xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อวสานจุดมั่วเซ็กซ์ พัทยานครแห่งบาป!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าปฏิบัติการจัดระเบียบพัทยาหวังลบภาพ “เมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลก”
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ซากถุงยางอนามัยใช้แล้วถูกทิ้งเกลื่อนบริเวณเขาพระตำหนัก “เมืองพัทยา” ยิ่งตอกย้ำภาพ “เมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลก” ยิ่งตอกย้ำความเป็น “นครแห่งบาป” ตามที่สื่อเทศประโคมข่าวไปทั่วโลก อันเลื่องชื่อเรื่องค้าบริการทางเพศเป็นแหล่งที่มีโสเภณีระเริงโลกีย์มากที่สุดแห่งหนึ่ง

จุดชนวนความเกรี้ยวกราดเป็นเหตุให้ “นายกฯ ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฟาดงวงฟาดงาใส่สื่อไทย เมื่อครั้งนำประเด็นดังกล่าวไปสอบถาม เพราะที่ผ่านมาภาครัฐไม่ได้นิ่งดูดาย หลายหน่วยงานร่วมกันแก้ไขภาพลักษณ์เรื่องนี้มาโดยตลอด

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงปี 2559 ที่ผ่านมา กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งเดินหน้าจัดระเบียบกวาดล้างธุรกิจการค้ากามสลัดภาพแหล่งโลกีย์ เพื่อยกระดับและพัฒนาเมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยเฉพาะในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ ปรับภาพลักษณ์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ

โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2560 มีคำสั่งโดยอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 แต่งตั้ง พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี ขึ้นเป็นนายกฯ เมืองพัทยา เข้ามาการบริหารจัดการและทิศทางการพัฒนาเมืองพัทยา รวมทั้ง ปฏิบัติการจัดโซนนิ่ง “แฮปปี้ โซน” นำร่องพื้นที่ วอล์กกิ้งสตรีต ย่านพัทยาใต้ จัดระเบียบล้างบางศูนย์กลางด้านโลกีย์ ไนต์คลับ อาบอบนวด ฯลฯ ที่มีมากกว่า 1,000 แห่ง โดยพ่อเมืองป้ายแดง ภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประกาศกร้าวจะลบภาพการเป็นเมืองหลวงแห่งเซ็กซ์

“อยากให้คนทั่วไปได้เห็นว่าเราไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาพูดกัน เราไม่ได้อนุญาตให้โสเภณีเข้ามาภายในสถานที่เพื่อการบันเทิงเหล่านี้”

ย้อนกลับในช่วงเดือนเดียวกัน เว็บไซต์มิร์เรอร์ สำนักข่าวประเทศอังกฤษ ประโคมข่าว “เจาะลึก พัทยา” กล่าวอ้างว่า เมืองพัทยาเมืองชายทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ถูกยกให้เป็น เมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลก พร้อมกับตีตราเป็น นครแห่งบาป เนื่องจากเป็นแหล่งค้ากามขนาดใหญ่มีโสเภณีจำนวนมากนับหมื่นคน เต็มไปด้วย คลับ บาร์ เซ็กซ์โชว์ ฯลฯ อันเป็นผลพวงมาจากความละเลยของรัฐบาลไทย ทั้งๆ ที่การค้าประเวณีผิดกฎหมายแต่กลับมีสถานให้บริการทางเพศอย่างดาษดื่น

เว็บไซต์มิร์เรอร์ อ้างต่อไปว่า เมืองพัทยามีผู้หญิงหาเงินด้วยการขายบริการทางเพศ จำนวนมากกว่า 27,000 คน หรือคิดเฉลี่ยมีผู้หญิงขายบริการทางเพศ 1 คน ต่อจำนวนประชาชน 5 คน ที่มีถิ่นฐานถาวรอยู่ในพัทยา โดยมีผู้ชายมาเที่ยวเมืองพัทยาถึงปีละมากกว่า 1 ล้านคน ตามสโลแกนที่ปรากฏบนเสื้อยืดที่วางขายในเมืองพัทยา “Good guys go to heaven, bad guys go to Pattaya” สโลแกนยอดนิยมที่ปรากฏบนเสื้อยืดที่วางขายทั่วเมืองพัทยา หากเป็นตามข้อเท็จจริงนั่นสะท้อนว่า ผู้ชายเลวๆ นับล้านคนทั่วโลกนิยมเดินทางมาแสวงหาความรื่นเริงในกามอารมณ์ยังเมืองพัทยา

ขณะที่ปฏิบัติการจัดระเบียบเมือง ส่งผลให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในเมืองพัทยาซบเซาไม่น้อย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาเพื่อแสวงหาความสุขในอุตสาหกรรมทางเพศ
มุมมืดในเมืองพัทยาเปิดรับทุกคนทุกเพศทุกวัยเข้าสู่อุตสาหกรรมเซ็กซ์ หากนึกถึงพัทยาเงาสลัวแน่นอนสิ่งเหล่านี้มักผุดขึ้นมาคงไม่พ้น “เกย์เด็ด กระหรี่ดัง ยาเสพติด อาชญากรรม” โดยเฉพาะการลักลอบค้าประเวณีถือเป็นเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไข

ก่อนหน้านี้ นสพ.ผู้จัดการ ได้เผยแพร่สกู๊ปข่าวเรื่อง “ส่อง ‘ซ่องโลก’ คุณโสฯ - พัทยาเมืองบาป !!?? หน้าหาด-บาร์เบียร์-อะโกโก้ และเมียเช่า” ตีแผ่มุมร้ายๆ อุตสาหกรรมเซ็กซ์เมืองคนบาปแห่งนี้ ความว่า

บทที่ 1 ของการขายนาแปลงน้อย คือ เป็นพนักงานอาบ อบ นวด หรือนวดแผนโบราณแฝงตัว....ลักษณะนี้เหมาะกับคนที่ไม่กล้า “บินเดี่ยว” คอยตั้งรับมากกว่ารุก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ มีทั้ง ฝรั่ง - เอเชีย รวมทั้งคนไทย สนนราคาเริ่มที่ 1,500 บาท จนถึง 2,500 บาท หักให้กับเจ้าของสถานที่ 40 -50% ที่เหลือจึงเป็นส่วนที่ได้รับ วิธีสู่ความสำเร็จจะต้องทำรอบให้ได้มากๆ หรือเอาใจแขกนักท่องเที่ยวให้กลับมาซ้ำ บางคนอาจมีฟลุ๊คได้รับข้อเสนอเลี้ยงดูเป็นบ้านหลังที่ 2 ซึ่งนับเป็นความฝันของสาวน้อยสาวแก่ทุกคน

บทที่ 2 แฝงตัวอยู่ในคาราโอเกะ ประเภทนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทย และเป็นคนที่เข้ามาทำงานในพัทยา มีทั้งลูกจ้าง กะเทย หญิง - ชาย ขายบริการ จัดอยู่ในโหมตไทยเที่ยวไทย - รักเมืองไทย กินของไทย - ใช้ของไทย เดือนๆ รายได้แค่พอกินพอใช้ พออยู่ได้ไม่หวือหวา เห็นได้มากแถวถนนพัทยาสาย 3

บทที่ 3 “สาวบาร์เบียร์” ไล่มาจากย่านนาเกลือ ทั้งแถบยันวงเวียนโลมา และเลียบชายหาด กับซอยบัวหลวง สาวๆ ส่วนใหญ่นิยมดื่ม - กิน เป็นทุนอยู่แล้ว จึงเลือกปักหลักทำมาหากินแบบนี้ ส่วนลูกค้าขาประจำ คือ ชาวเยอรมัน กับ อิตาลี อาจเป็นเพราะเป็นขาเมากับชอบ “ของถูก” ไอ้หนุ่ม 2 ชาตินี้ จึงติดอกติดใจบรรยากาศบาร์เบียร์มากกว่าชายชาติไหนๆ สนนราคาแต่ “ช็อต” แบบชั่วคราว เริ่มตั้งแต่ 1,000 - 1,500 แต่มีกติกาจะต้อง “PAY BAR” หรือจ่ายค่าหัวคิวให้กับเจ้าของบาร์เบียร์ครั้งละ 400 บาท

นอกจากบาร์เบียร์แบบดั้งเดิม คือ ได้จังหวะเมื่อไหร่ก็ขอแวบไป “กินตับ” กันเมื่อนั้นแต่ข่าวว่าบาร์เบียร์แถวนาเกลือใต้ ว่ากันสดๆ เดี๋ยวนั้นเลย กล่าวคือ มีห้องให้ “ช็อต” แบบเดินออกจากบาร์ไปไม่กี่ก้าว อัตราค่าบริการแสนถูกไม่เกิน 1 พันบาท ข้อมูลระบุด้วยว่า เจ้าของบาร์เบียร์หลายแห่งเป็นอดีตหญิงไทยที่เข้ามาเสี่ยงโชคและได้สามีเป็นชาวต่างชาติ พวกนี้ลงทุนเปิดกิจการให้ หากพบเห็นหญิงไทยสูงอายุ ทาปากแดงๆ อยู่ในบาร์เบียร์ ขอให้เข้าใจว่าเธอคือเจ้าของ หรือที่เด็กๆ เรียกว่า “มาม่าซัง”

บทที่ 4 “สาวอะโกโก้” ตั้งอยู่ตลอดซอย 7 - 8 และ 13 กับริมถนนสายวอล์กกิ้งสตรีท สาวๆ ส่วนใหญ่หุ่นใช้ได้ จนถึงดี เปิดบริการตั้งแต่หัวค่ำยันตี 1 หน้าที่คือ แต่งกายวาบหวิว สุดจะคิดค้นมายั่วราคะ เต้นเด้งหน้าเด้งหลัง เต้นรูดเสา เต้นเรียกแขกหน้าร้าน มีรายได้จากดริงก์ และขายบริการ อัตรา 2 พันบาทอัป แต่ละครั้งต้องจ่ายค่า “PAY BAR” 600 บาท ราคานี้คือชั่วคราว ออกไปปฏิบัติภารกิจไม่เกิน 1 ชม. กลับมาเต้นกันต่อ วันไหนโชคดีมีลูกค้าเหมาอาจเป็นวัน - สัปดาห์ หรือ 1 เดือนตามระบบ “เมียเช่า” สุดแท้แต่จะตกลงกัน ส่วนใหญ่เริ่มจากสัปดาห์ละ 2 หมื่นบาท จนถึง 5 หมื่นบาทขึ้นอยู่กับ “ฝีปาก” และ “ฝีมือ” กลุ่มนักเที่ยวประกอบด้วย ชาวจีน (ชอบเอาแบงก์ 20 มาโปรยให้สาวอะโกโก้แย่งกัน) ญี่ปุ่น และฝรั่งตาน้ำข้าวทั่วไป

บทที่ 5 สาวนักบิน หรือสาวไซด์ไลน์ ประเภทนี้ทำมาหารัปทานอยู่ตามผับ - บาร์ต่างๆ วันๆ ไม่ต้องทำอะไรตื่นขึ้นมากินข้าวกินปลาก็แต่งสวย เอาให้ “เริ่ด” เข้าตาหนุ่มน้อยหนุ่มแก่ให้มากที่สุด บางคน “บินเดี่ยว” เข้าผับ - บาร์ แต่วัน เลือกที่มีโปรโมชันมาก่อน 3 ทุ่มดื่มฟรี หรือลดราคา 50% แต่บางคนไปเป็นก๊วน วิธีง่ายๆ คือ “อ่อย” เป้าหมายจนกว่าจะเจอ แบบนี้อิสระตามความชอบ ชอบใครก็อ่อยคนนั้น ส่วนราคาค่าบริการขึ้นอยู่กับความพอใจทั้งสองฝ่าย หรืออยู่ที่ความต้องการของลูกค้า ยิ่งคุยถูกใจ รูปร่างหน้าตาสะสวย ก็สามารถโก่งราคาได้ กลุ่มนักเที่ยว คือ รัสเซีย ฝรั่งเศส อังกฤษ เบลเยียม ฟินแลนด์ ออสเตรเลีย เป็นต้น

