ในขณะที่บ้านเรากำลังมีการเคลื่อนไหวเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของสื่อให้อยู่ใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของรัฐ จากการเสนอร่างกฎหมายให้ตีทะเบียนสื่อ ในความหมายที่จะพยายามควบคุมคนทำหน้าที่สื่อให้กว้างขวางที่สุด และกำลังมีแรงต่อต้านอย่างแข็งขันขณะนี้
ที่สหรัฐฯ ซึ่งมีหลักประกันในรัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพแก่สื่อสูงสุด และรัฐจะไม่สามารถไปปิดปากสื่อหรือควบคุมการแสดงความคิดเห็นใดๆ จากทุกสื่อได้ โดยเขามีกฎหมายหมิ่นประมาทควบคุมอยู่แล้วก็เพียงพอที่สื่อจะต้องรับผิดชอบต่อเนื้อหาที่นำเสนอ
แม้แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เอง ที่ออกมาประณามถึงกับด่าทอสื่อส่วนใหญ่ว่า เสนอข่าวปลอมเพราะทรัมป์ถูกท้าทายแทบจะทุกคำพูดที่กลับกลอกไปมาในเรื่องใหญ่ๆ ที่สำคัญของชาติ
แต่ทรัมป์ไม่สามารถจะไปละเมิดรัฐธรรมนูญโดยไม่สามารถแม้แต่จะคิดหรือหาทางออกกฎหมายมาควบคุมสื่อ
ที่สหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีจากพรรคใดๆ ก็จะถูกตรวจสอบในแทบทุกแง่มุมทั้งในการทำงานและชีวิตส่วนตัว
สำหรับข่าวใหญ่มากในอาทิตย์นี้นอกจากเรื่องทรัมป์หักมุม 180 องศา โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าว Bloomberg ว่า “จะรู้สึกเป็นเกียรติยิ่ง ถ้าจะได้ไปพูดจากับผู้นำเด็กหนุ่มแห่งเกาหลีเหนือ (หลังจากได้ส่งกองเรือรบ, เรือพิฆาต, บรรทุกขีปนาวุธขู่ฟ่อๆ ว่าพร้อมถล่มเกาหลีเหนือ) รวมทั้งการโทรศัพท์มาเชื้อเชิญ (ให้ไปทำเนียบขาว) ผู้นำของอาเซียน 2 คน ที่ทางสภาสหรัฐฯ มองว่าเป็นเผด็จการ
คนแรกคือประธานาธิบดีดูเตอร์เต แห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในปีนี้ และได้ประกาศกร้าวว่าไม่ใช่ลูกไล่ของสหรัฐฯ พร้อมด้วยซ้ำที่จะให้กองกำลังของสหรัฐฯ ถอนออกไปจากฟิลิปปินส์ หรืออาจไม่ซ้อมรบกับสหรัฐฯ หลังจากถูก ส.ส., ส.ว., สื่อ และองค์กรเอ็นจีโอของสหรัฐฯ โจมตีว่าเป็นฆาตกรในสงครามปราบยาเสพติด เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างหนัก แม้เขาจะมาจากการเลือกตั้งก็ตาม
คนที่สอง ก็คือผู้นำของไทยเรา ซึ่งมาจากการทำรัฐประหาร ซึ่งเป็นกฎของสภาสหรัฐฯ ว่าสหรัฐฯ จะต้องตัดความช่วยเหลือและความสัมพันธ์ต่างๆ กับรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
