xs
xsm
sm
md
lg

คบคนพาล-พาลพาไปหาผิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


เมื่อเช้ามืดก่อนรุ่งสางของวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม ที่ศาลกรุงโซล สตรีร่างเล็กที่เคยมีอำนาจมากที่สุดในเกาหลีใต้ เคยไปกล่าวปราศรัยในสภาร่วมของรัฐสภาอเมริกันมาแล้ว และเป็นถึงลูกสาวของนายพลชุน ดู-ฮวาน อดีตประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งถึง 18 ปีเต็ม เธอถูกศาลสั่งให้ควบคุมตัวนำไปคุมขังที่เรือนจำทางตอนใต้ของกรุงโซล หลังจากฟังคำไต่สวนแบบมาราธอนถึง 9 ชั่วโมง ตลอดเย็นและค่ำวันพฤหัสบดีที่ 30มีนาคม

ศาลพิจารณาห้ามประกันตัวเพราะเป็นโทษที่หนักหนาสาหัส และเกรงว่าเธออาจจะทำลายหลักฐานได้ นับเป็นอดีตประธานาธิบดีคนที่ 3 ของประเทศเกาหลีใต้ที่ถูกคำสั่งศาลให้จำคุก หลังจากได้มีการปฏิรูปการเมืองในปี 1988

2 คนก่อนหน้าเธอ คืออดีตประธานาธิบดีชุน ดู-ฮวาน และอดีตประธานาธิบดีโร แต วู ทั้งคู่เป็นนายพลที่ทำรัฐประหารในปี 1979 ทำให้นายพลชุน ดู-ฮวาน เข้ามาเป็นประธานาธิบดี (หลังจากนายพลปาร์ค ชุน ฮี ถูกสังหารขณะดำรงตำแหน่ง) ส่วนนายพลโร แต วู เข้ามาพร้อมกับการเลือกตั้ง 1987 (หลังจากนายพลชุน ดู-ฮวาน ถูกกดดันจากประชาชนให้จัดการเลือกตั้ง)

อดีตประธานาธิบดี (อดีตนายพล) ทั้งคู่ถูกข้อหารับสินบน (ก้อนโต-ช่วงรัฐประหาร) และทรยศต่อชาติ/บ่อนทำลายชาติ โดยมีการปราบปรามประชาชนอย่างโหดเหี้ยมช่วงรัฐประหาร และลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน/สหภาพแรงงาน

- ทั้งคู่โดนจำคุกตลอดชีวิต ในปี 1996

- แต่เดือนธันวาคม 1997 สมัยประธานาธิบดีคิม แด จุง ได้มีการอภัยโทษพิเศษ หลังการรับสารภาพทำให้รับโทษได้แค่ 1 ปี

สำหรับอดีตประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้นั้น เธอผ่านชีวิตที่ผกผันตั้งแต่ยังเรียนหนังสือไม่จบ โดยบิดาของเธอคือนายพลปาร์ค ชุน ฮี ทำรัฐประหารเมื่อปี 1961 และเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่แข็งกร้าวมาก เขาทิ้งตำนานการจัดตั้งแชร์โบว์ เพื่อนำเอางบประมาณของชาติ เข้าส่งเสริมอุดหนุนธุรกิจหลักๆ ของเกาหลีให้เป็นธุรกิจระดับโลก เป็นกลุ่มใหญ่ๆ เช่น ซัมซุง, เดวู, ฮุนได, เอสเค เป็นต้น โดยมีการคอร์รัปชันสูงเช่นกัน

ขณะเดียวกันก็ละเมิดสิทธิแรงงาน, สิทธิเสรีภาพของสื่อ และปราบปรามประชาชนอย่างรุนแรง เป็นต้น

สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของนายพลปาร์ค ถูกสังหารโหดโดยถูกยิงที่ศีรษะ เมื่อปี 1974 (หลังนายพลปาร์คครองอำนาจมา 13 ปี) โดยกระสุนนั้นมีเป้าหมายปลิดชีวิตนายพลปาร์ค แต่ภรรยาได้รับเคราะห์แทน

