ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - 6 เมษายน 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับผ่านประชามติ อย่างยิ่งใหญ่ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม โดยการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ฉบับที่ 20
ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่มีรูปแบบการจัดเป็นพระราชพิธีประกาศใช้เต็มรูปแบบ สำหรับครั้งแรกที่มีพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ มีขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475 ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ครั้งที่สอง คือ พระราชพิธีประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2511 เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2511 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ 8 ของประเทศไทย ได้จัดรัฐพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม
หลังจากนี้ ประเทศไทยต้องเดินหน้าตามโรดแมป เป็นฤกษ์งามยามดีที่ทุกภาคส่วนต้องเดินหน้าขับเคลื่อนตามหน้าที่ของตัวเองกันต่อไป
ฝ่ายรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)รวมไปถึงแม่น้ำ 5 สาย ที่อิดออดเฝ้ารอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการ เพื่อเดินหน้าทำงานของตัวเอง คงได้เวลาขยับกันอย่างจริงจังเสียที
โดยเฉพาะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ที่แสดงอาการยื้อย้วย ยืดยาดชัดเจน เวลาทอดยาวมาก็เนิ่นนานแล้ว กฎหมายลูกยังเดินหน้าเขียนกันไปไม่ถึงไหน จนคนนินทา หมาดูถูก ว่าส่ออาการยื้อโรดแมป เป็นตัวลากเลื้อย ลากยาว ให้เครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย อยู่ในอำนาจกันบันเทิงเริงใจ
"ซือแป๋" มีชัย ฤชุพันธุ์ หัวหน้าคณะร่างรัฐธรรมนูญ บอกว่า จะทยอยส่งกฎหมายลูกให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาเดือนละฉบับ อ้างว่ากลัวจะสับสน กลัวทำไม่ทัน พุทโธ่ !!!
คอการเมืองกระทืบเท้ากระซิบกระซาบกัน จะยื้อโรดแมปก็ว่ามาตรงๆ ดีกว่า ทำเป็นโชว์ป๋า โชว์ลีลาเซียนเหยียบเมฆ
แล้วกฎหมายลูกที่เป็นปัจจัยสำคัญนำไปสู่การเลือกตั้ง อย่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว. "ซือแป๋" ก็ออกลูกกั๊ก ลูกยื้ออีกตามฟอร์มสุนัขแก่ บอกว่าต้องรอให้กฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมืองเข้าที่เข้าทางก่อน ต้องรอให้พรรคการเมืองทำความเข้าใจ ปรับจูนระบบพรรคให้เรียบร้อย ค่อยมาพิจารณากฎหมายลูก ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ไม่รู้จะยืดยาดไปถึงไหน
สุดท้าย"มีชัย" ก็เฉลยจากใจว่า โรดแมปการเลือกตั้งอาจเนิ่นช้าไปอีกถึง 19 เดือน ได้ยินถึงกับอุทาน "โอ้แม่เจ้า" นับทิ้งนิ้วมือนิ้วเท้าแล้ว เผื่อเหลือเผื่อขาดมันอาจจะเลือกตั้งกันปลายปี 2561 หรือเลยเถิดไปถึงปี 2562 นั่นเลยทีเดียวเชียว
ดูจากลีลาจอมเลื้อยยิ่งกว่า "โรนัลโด้" นักฟุตบอลซูเปอร์สตาร์ ชื่อก้องโลกแล้ว ต้องยอมรับว่า การเลือกตั้งอาจมาช้าถึงปี 2562 จริงๆ เพราะที่ผ่านมาการทำงานของ กรธ. ทุกกระบวนการ ใช้เวลาทุกนาทีอย่างเต็มเปี่ยม เต็มเพดานทุกคราครั้งไป ฉะนั้นไอ้ที่มาพูดแบบโลกสวย ทั้ง มีชัย ทั้ง วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ว่าการเลือกตั้งอาจมาเร็วกว่านั้น ถ้ากระบวนการจัดทำกฎหมายลูกเสร็จเร็วกว่ากำหนด บอกได้คำเดียวว่า เพ้อเจ้อ !!! แท็กทีมกันมาขายฝันหลอกเด็กอมมือ !!
เพราะการกระทำมันฟ้องได้ดีกว่าคำพูด...
และที่สำคัญ 21 อรหันต์ กรธ.ชุดนี้ จะหมดวาระไปก็ต่อเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจการร่างกฎหมายลูก ฉะนั้น เมื่อมีงานทำจะไปเร่งรีบเพื่อให้ตัวเองกลับไปเลี้ยงหลานทำไม อยู่กันไปให้สุดซอยเลยสิครับ ไม่น่าถาม !!!
อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิชาการบางคนยังมองโลกแง่ดีสุดๆ ว่าอาจได้เลือกตั้งต้นปี 2561 น่าจะมองแง่ดีเกินไป เพราะโลกนี้โหดร้ายกว่าที่คิดเยอะ เข้าข่ายเพ้อฝันไม่ยึดโยงความเป็นจริง พูดมากๆ อาจ "เสียอาจารย์"ได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นดูเงื่อนไขแล้วมีหลายปัจจัยเหลือเกินที่จะกระทบกระเทือนโรดแมป เลื่อนออกไปไกลสุดกู่
แต่ที่ดูเหมือนจะวอร์มอัพกันคึกคักตอนนี้ ก็คนในเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย ที่จะลาออกไปลงสมัครเลือกตั้งส.ส. จ้องจะไขก๊อกตามเงื่อนไข ที่ต้องลาออกหลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ภายใน 90 วัน เบื้องต้นก็ประมาณ 30 คน
ถ้าไม่คิดอะไรมากก็อยู่ผลาญภาษีต่อไปอีกสัก 2-3 เดือน ตรงเป๊ะเงื่อนเวลาพอดี แต่หลายคนคิดว่า รีบออกก่อนดีกว่า หากเกิดเอ็กซิเดนท์ ยื้อยุดกันไว้ ความซวยอาจมาเยือน ลงเลือกตั้งไม่ได้ เพราะลาออกไม่ทันก็เป็นได้
สำหรับพวกกลุ่ม ก๊วน ที่มาจากการเมืองนั่นก็แน่นอนว่าลาออกแน่ เตรียมลงสนามเลือกตั้ง เพราะอยากเลือกตั้งมานานมากแล้ว เหมือนนักการเมืองที่วันนี้นั่งรออยู่ข้างเวทีกันตาละห้อย รอนานจนท้อใจ คิดเลิกเล่นไปแล้วก็มี
แต่บรรดาพวกข้าราชการ พวกนายพลเกษียณ ที่นั่งตะบันหมากเคี้ยวกันอยู่เต็มสภา ไม่ได้กระสันลงสนามการเมือง นั่นก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่น่าจะเดือดร้อนแน่ถ้าไม่มีผลงาน เพราะอาจอดได้เป็นส.ว.ลากตั้ง !!! ตรงนี้ไม่มีเงื่อนไขอะไรตามรัฐธรรมนูญ มีเพียงเงื่อนไขเดียวคือ เข้าตาบรรดาบิ๊ก คสช. หรือไม่ ถ้าไม่เข้าตาก็กลับบ้านไปเลี้ยงลูก เลี้ยงหลาน กันตามอัธยาศัย
สำหรับในส่วนของ สนช.นั้น ก็จะมีส่วนหนึ่งที่ลาออกไปลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. บอกว่าไม่เป็นปัญหา ถ้ามีใครลาออกไปก็เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพิ่มเติมได้ ฟังดูเหมือนง่ายไม่มีอะไรซับซ้อน ทำงานกันได้ไร้ปัญหา แต่ถ้าคิดลึกๆ แล้วก็อาจไม่ใช่
เพราะแม้จะอ้างว่าไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับ เพราะจะใช้องค์ประชุมเป็นหลัก แต่กระนั้นการลาออกของสมาชิกสนช. บางส่วน ก็อาจทำให้เกิดอาการเครื่องสะดุดไปพักใหญ่ เกิดประเด็นให้อ้างว่า ไม่มีคนมาพิจารณากฎหมายลูกในส่วนของรายละเอียด ในชั้นของกรรมาธิการ ต้องรอคนใหม่เข้ามาช่วย เข้ามาระดมความคิด ก่อนดีกว่า
ก็อ้างกันรูปแบบนี้เพื่อยื้อเวลาไปอีกกระทอก รับประกันซ่อมฟรี !!!
รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ออกมาแล้ว วันที่ 6 เมษายน 2560 แต่การเลือกตั้งยังอีกไกล เนื่องเพราะไทม์ไลน์ของคนในเครือข่ายแม่น้ำ 5 สาย คือปัจจัยสำคัญ กรธ. หมดหน้าที่เมื่อร่างกฎหมายลูกเสร็จเรียบร้อย สนช.ทำหน้าที่จนกว่าจะมีการประชุมรัฐสภาครั้งแรก คณะรัฐมนตรี.(ครม.) คสช. จะหมดวาระลง เมื่อมีครม.ชุดใหม่
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล หรือ มีครม.ชุดใหม่ แล้วยังไม่มีอะไรการันตีว่า บรรดาเครือข่ายคนในแม่น้ำ 5 สาย จะมีงานทำเฉกเช่นทุกวันนี้ ก็ยังไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องเร่งรีบเร่งร้อนทำให้ตัวเองพ้นจากหน้าที่ไปเพื่ออะไร
ด้วยความคิดที่ว่า ถ้าปล่อยมือจากอำนาจ ปล่อยให้นักเลือกตั้ง นักการเมือง เข้ามาทำหน้าที่ แล้วบ้านเมืองจะเดินหน้าไม่ได้ วิกฤติจะย้อนกลับมาสู่วังวนเดิม พูดง่ายๆคือไม่ไว้ใจนักเลือกตั้ง วงจรทั้งหลายก็จะเป็นดังว่า
แต่ถ้าปล่อยวางแล้วคิดว่า วันนี้ทุกคน ทุกฝ่าย ในประเทศมีบทเรียน ได้ทบทวนการกระทำมาพอสมควรแล้ว ก็น่าจะรีสตาร์ทประเทศไทย รีบนับหนึ่งใหม่กันอีกครั้ง อย่ายื้อกันไปอีกเลย... ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป !!!