ยังมีข่าวใหญ่อีกข่าวหนึ่ง คือการปลด Co-President ของสำนักข่าวยักษ์ Fox News ชื่อนาย Bill Shine เป็นการปลดโดยเจ้าของ Fox News ก็คือตระกูลของนาย Rupert Murdoch เป็นการปลดอย่างกะทันหัน ด้วยการแถลงอย่างสวยหรูจาก memo ภายในของ Murdoch ถึงพนักงานว่า “ด้วยความเสียใจยิ่งที่ Bill Shine ได้ลาออกไปในวันนี้ (ที่ 2 พฤษภาคม)” ด้วยประธานบอร์ดคือนาย Murdoch ได้อธิบายว่า “ผมรู้ว่า Bill ได้รับความเคารพมาก และทุกคนชอบพอเขามากที่ Fox News ของเรา แน่นอนที่พวกเราจะคิดถึงเขาตลอดไป”
นาย Bill Shine อยู่มากับ Fox News ตั้งแต่ก่อตั้งสถานี เมื่อ 21 ปีที่แล้ว (ก่อตั้งปี 1996 หลังจาก CNN ได้ตั้งไปแล้ว 16 ปี) และได้เข้ามารับหน้าที่ Co-President เมื่อกรกฎาคมปีที่แล้วนี้เอง หลังจาก Fox News ได้ปลดประธานและ CEO ชื่อนาย Roger Ailes ด้วยการต้องซื้อ, เพื่อขอให้นาย Roger ออกไป โดยจ่ายสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,300 ล้านบาท)
นาย Roger Ailes นี้ เป็นผู้ที่ทรงอิทธิพลมากในวงการสื่อและวงการการเมืองสหรัฐฯ และเขาเป็นผู้ปลุกปล้ำพร้อมกับนาย Rupert Murdoch (เมื่อ 21 ปีที่แล้ว) เพื่อก่อตั้งสถานี Fox ให้มาแข่งกับสถานีข่าว CNN
เขาสามารถยกหูโทรศัพท์พูดกับประธานาธิบดีได้สบายๆ โดยเฉพาะถ้าเป็นประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน เพราะสถานี Fox จะเสนอท่าทีสนับสนุนฝ่ายรีพับลิกันเต็มที่ และมักสัมภาษณ์บรรดารัฐมนตรี, ส.ส., ส.ว., ผู้ว่าของรีพับลิกันตลอดเวลานาย Roger Ailes ถูกบังคับให้ลาออกหลังจากมีเรื่องฉาวโฉ่ที่ทยอยเปิดโปงออกมา เป็นคดีความฟ้องร้องจากบรรดาสาวผู้ดำเนินรายการข่าวที่ถูกลวนลาม โดยข่มขู่ว่าจะถูกให้ไปทำหน้าที่แย่ๆ ถ้าพวกเธอจะไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์กับเขา สาวๆ Anchor เหล่านี้หลายคนยอมลาออกจาก Fox เพื่อไม่ต้องเสียตัวให้กับนาย Roger Ailes บางทีนาย Roger ก็สัญญาว่าจะให้ตำแหน่งในรายการที่ดีกว่าแก่สาวๆ ที่จะยอมเขา และหลังๆ มานี้ก็มีบางคนไปปรึกษาทนายความผู้หญิง เพื่อเล่าถึงชีวิตที่ถูกกดดันมากที่ Fox
พอจะมีคดีความขึ้นมา ทาง Fox ก็จะหาทางตกลงจ่ายค่าเสียหายชดเชยให้สาวๆ เหล่านี้ เพื่อให้เรื่องเงียบโดยเร็วที่สุด และคดีความก็ไม่ดำเนินต่อ
ในยุคที่ Social Media มีบทบาทอย่างมากในขณะนี้ เรื่องฉาวๆ ของ Fox ก็แพร่ไปทั่ว และเริ่มมีแรงกดดันต่อ Rating ของ Fox รวมถึงผู้บริโภคที่ขู่จะคว่ำบาตรสินค้าที่ลงโฆษณาใน Fox News
การจากไปของ Roger Ailes สร้างความตราตรึงให้กับวงการสื่อ และวงการการเมืองของสหรัฐฯ แต่ Roger Ailes ก็ได้เงินไปกอดถึง 40 ล้านดอลลาร์
มันแสดงให้เห็นว่าถึงจะเป็นยักษ์ใหญ่แห่งวงการสื่อ และเป็นมิตรที่ร่วมก่อตั้ง Fox มากับมือ เป็นมือขวาของ Rupert Murdoch แต่ยักษ์ก็มีสิทธิล้มเมื่อเจอแรงกดดันของประชาชน ซึ่งคือผู้บริโภคที่ทรงพลัง