นายพลปาร์ค มีลูกสาวคนเดียวคือปาร์ค กึน เฮ (สื่อตะวันตกอ่านตามตัวสะกดเป็นปาร์ เกวิน-ไฮ) อายุแค่ 21 ปี กำลังศึกษาอยู่ในยุโรป เธอเสียขวัญมากและกลับมาทำพิธีศพมารดา พร้อมกับตัดสินใจเลิกเรียนที่ยุโรป โดยกลับมาอยู่ปลอบขวัญพ่อที่ทำเนียบสีฟ้า พร้อมกับศึกษาต่อที่เกาหลี โดยประวัติของเธอระยะนั้น เธอเรียนจบด้านวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัย SOGANG ที่กรุงโซล

ช่วงนั้นเอง ได้มีอดีตนักเทศน์คริสต์ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้นำนิกายใหม่ที่ประกาศว่าตนเองสามารถติดต่อกับวิญญาณของอดีตสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งที่ถูกลอบสังหาร และอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งได้ขอร้องให้เขามาช่วยปกป้องท่านประธานาธิบดีปาร์คและลูกสาว

นักเทศน์ผู้นี้ ได้เดินทางมาขอเข้าพบประธานาธิบดีปาร์ค และได้พูดโน้มน้าวจิตใจเขาผู้ที่กำลังว้าเหว่และตกใจสุดขีดกับเหตุการณ์สยองที่เพิ่งเกิดขึ้น ท่านประธานาธิบดีปาร์คได้ให้นักเทศน์ผู้นี้เข้ามาทำพิธีในทำเนียบ และต่อมาได้ใช้ความใกล้ชิดเพื่อปลอบประโลมและชักนำด้านจิตใจ จนได้รับสมญานามว่าเป็น “รัสปูติน” แห่งทำเนียบสีฟ้า

นักเทศน์ผู้นี้มีภรรยามาก (6-7 คน) และเข้าครอบงำจิตใจของท่านประธานาธิบดีปาร์ค และบุตรสาวอย่างเต็มที่

เขามีบุตรสาวที่อายุไล่เลี่ยกับบุตรสาวประธานาธิบดีปาร์ค โดยอ่อนกว่าประมาณ 2 ปี ชื่อชอย ซุน-ซิล ซึ่งได้สร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกับลูกสาวประธานาธิบดีตั้งแต่นั้นมา

ชอย ซุน-ซิล นี้ได้ทำพิธีต่อจากบิดาของเธอ เพื่อให้บุตรสาวประธานาธิบดีคือปาร์ค กึน เฮ ได้ติดต่อกับวิญญาณแม่ของเธอ

และหลังจากประธานาธิบดีปาร์คถูกสังหาร ทำให้ปาร์ค กึน เฮ ต้องพึ่งพาทางจิตใจกับชอย ซุน-ซิลมากยิ่งขึ้น

ในปี 2012 ปาร์ค กึน เฮ ได้ลงสมัครประธานาธิบดีก็ได้ชอย ซุน-ซิล ช่วยเหลือในด้านการวางแผนหาเสียงจากกลุ่มที่ยังภักดีกับอดีตประธานาธิบดีปาร์ค จนนางสาวปาร์ค กึน เฮ ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาอยู่ในทำเนียบสีฟ้า

เธอตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของทั้งพ่อชอย และลูกสาวชอยอย่างโงหัวไม่ขึ้น จนมีเสียงร่ำลือว่านางชอย ซุน-ซิล (ซึ่งมีสามีหลายคนเช่นเดียวกับพ่อ) จะเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดีปาร์ค กึน เฮ ในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่เสื้อผ้า/หน้า/ผม ถึงนโยบายสำคัญๆ ซึ่งแน่นอนว่านโยบายต่อเกาหลีเหนือก็ไม่เว้นที่จะให้คำปรึกษา (อ่านต่อตอนต่อไป)

กำลังโหลดความคิดเห็น