บทที่ 6 กลุ่ม “ผีต้นมะพร้าว” หรือนวลนางหน้าหาด พวกนี้จัดอยู่ในกลุ่มเตร็ดเตร่ หรือหากินอยู่ริมถนน เหมือนสาวประเภท 2 ประจำพัทยาซอย 6 กลุ่มนักเที่ยวมีทั่วไป แต่เป็นพวกกระเป๋าเบา หรือฝรั่งขี้นก เสี่ยงต่อโรคติดต่อ และอาชญากรรม ซึ่งมีทั้งคนของเราไปล่อเขา และโดนเขาล่อ (ชิงทรัพย์) ระดับนี้รูปร่างหน้าตาไม่ต้องพูดถึง ต้องหลบอยู่มุมมืดหรือสลัวๆ เข้าไว้ ราคาหลักร้อยขึ้นไป ส่วนสถานที่ “ปิดจ๊อบ” มีทั้งมุมมืด บ้านร้าง และห้องเช่าราคาถูก
จุดอับลับสายตาบริเวณอุโมงค์ลอดทางเข้าถนนพระตำหนัก เชื่อมต่อกับสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ พบเศษซากถุงยางอนามัยจำนวนมาก
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเซ็กซ์ในเมืองพัทยายังคงเป็นวังวนต่อไป แม้รัฐมีความพยายามจัดระเบียบเพียงใดก็ตาม เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา เมืองพัทยาเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาอีกครั้ง

กรณีพบเศษซากถุงยางอนามัยที่ถูกใช้ทิ้งเกลื่อนเป็นจำนวนมาก บริเวณพื้นที่สาธารณะบริเวณเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวอดรนทนไม่ไหวได้ออกมาร้องเรียนให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาดูแล ความว่า

พื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ค้าประเวณี มีการมั่วสุมของกลุ่มคนบางกลุ่มในที่ลับตา พบหลักฐานเป็นถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้วกองทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก วอนรัฐจัดมาตรการป้องกันคนบางกลุ่มไม่ให้มากระทำการอันเสื่อมเสียภาพลักษณ์ของเมืองพัทยา

รายงานข่าวระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดอับสายตาของผู้คนและเจ้าหน้าที่ จึงทำให้กลุ่มรักร่วมเพศ หรือพวกค้าประเวณีออกมาเสพความสำราญ ระบายความใคร่กันในยามค่ำคืนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะพื้นที่แห่งนี้ที่ผ่านมาไม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจหรือเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่าพื้นที่บนเขา สทร. 5 แห่งนี้ เมืองพัทยาได้ทุ่มงบประมาณเข้ามาพัฒนาเป็นสวนสาธารณะเพื่อให้ประชาชนใช้เป็นที่พักผ่อนและออกกำลังกาย

ทันทีที่ปรากฏเป็นข่าว ผู้หลักผู้ใหญ่ในเมืองพัทยา ยอมรับว่าจุดนี้เป็นพื้นที่เสี่ยงมั่วสุมแต่ควบคุมได้ยาก สวนสาธารณะมีพื้นที่กว่า 50 ไร่ สภาพพื้นที่ลักษณะเป็นเนิน มีต้นไม้ขึ้นบดบังจำนวนมาก แม้มีเวลาเปิดปิดชัดเจน แต่คนยังสามารถเดินเข้าออกได้ตลอดเวลา จึงเป็นเรื่องยากในการตรวจสอบ

ทำได้เพียงสั่งการด่วนเร่งเก็บกวาดซากถุงยางอนามัยใช้แล้วที่ถูกทิ้งบริเวณท่อระบายน้ำ และริมกำแพงอุโมงค์ทางลอดติดสวนสาธารณะ จัดกำลังเฝ้าระวังพื้นที่ เตรียม ติดตั้งไฟส่องสว่างให้ทั่วถึงโดยเฉพาะตรงจุดที่ลับตา

สำหรับปฏิบัติการล้างบางแหล่งค้ากามในครั้งนี้เป็นเช่นไร ระหว่างรอเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้นี้ คงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด “เมืองพัทยา” จะสลัดภาพ “นครแห่งบาป” “เมืองหลวงแห่งเซ็กซ์ของโลก” หลุดหรือไม่?


กำลังโหลดความคิดเห็น