ต่อมาเมื่อกลางเดือนที่แล้วนี้เอง ก็มีการปลดผู้ดำเนินรายการตัวเงินตัวทองของ Fox คือนาย Bill O’Reilly ที่ดำเนินรายการพูดคุยทางการเมืองช่วง prime time คือ 20.00 ถึง 21.00 น. โดยต้องมี memo ถึงพนักงานของบริษัทแบบเดียวกับนายที่ทำกับ Bill Shine คือเสียใจต่อการจากไปอย่างกะทันหันของนาย Bill O’Reilly
รายการของ Bill O’Reilly นี้ติด Rating ที่ดีที่สุดของ Fox News และสร้างรายได้มหาศาลให้ Fox News แต่ก็เช่นเดียวกับ Roger Ailes ได้มีการแอบจ่ายลับๆ เป็นเงินชดเชยให้แก่สาวๆ ใน Fox ที่ถูกนาย Bill O’Reilly คุกคามหรือลวนลามทางเพศ จนปกปิดกันไม่อยู่ เรื่องก็แพล็มออกมาในสื่อทั้งสื่อปกติ และ Social Media
ผู้บริโภค คือผู้กดดันโฆษณาต่างๆ ในรายการของนาย Bill O’Reilly โดยโฆษณาแรก คือ รถ Mercedes Benz ที่บอกเลิกการลงโฆษณาทันที ตามาด้วยรถยนต์ Hyundai และตามมีอีกเป็นตับ
ในระบบทุนเป็นใหญ่ ก็ทำให้ผู้บริหารสูงสุดของ Fox News โดยเฉพาะลูกชายทั้ง 2 ของนาย Rupert Murdoch เริ่มเห็นตัวเลขโฆษณาที่ตกลงไป
Fox ยอมจ่ายเงียบๆ ลับๆ สูงถึง 13 ล้านเหรียญ ให้ผู้หญิง 5 คนที่กำลังยื่นเรื่องฟ้องศาลเรื่องที่พวกเธอถูกคุกคามหรือลวนลามทางเพศจาก O’Reilly
ผู้บริหารระดับยักษ์ทั้ง 3 คน ของ Fox ถูกพลังประชาชนกดดันผ่านทาง Social Media และทำให้โฆษณาของ Fox ตกลง รวมทั้งส่งภาพลักษณ์ว่า Fox เป็นสื่อที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลทรัมป์และพรรครีพับลิกันด้วย
ต่างกับสื่อของเราโดยเฉพาะช่องเลขน้อย ที่ผู้บริหารบางคนใหญ่โตขนาดเข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรีของรัฐบาลชุดที่โกงประชาชนด้วย แล้วผู้จัดรายการของช่องนี้ซึ่งเป็นตัวเงินตัวทองก็ไม่ยอมลาออกจากรายการหลังศาลตัดสินว่ามีความผิดกรณีแจ้งหลักฐานเท็จทางราชการ ส่วนเจ้าของสื่อเองก็ไม่ฟังประชาชน ไม่ยอมปลดออกแบบที่ Fox เขาทำ ปรากฏว่าลูกชายของ Rupert Murdoch เป็นคนเด็ดขาดมาก เขาเปลี่ยนชื่อบริษัท Fox แห่งศตวรรษที่ 20 เป็นแห่งศตวรรษที่ 21 และมองแบบทุนนิยมว่ารายได้ตกลงเพราะใครก็ต้องให้คนนั้นไป แม้จะเป็นคนเก่าคนแก่ตัวเงินตัวทองก็เถอะ
ประชาชนอเมริกันจะกดดันสื่อของตนเสมอ และถ้ารู้เท่าทันก็จะช่วยเปิดโปงผ่าน Social Media อีกอย่างคือ เขาจะกดดันรัฐบาลให้เป็นผู้คอยควบคุมกติกาว่าสื่อเหล่านี้ผูกขาดหรือเปล่า เช่น การควบคุมช่องทางเสนอข่าว เป็นต้น และไม่มีทางออกกฎให้สื่อตีทะเบียนเลย เพราะเป็นการจำกัดเสรีภาพในการเสนอข่าวและการแสดงออกทางความคิดเห็น.