจ ตนรับผิดชอบเฉพาะกรณีที่ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
“จะคุยกันเรื่องนี้เพื่อมีความคืบหน้าในวันที่ 9 มิ.ย.นี้ ก็คงเตรียมการว่าหากเรารู้ว่าอยู่ประเทศไหนแล้วก็จะมาทำความเข้าใจกันเพื่อให้มีการประสานงานเร็วขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่ายทั้งระดับผู้บังคับบัญชาบริหารและระดับปฏิบัติ” นายอำนาจ กล่าว
** “อยู่วิทยา” รวยขึ้นแสนล้าน
อีกด้าน รายงานจาก นิตยสารฟอร์บ ประเทศไทย เปิดเผยผลการจัดอันดับ 50 อภิมหาเศรษฐีไทยประจำปี 2560 โดยตระกูลเจียรวนนท์ยังคงครองอันดับ 1 มูลค่าทรัพย์สิน 7.418 แสนล้านบาท อันดับ 2 ยังคงเป็นเจริญ สิริวัฒนภักดีด้วยมูลค่าทรัพย์สิน5.313 แสนล้านบาท อันดับ 3 ตระกูลจิราธิวัฒน์ มีมูลค่าทรัพย์สิน5.278 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้น 18% จากปี 2559 อันดับ 4 นายเฉลิม อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดง ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน 4.312 แสนล้านบาท โดยทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ถึง 9.66 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากเครือเจริญโภคภัณฑ์) ตามาด้วยอันดับ 5 นายวิชัย ศรีวัฒนประภา แห่งเครือคิงเพาเวอร์ มูลค่าทรัพย์สิน1.621 แสนล้าน รายงานระบุว่ามาจากรายได้ร้านค้าปลอดภาษีที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 20%
ขณะที่มีอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่เข้าสู่ทำเนียบ 1 ใน 50 อันดับเป็นครั้งแรก ถึง 3 ราย ได้แก่ นายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ผู้ก่อตั้ง ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป มีมูลค่าทรัพย์สิน2.587 หมื่นล้านบาท นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ผู้ก่อตั้งกิจการสาหร่ายอบแห้งตราเถ้าแก่น้อย มีมูลค่าสินทรัพย์ 2.104 หมื่นล้านบาท ด้วยวัยเพียงเพียง 32 ปี อีกรายคือ นายน.ส.ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ แห่งคาราบาวแดง สหายผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจกับ นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ และนายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว จนมีมูลค่าทรัพย์สินสูงถึง2.035 หมื่นล้านบาท
“สองในสามของเหล่า 50 มหาเศรษฐีไทยจากการจัดอันดับความมั่งคั่งประจำปี 2560 โดยนิตยสารฟอร์บ ประเทศไทยนั้น ล้วนมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มที่มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ กลุ่มอภิมหาเศรษฐีในทำเนียบห้าอันดับแรก ทำให้ทรัพย์สินรวมของผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศ 50 อันดับพุ่งขึ้นแตะ 4.26 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี
