xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“หลง...เวียดนาม” 1,440 นาทีในนครโฮจิมินห์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ต้นไม้ใหญ่ทุกต้นในนครโฮจิมินห์มีหมายเลขติดอยู่ มีหน่วยงานดูแลรักษาโดยเฉพาะ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -“นครโฮจิมินห์” ประเทศเวียดนาม เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตผู้คนในเมืองหลวงที่ยังคงเสน่ห์ดั้งเดิม ความงดงามของสถาปัตยกรรมยุคโรมาเนสก์ รวมถึงร่องรอยทางประวัติศาสตร์ก่อน “ลุงโฮ” ผู้นำคนสำคัญจะปลดแอกประเทศเวียดนามจากนักล่าอาณานิคมต่างชาติ

“ผู้จัดการสุดสัปดาห์” ฉบับนี้มีโอกาสได้ไปร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์ของนครแห่งประวัติศาสตร์ ในห้วงเวลา “1,440 นาที หรือ 1 วันเต็มๆ” แล้วจะรู้ว่า ทำไมใครๆ ถึง “หลง..รักเวียดนาม" 

เวลาหลายสิบนาทีหายวับไประหว่างเข้าคิวรอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ท่าอากาศยานนานาชาติเตินเซินเญิ้ต เพราะประจวบเหมาะพอดิบพอดีมีหลายไฟลท์บินแลนด์ดิ้งพร้อมๆ กัน เหตุสุดวิสัยนี้ทำให้การเดินทางล่าช้ากว่าเข้าสู่นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เลยเวลานัดหมายกับไกด์ท้องถิ่นที่มารอรับไปมากโขทีเดียว
รูปปั้นพระแม่มารี และหอคอยคู่สี่เหลี่ยมสูง 40 เมตร เอกลักษณ์ที่งดงามของโบสถ์นอร์ทเธอดาม
ไปรษณีย์กลาง ก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี 2439 ศิลปะการออกแบบสไตล์ฝรั่งเศส
นักท่องเที่ยวนิยมเลือกซื้อโปสการ์ดที่ไปรษณีย์กลางแล้วส่งไปยังประเทศของตน
ทำเนียบประธานาธิบดี แหล่งเรียนรู้สำคัญทางประวัติศาสตร์

สำหรับวันแรกของในนครโฮจิมินห์หมดไปกับการไปเยี่ยมชม “ฟาร์กู๋จี มิลค์” ดูกระบวนการผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ออร์แกนิกโดยเครื่องจักรทันสมัยนำเข้าจากเมืองไทยของ บ.พัฒน์กล เข้าสู่วันที่สอง "ป้ามาย และ "น้องนานา" ไกด์สาวท้องถิ่นชาวเวียดนามรับหน้าที่พาเราท่องในนครโฮจิมินห์พร้อมเล่าเกร็ดน่ารู้ต่างๆ ที่น่าสนใจสิ่งแรกที่สะดุดตาเป็นอย่างมากคือ การสัญจรของผู้คนในโฮจิมินห์นิยมขับขี่มอเตอร์ไซค์และที่สำคัญทุกคนสวมหมวกกันน็อก

“ป้ามาย” ไกด์สาวใหญ่ใจดีชาวเวียดนาม เล่าให้ฟังขณะรถบัสเคลื่อนพาเราไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งแรก

มอเตอร์ไซค์ที่นี้ราคาถูกโดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์มือสองที่มาจากเมืองจีน แต่ต้องเตรียมใจก่อนซื้อว่าขับไปอะไหล่อาจจะหลุดออกมาได้ เธอเล่าติดตลกคล้ายๆ ซื้อมอเตอร์ไซค์แถมถุงสำหรับเก็บเศษอะไหล่ ถ้าจะให้ดีขึ้นมาหน่อยก็เลือกซื้อมอเตอร์ไซค์มือสองจากทางญี่ปุ่นหรือฝั่งยุโรป คุณภาพดีแต่ราคาจะสูง

