xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อาลัย "หวงอี้" จอมเทพอักษราแห่งบูรพาทิศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “หวงอี้” นักเขียนนวนิยายชื่อดังแห่งเกาะฮ่องกง เสียชีวิตลงอย่างสงบขณะอายุ 65 ปี เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา คงเหลือเพียงตำนาน “จอมเทพอักษราแห่งบูรพาทิศ” ผู้สร้างมิติใหม่ให้กับนิยายกำลังภายในแห่งศตวรรษที่ 21 ผสมผสานวิทยาศาสตร์เข้ากับประวัติศาสตร์จีนยุคโบราณ ปลุกกระแสในหมู่นักอ่านเปิดตัวด้วยผลงานก้องปฐพี “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” ตามด้วยผลงานระดับมาสเตอร์พีซอีกเป็นจำนวนมาก

หวงอี้ จัดเป็นนักเขียนยุคใหม่ที่เข้าปลุกกระแสนิยายกำลังภายในให้เฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากนักเขียนนิยายระดับปรมาจารย์ยุติบทบาทลง กรณีการเสียชีวิตของ “โก้วเล้ง” และการหยุดเขียนของ “กิมย้ง”

ก่อนที่ผลงานของ หวงอี้ นักเขียนผู้เป็นตำนานจะดังกระฉ่อนไปถ้วนทั่ว ทั้งเกาะฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย เกาหลี ฯลฯ เลื่องลือในแถบภูมิภาคเอเชีย ได้รับคะแนนนิยมล้นหลามจาก “คอนิยายจีนชาวไทย” การเดินทางสู่ทำเนียบนักเขียนของ หวงอี้ เริ่มต้นจากการเป็น “นักอ่านตัวยง”

“หวงอี้” หรือ “หวง จู่เฉียง” (黄祖强 : Wong Cho - Keung) “หวงอี้” นั้นเป็นคำอ่านภาษาจีนกลาง หากอ่านออกเสียงแบบแต้จิ๋วอ่านว่า “อึ้งเอี๊ยะ” เป็นชาวฮ่องกง ถือกำเนิดเมื่อ 15 มีนาคม 2495 หลังเรียนจบด้านศิลปกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยจีนฮ่องกง (Chinese University of Hong Kong) ได้เข้าทำงานที่สำนักงานฮ่องกงอาร์ต ดีเวลล็อปเมนต์ เคาน์ซิล ก่อนเลื่อนตำแหน่งเป็น รองผู้อำนวยการสำนักฯ

เวลาเดียวกัน หวงอี้ เริ่มต้นเขียนนิยายกำลังภายในซึ่งเขียนควบคู่ไปกับนิยายวิทยาศาสตร์ในช่วงเริ่มแรก ต่อมา เปลี่ยนมาเขียนนิยายกำลังภายในเพียงอย่างเดียว เมื่อปี 2529 ขณะนิตยสารบู๊เฮียบสี่ก่าน หรือโลกแห่งยุทธจักร เปิดรับต้นฉบับของนักเขียนหน้าใหม่ ถือเป็นจุดพลิกผันสำคัญของชีวิต หวงอี้ ทดลองเขียนนิยายเขียนนวนิยายกำลังภายในขนาดสั้นส่งไปเข้าไป ให้หลังเป็นเวลา 8 เดือน เขาได้รับการติดต่อกลับมา กระทั่ง สละความมั่นในหน้าที่การงาน “ลาออก” เพื่อมาผลิตงานเขียนอย่างจริงจัง

นิยายกำลังภายในของ หวงอี้ ได้สร้างปรากฏการณ์ในสังคม ด้วยพล๊อตเรื่องสลับซับซ้อนผูกโยงให้ได้ลุ้นกันตั้งแต่บรรทัดแรกตลอดจนบรรทัดสุดท้าย นำประวัติศาสตร์ผสานวิทยาศาสตร์ถ่ายทอดได้อย่างสมจริง อันเป็นผลผลิตจากความชอบเรียนรู้และค้นคว้าศึกษาด้านต่างๆ นำเอาประวัติศาสตร์มาดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจให้ได้ลุ้นกันตลอดเรื่อง ชักนำให้นักอ่านโลดแล่นในตัวอักษรอย่างเพลิดเพลินใจ

ผลงานในช่วงแรกของ หวงอี้ ค่อนข้างวาบหวามด้วยบทอีโรติก ในที่สุดเขาก็ค้นพบแนวทางที่เหมาะสมที่สุด คือ แนวการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ผสมผสานไปกับนิยายกำลังภายใน อย่างเรื่อง “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” นิยายกำลังภายในสุดเข้มข้นความคาบเกี่ยวของประวัติศาสตร์จีนโบราณและการย้อนเวลาด้วยวิทยาศาสตร์ล้ำสมัย ได้สร้างความแปลกใหม่พร้อมกับจุดกระแสความนิยมขึ้นในหมู่นักอ่านทั้งในเกาะฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย

หวงอี้ สร้างผลงานอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น “มังกรคู่สู่สิบทิศ” สุดยอดมหากาพย์แห่งยุค “ขุนศึกสะท้านปฐพี” เรื่องสั้นแบบเรื่องเดียวจบ “เทพทลายนภา” นวยิยายเรื่องแรกว่าด้วยการหลุดพ้นจากทางโลก ตามด้วยผลงานลำดับต่อมาอีกจำนวนมาก “เทพมารสะท้านภพ” “จอมคนแผ่นดินเดือด” “ผู้พิชิตดาราจักร” “เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ” ฯลฯ

