ท่านซุนวูได้เตือนเอาไว้เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้วว่า ต้องรู้เขา-รู้เรา รบร้อยครั้งก็จะชนะได้ร้อยครั้งเช่นกัน
การรบระหว่างไอซิสและตะวันตกมีมาถึงกว่า 2 ปีแล้ว แต่ฝ่ายตะวันตกกลับทำอะไรไอซิสได้ไม่มากนัก ไอซิสกลับขยายใหญ่จนสามารถครอบครองดินแดนใน 2 ประเทศ คือซีเรียและอิรักได้ถึงครึ่งประเทศ
กลางเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ มีความพยายามจากฝ่ายตะวันตกอีกครั้งที่จะตีเมืองเข้ายึดคืนโมซุล เมืองใหญ่อันดับสองของอิรัก ซึ่งไอซิสยึดไปได้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนแรกทางตะวันตกพยายามยึดคืนทันที แต่ไม่สามารถรักษาเมืองเอาไว้ได้เลย พลเมืองชาวโมซุลกลับอ้าแขนรับไอซิสอย่างไม่น่าเชื่อ
ฝ่ายตะวันตกมองว่าการขยายตัวของไอซิสเป็นเรื่องความแตกต่างทางศาสนา โดยฝ่ายไอซิสจะติดต่อผ่าน Social Media ประชิดตัวกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นเด็กๆ หนุ่มสาวมุสลิมที่คับแค้นใจในประเทศที่ตนเป็นพลเมืองอยู่ บางคนเป็นพลเมืองชั้นสองในประเทศตะวันตก, ที่ไร้ความเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ หรือการสร้างครอบครัว พวกเขาฝันจะไปสร้างอนาคตร่วมกับการสร้างชาติใหม่ ในดินแดนไอซิส ซึ่งจะมีกาหลิบปกครองด้วยกฎหมายศาสนาอิสลามเป็นที่ตั้ง
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้เอง องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ที่ตั้งศูนย์กลางอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ได้ออกรายงานที่ตั้งชื่อว่า “THE BIG SPIN” (หรือการบิดเบือนอย่างมโหฬาร) เป็นการชำแหละกองกำลังของอิรักที่หนุนหลังโดยตะวันตก ด้วยงบประมาณก้อนโต, ทหารและครูฝึก รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยมากมาย แต่ทำไมจึงแพ้ไอซิสเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว กลุ่มไอซิสยังมีขนาดเล็กนิดเดียวด้วยซ้ำ
Katherine Dixom ผอ.ของ TI ด้าน Defence+Security (กลาโหม+ความมั่นคง) เป็นผู้ร่วมเขียนรายงานชำแหละนี้ เธอชี้ว่าการโกงกินในกองทัพอิรัก เช่นจัดซื้ออาวุธที่มีสมรรถนะต่ำกว่าที่เป็นจริง จัดทำรายงานเท็จถึงจำนวนอาวุธว่าซื้อมามาก แต่จริงๆ มีอาวุธจำนวนน้อยกว่าที่ควรจะมี การเล่นพรรคเล่นพวกในการแต่งตั้ง ผบ.ต่างๆ เอาแต่ญาติของคนที่ไม่เก่งมาทำงานสำคัญๆ เป็นต้น เป็นการโกงกินมหาศาล ซึ่งทั้งโลกก็รับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรือเหาะที่อาจเหาะไม่ขึ้น ทำให้ชีวิตทหารไม่ปลอดภัย เพราะไม่มีเครื่องมือสอดแนมที่ใช้การได้ หรือไม้หาระเบิด GT 100 ซึ่งซื้อมาในราคาแพงมากๆ โดยถูกแหกตา
กองทัพจัดซื้อเครื่องมือที่จะรักษาชีวิตของทหารไม่ได้เลย ; รวมทั้งงบด้านอาหารการกินของทหาร (คงอาจไม่ถึงข้าวกล่องละ 80 บาท ที่มีค่า Com ถึง 3 ใน 4) ที่ทหารระดับล่างต้องอยู่แบบไม่พอกินพอใช้, ยากลำบาก หรือเสื้อผ้าของทหารก็ถูกโกงกินหมด แม้แต่อาวุธประจำกายก็เถอะ และถึงกับมีการรายงานเท็จเรื่องจำนวนทหารว่ามีมากมาย แต่จริงๆ ถ้านับหัวทหารกันแล้วมีน้อยกว่าที่รายงาน
ถ้ากองทัพอิรักจะอ่อนแอจากการโกงงบในกองทัพอิรัก ก็น่าจะทำให้ฝ่ายไอซิสพอใจ จะได้รบชนะฝ่ายกองทัพอิรักได้ง่ายๆ
แต่ TI ชำแหละว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้ไอซิสขยายเขตยึดครองได้กว้างขวางขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนสำคัญที่ไอซิสได้ใช้ประโยชน์จากการโกงกันในกองทัพอิรัก ก็คือการล่าสมาชิกใหม่ด้วยการบิดเบือน หรือตอกย้ำว่าการอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพที่มีแต่โกงกินมหาศาล ทำให้ทหารระดับล่าง หรือพลเมืองหนุ่มสาวมองไม่เห็นความก้าวหน้าในกองทัพ (หรือในชีวิตราชการของตน) ตลอดจนชีวิตของตนจะไม่มีความปลอดภัย มีแต่ความสิ้นหวัง
TI สรุปว่าการโกงกินในกองทัพ คือตัวการที่ไอซิสใช้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง เพื่อประชาสัมพันธ์ล้างสมองตอกย้ำให้เห็นกองทัพอิรักที่สหรัฐฯ สหภาพยุโรป สนับสนุนด้วยงบก้อนโต แต่มีการโกงกินและไม่เป็นธรรม โดยไอซิสได้เปรียบเทียบด้านความเป็นอยู่ในกองทัพของไอซิส ที่มีความเป็นธรรม, ไม่มีการโกงกิน, มีการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกัน
ที่ประเทศไนจีเรีย ก็ปราบกลุ่มกองกำลัง Boko Haram ของไอซิสไม่สำเร็จสักที ก็เพราะมีการโกงกินกันในกองทัพมาก จนประธานาธิบดีคนใหม่ที่เป็นอดีตนายพลดำเนินการอย่างเด็ดขาด ได้ปลด ผบ.ออกหลายคนที่มีการโกงกินจากงบของกองทัพ และบางคนถึงขนาดลักลอบเอาอาวุธของกองทัพไปขายให้ Boko Haram ด้วย
TI เตือนทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเจ้าของเงินช่วยเหลือกองทัพอิรัก ; ให้หันมาให้ความสำคัญต่อการโกงกินในกองทัพเป็นหลัก มิฉะนั้น จะไม่มีทางรบชนะไอซิส
ทุกกองทัพในโลก คงต้องหันกลับมาดูความโปร่งใสในกองทัพของตน เพื่อรบชนะข้าศึก จากรายงานชำแหละของ TI ครั้งนี้.