บนท้องถนนเต็มไปด้วยมอเตอร์ไซค์ เสียงแตรสลับดังอย่างต่อเนื่อง ป้ามาย พูดภาษาไทยสำเนียงเวียดนาม เหมือนรู้ดีว่าลูกทัวร์ชาวไทยสงสัยว่าถ้าจำต้องข้ามถนนในจุดที่ไม่มีสัญญาณไฟจราจร จะข้ามถนนอย่างไรให้ปลอดภัย ป้ามาย เผยเคล็ดลับการข้ามถนนในเมืองโฮจิมินห์ว่า “ก้าวเดินต่อไป อย่าวิ่ง อย่าหยุด” เพราะมอเตอร์ไซค์ที่นี่คุ้นชินกับนักท่องเที่ยวเขาจะกะจังหวะหลบเอง
ป้ามาย
น้องนานา
“น้องนานา” ไกด์สาวเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้ม เล่าเสริมถึงตัวเลขผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในโฮจิมินห์มีประมาณ 7 ล้านคัน ส่วนวิถีชีวิตของคนเมืองโฮจิมินห์ที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ ยกตัวอย่างภาพเก่าในหนังสือประวัติศาสตร์ จากการสัญจรด้วยการปั่นจักรยาน ก็เปลี่ยนเป็นมอเตอร์ไซต์ การแต่งกายของผู้คนก็เปลี่ยนไปเยอะ วัยรุ่นเวียดนามก็แต่ตัวทันสมัย เริ่มใช้จ่ายเงินเยอะขึ้น จากเมื่อก่อนกินข้าวเพื่ออิ่ม แต่งตัวเพื่อความอบอุ่น ตอนนี้ก็แต่งให้ดูสวยให้ดูทันสมัย เลือกกินอาหารรสอร่อยมากขึ้น

การท่องเที่ยวประเทศเวียดนามได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวสามารถรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ภาครัฐมีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยว จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว จัดอบรมภาษาอังกฤษให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องการท่องเที่ยว จัดอบรมคอร์สอบรมไกด์ท้องถิ่น รวมทั้งการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวการรักษาความสะอาด
พ่อค้าเร่ขายขนมกองโตจัดเรียงสวยงามเรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยว บริเวณไปรษณย์กลาง
ชาวเวียดนามสัญจรด้วยมอเตอร์ไซค์เป็นหลัก เฉพาะนครโฮจิมิห์มีตัวเลขผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่จดทะเบียนถูกต้องประมาณ 7 ล้านคัน
จัตุรัสโฮจิมินห์ หากมองกลับมาจะพบกับอนุสาวรีย์ ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ช่วงเย็นจะสถานที่พักผ่อนของคนเวียดนาม
ร้านกาแฟใหญ่น้อยแทรกตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ในเมืองโฮจิมินห์ มีให้เลือกหลายราคา ถ้าคิดเป็นเงินไทยเริ่มตั้งแต่สิบกว่าบาทไปจนถึงหลักร้อย มีทั้งร้านริมถนนราคาถูกมากๆ ร้านกาแฟเคลื่อนที่บนมอเตอร์ไซค์ ร้านร่วมสมัยสไตล์มินิมอล สไตล์ลอฟท์ หรือกาแฟสัญชาติอเมริกันอย่าง สตาร์บัค ก็มีไว้บริการ

แต่มาเยือนถึงถิ่นจึงไม่พลาดที่จะลิ้มรส กาแฟเวียดนามไฮไลท์ที่ยอมรับไปทั่วโลก ด้วยกลิ่นหอมตลบอบอวลของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดี รสชาติเข้มเต็มรสกาแฟ รวมทั้งเสน่ห์วิธีชงแบบเวียดนามแท้ๆ

น้องนานา เล่าว่ากาแฟเวียดนามนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมชื้อเป็นของฝาก มีทั้งกาแฟคั่วบดหลายชนิดหลายราคาที่ชั่งขายตามน้ำหนักพร้อมแถมถ้วยชงขนาดเล็กที่เรียกว่า ฟิน และกาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อ G7 ที่ใครมาเวียดนามก็มักต้องซื้อกลับไป