หวงอี้ สร้างผลงานติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ที่ฮ่องกง ได้รับการขนานนามว่าเป็น “นักเขียนฮ่องกงที่ขายดีที่สุด” ทำยอดขายมากกว่านักเขียนนิยายกำลังภายในทุกคน นิยายของเขาสอดประสานประวัติศาสตร์จีนในแต่ละยุคได้อย่างกลมกลืน ได้รับการยกย่องในเรื่องการบรรยายฉากสงครามได้อย่างสมจริง รวมทั้ง ความนิยมในผลงานนิยายภายในของ หวงอี้ ยังได้รับการดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์และเกมออนไลน์อีกด้วย

ดังเช่น ผู้แปลผลงานของหวงอี้เกือบทุกเรื่อง “น.นพรัตน์” นักแปลนวนิยายจีนชื่อดัง เคยกล่าวถึงผลงานของนักเขียนนิยายกำลังภายในแห่งเกาะฮ่องกงท่านเอาไว้ว่า

“หวงอี้เป็นผู้บุกเบิกเส้นทางสายใหม่กับวงการนิยายจีนกำลังภายใน ผลงานของเขาหลอมรวมหลักวิทยาศาสตร์เข้ากับกำลังภายในได้อย่างลงตัว บอกจากนั้นยังมีการศึกษาถึงข้อมูล ความรู้ที่อิงประวัติศาสตร์ และมีการบรรยายฉากบวกกับการบรรยายตัวละครได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง

“จุดเด่นนั้นอยู่ที่การสร้างตัวละครให้คล้ายกับบุคคลมีชีวิตร่วมสัมผัสไปกับบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ได้ พร้อมกันนั้นตัวหนังสือของหวงอี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงมนุษย์ทุกรูปแบบ บ้างช่วงชิงเพื่อผลประโยชน์ บ้างต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อันสูงส่ง เรื่องราวระหว่างความดีกับความเลวซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละมุมมองที่แตกต่างกันออกไป เค้าโครงเรื่องของหวงอี้เน้นความสลับซับซ้อน แต่ไม่สับสน ชวนให้ติดตาม เพราะฝีมือการถักทอเรื่องราวของเขาไม่แพ้ปรมาจารย์ 'กิมย้ง' แต่ต้องบอกเลยว่าฉากสงครามของหวงอี้เขียนได้เข้มข้นสมจริงยิ่งกว่า จนแทบจะหลับตาลงมองเห็นกองทัพม้าห้อตะบึงอยู่หน้านับหมื่นแสนตัว”

“.....หวงอี้มีจุดเด่นที่สามารถชักนำผู้อ่านให้หลุดพ้นจากโลกปัจจุบันก้าวข้ามมิติแห่งกาลเวลาเข้าสู่อาณาจักรแห่งจินตนาการ ความฝันอันเพริศแพร้วพิสดาร จุดเด่นนั้นอยู่ที่การสร้างตัวละครให้คล้ายกับบุคคลมีชีวิตร่วมสัมผัสไปกับบรรดาผู้ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ได้ พร้อมกันนั้นตัวหนังสือของหวงอี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงมนุษย์ทุกรูปแบบ บ้างช่วงชิงเพื่อผลประโชน์ บ้างต่อสู้เพื่ออุดมการณ์อันสูงส่ง เรื่องราวระหว่างความดีกับความเลวซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละมุมมองที่แตกต่างกันออกไป…”

ทั้งนี้ บุคคลสำคัญผู้ผลักดันให้ หวงอี้ แจ้งเกิดในหมู่นักอ่านชาวไทยนั่นก็คือ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งอีกบทบาทหนึ่งของเขาคือ นักอ่านนวนิยายกำลังภายในตัวยง เรียกว่าอ่านนิยายกำลังภายในของ หวงอี้ ในเวอร์ชันภาษาจีนทุกเล่ม ติดตามผลงานของนักเขียนตั้งแต่ยังเป็นนักเขียนหน้าใหม่

ก่อศักดิ์ มองเห็นความสามารถในตัวของหวงอี้ที่สามารถฉีกแนวนิยายกำลังภายในให้อิงประวัติศาสตร์จีน โดยไม่บิดเบือนประวัติศาสตร์แต่ยังรู้จักใช้จินตนาการ และสอดแทรกด้วยกลยุทธ์ในการวางแผนอย่างแยบยล เพิ่มตัวละครที่มีสีสัน จากเรื่องราวกำลังภายในที่อิงประวัติศาสตร์ ขณะที่พล็อตเรื่องกลับเหมือนนิยายฝรั่ง เขาจึงแนะนำให้สำนักพิมพ์ สยามอินเตอร์บุ๊คส์ ซื้อลิขสิทธิ์ของหวงอี้เรื่อง “เจาะเวลาหาจิ๋นซี” มาให้ น.นพรัตน์ แปล ซึ่งทั้ง 8 เล่ม มีกระแสตอบรับจากคอนิยายกำลังภายในของไทยอย่างดี

“หวงอี้” เสียชีวิตจากภาวะสมองขาดเลือด เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560

ถือเป็นการปิดตำนานนักเขียนนวนิยายจียนกำลังภายในแห่งทศวรรษใหม่อย่างบริบูรณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น