จากนั้นไกด์สาวทั้งสองพาเรามาถึงยังพิกัดแรก “โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Notre Dame Cathedral)” โบสถ์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเวียนาม ก่อสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2420 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 6 ปี เป็นสถาปัตยกรรมในยุคฟื้นฟูโรมาเนสก์ รับอิทธิพลมาจากประเทศฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นสถานที่ที่คู่รักนิยมเข้ามาถ่ายภาพ Pre - wedding ใกล้กันเป็นที่ตั้งของ ไปรษณีย์กลาง (Main Post Office) ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ก่อสร้างขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2439 ศิลปะการออกแบบสไตล์ฝรั่งเศสเช่นกัน ปัจจุบันยังคงให้บริการไปรษณีย์ทั้งการส่งจดหมาย โปสการ์ด ฯลฯ

ออกเดินทางต่อไปยัง ทำเนียบประธานาธิบดี (Reunification Palace) อาคารรูปทรงทันสมัยหลังใหญ่นี้รายรอบด้วยสวนขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของประเทศเวียดนาม การต่อสู้เพื่อปลดแอกประเทศ การลงนามสนธิสัญญาสันติภาพเจนีวาที่นามาซึ่งจุดจบมาสู่การยึดครองของฝรั่งเศส ใช้เวลาเดินชมพร้อมฟังบรรยายราวๆ 45 นาที ไกด์สาวพาเดินทางต่อไปยัง วัดเทียนเฮา (Thien Hau Temple) หรือวัดเจ้าแม่สวรรค์ ย่านไชน่าทาวน์ ของนครโฮจิมินห์ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ราว 500 ปีทีเดียว เปรียบดังศาลเจ้าแม่ทับทิมของคนไทย ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นที่เคารพของคนเวียดนามนิยมมาไหว้สักการะขอพรในเรื่องต่างๆ
ร้านจำหน่ายเมล็ดกาแฟสดมีเลือกหลายร้านหลายแบบหลายราคา
ร้านขายขนมปังเวียดนาม แบบมีใส่หมูยอ หมูย่าง ปกติเป็นอาหารเช้าของที่นี่
อาหารเช้าเปิดขายในยามค่ำคืน ข้าวเหนียว ใส่ถั่ว ใส่น้ำตาล ใส่เส้นมะพร้าว ใส่งา
และไปดูวิถีชีวิตการค้าขายที่ ตลาดเบ็นถันห์ (Ben Thanh Market) สัญลักษณ์ของเมืองโฮจิมินห์ จุดหมายของนักท่องเที่ยวต้องเดินทางมาเลือกซื้อของฝากกันที่นี้ แต่ก่อนจะเดินชมตลาด ป้ามาย แนะกลเม็ดเด็ดพรายในการจับจ่ายภายในตลาดแห่งนี้ว่า “ซื้อของต้องต่อราคา”

พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเรามาอยู่กันที่ จัตุรัสโฮจิมินห์ (Tran Nguyen Hai Statue) เป็นที่อนุสาวรีย์อดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ ยามเย็นจะสถานที่พักผ่อนของคนเวียดนาม มีลานน้ำพุเปิดในให้ชมยามค่ำ
เรือสำราญตกแต่งเป็นเรือสำเภาประดับไฟสวยงามให้บริการนักท่องเที่ยว ล่องชมวิวแม่น้ำไซ่ง่อน
ปลายทางต่อไปคือ ล่องเรือชมวิวแม่น้ำไซ่ง่อน เริ่มต้นดื่มด่ำราตรีอันเต็มไปด้วยสีสันของเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหล หลังจากเรือกลับเข้าเทียบท่า ไกด์สาวต่างวัยเดินทางมาส่งยังที่พัก หน้าที่ของพวกเธอยุติลงพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังเปื้อนอยู่บนใบหน้า
 
ส่วนเรายังเดินเท้าชมนครโฮจิมินห์ยามค่ำคืนกันต่ออีกหน่อย วิถีชีวิตผู้คนในเมืองโฮจิมินห์เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง
เช่นเดียวกับ เวลา 1,440 นาที ในนครโฮจิมินห์ที่กำลังเร่งนับถอยหลังและหมดลงอย่างรวดเร็ว
บรรยากาศยามค่ำคืนในนครโฮจิมินห์
รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างไม่มีเครื่องแบบเหมือนเมืองไทย ส่วนมอเตอร์ไซค์รับจ้างทั่วไป สังเกตง่ายๆ จอดตามมุมตึก ริมถนน มีหมวกกันน๊อค 2 ใบ ในภาพคือ Grabbike


กำลังโหลดความคิดเห็น