xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ผลงานชิ้นสุดท้าย “วุฒิ ลิปตพัลลภ” จับฝรั่งแพร่เอดส์ตามหมาย “Interpol”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -หลายวันมานี้มีข่าวพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ อดีตรอง ผบ.ตร.ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯเป็นข้าราชการพลเรือน (ซี 11)ไปรับตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งภาระกิจของอดีตนายตำรวจท่านนี้คือรับเรื่องราวร้องทุกข์ หรือสืบหาข้อมูลทุจริต คอร์รัปชันในส่วนราชการต่างๆ ทุกกระทรวง แล้วรายงานตรงต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

บางกระแสก็วิเคราะห์กันว่า อดีตรอง ผบ.ตร.ท่านนี้ถูกอ่อยให้มารับงานสำคัญ ทำนองว่าเป็นผู้ตรวจการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อีกชั้นหนึ่ง แต่ของจริงคือมีใครบางคนใน สตช.ไม่สบายใจเพราะศักยภาพของ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นักการเมืองชื่อดังดูเหนือชั้นกว่านายตำรวจระดับ รอง ผบ.ตร. ด้วยกัน ประกอบกับอาวุโสอันดับ 1 จึงต้องการให้พ้นๆ ทางไปจะได้ตัดคู่แข่งที่น่ากลัวออกไป

ฟังเขามา เก็บข้อมูลอีกด้านแล้วมารายงานให้ผู้อ่านได้ทราบ เพราะความจริงแล้วสมัย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เป็น รอง ผบ.ตร. ก่อนขยับมาเป็นเบอร์ 1 นั้น ถ้าย้อนเวลากลับไปแล้วถามท่านแบบล้วงไส้ล้วงพุงขอให้พูดอย่างเปิดอกกัน เชื่อว่าท่านก็มีความต้องการขึ้นเป็น ผบ.ตร. อย่างแน่นอน
       
     ไม่เพียงเรื่องอำนาจวาสนา หรือประโยชน์อื่นๆ แต่ตำแหน่งประมุของค์กรสีกากีนี้อยู่ในความใฝ่ฝันของนักเรียนนายร้อยตำรวจทุกคน กระทั่งตำรวจทุกคนที่ไม่เคยผ่าน นรต. ต่างก็มีฝัน แอบฝัน อยากติดยศ พล.ต.อ. เพื่อเป็น อธิบดีกรมตำรวจ หรือ “ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ด้วยกันทั้งสิ้น

อำนาจวาสนาเป็นอีกเรื่อง แต่การได้มีโอกาสกำกับดูแลหน่วยงานที่มีกำลังพลกว่า 2 แสนนาย และมีหน้าที่คอยดูแลทุกข์-สุขของประชาชนซึ่งนิยมพูดกันว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” นั้นมันน่าภาคภูมิใจ อะไรที่เคยอยากทำ อย่างจัดการให้เป็นผลงานของตัวสามารถทำได้เลย รวมทั้งยังมีโอกาสช่วยเหลือเพื่อนพ้องน้องพี่ ดังจะเห็นได้ว่า “บิ๊กแป๊ะ” ไม่เคยให้เพื่อนๆ น้องๆ หรือพี่ๆ ต้องผิดหวัง
           
  สำหรับตำรวจไทยหากครั้งหนึ่งเคยได้เป็นใหญ่ระดับหมายเลข 1 อย่าว่าแต่บุญบารมีในชั่วอายุปัจจุบันเลย แม้จะตายไปแล้วลูกหลานก็ยังได้อาศัยยาวไปอีก 2-3 รุ่น !!??

เมื่อมีเรื่องของอำนาจ ขนาดชี้เป็นชี้ตาย อีกทั้งมีผลประโยชน์มากมายหากจะคิดไม่สุจริต รอง ผบ.ตร. หรือตำรวจคนไหนก็ได้ที่มียศ พล.ต.อ. และเข้ากฎ กติกา สามารถขึ้นชิงตำแหน่งได้ ถ้ามีใครบอกว่าฉันไม่อยากเป็นเบอร์ 1 บอกได้เลยว่า โกหก...ทุกคนอยากเป็น ผบ.ตร.กันทั้งนั้น แต่ของแบบนี้จะออกอาการให้ใครเห็นทำไม จะกลายเป็นเภทภัยกับตัวเสียเปล่าๆ จึง “อยากเงียบ” บางคนทนๆ อยู่จนเกษียณอายุราชการ บ้างต้องกลมกลืนไปกับขั้วอำนาจ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ดี เออ-ออ ห่อหมกในทุกเรื่อง เพราะจะได้อาศัยช่วยคนใกล้ชิดของตัวเองบ้าง หรือเพื่อแบ่ง-แชร์อำนาจบ้าง เรียกว่าถ้อยทีถ้อยอาศัย บางคนวางตัวเหมาะสม บางคนกระลิ้มกระเหลี่ยจนน่ารังเกียจ มีให้เห็นทุกรูปแบบ

พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ น่าจะอยู่ในเงื่อนไขต่างจากคนอื่น คือขอยอมแพ้-อยู่ไปทำไมมี เมื่อไล่อายุราชการไปแล้วไงก็ต้องเกษียณฯ ในเดือนตุลาคม 2560 นี้

ไม่ว่าจะคิดทางใด สมมุติว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ เกิดสะดุดขาตัวเองมีอันต้องหลุดจากเก้าอี้ ก็ยังมีพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง จ้องรอเสียบอยู่ คือเรียกว่าโอกาสมีน้อยมากเว้นเสียแต่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง รวมทั้งบรรดาที่ปรึกษารอบตัวทั้งหลายแหล่ จะเสนอทางเลือกใหม่นี้

แต่มันก็ยากเพราะการร่วมเป็นร่วมตายเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย (ด้วยการยึดอำนาจ) สำนวน “เลือดสุพรรณ” น่าจะขลังกับสถานการณ์นี้ พล.ต.อ.วุฒิ จึงพิจารณาตัวเองขยับออกมา เปิดทางให้น้องๆ ได้ขยับขยาย และต่อไปน้องๆ จะไป “ชิงธง” เป็นหมายเลข 1 กันอย่างไรก็ว่ากันไปตามโชค-วาสนา
          
      อย่างไรก็ตาม หลังท่านวุฒิ ออกข่าวเปลี่ยนโฉมมาเป็นข้าราชการพลเรือนแค่อึดใจเดียว ชะรอยสวรรค์คงมีตา ทำให้ตำรวจภูเก็ต จับนายฟรายเดย์ ซาดเน็ค อายุ 52 ปี สัญชาติเช็ค ฝรั่งมังค่าคนนี้เป็นใคร...ก็เป็นคนที่ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ เคยประสานกับตำรวจสากล และออกคำสั่งตามหมายจับ Interpol เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.59 ในฐานะบุคคลอันตราย โดยพฤติการณ์ของนักท่องเที่ยวรายนี้เดินทางมาประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.58 มีประวัติป่วยเป็นโรคเอดส์ และทำตัวเป็นอันตรายต่อสังคม คือจะออกล่าทั้งชาย และหญิง เพื่อมีเพศสัมพันธ์ แล้วปล่อยเชื้อ

เรื่องนี้เป็นข่าวฮือฮาในช่วงแรก ทั้งคลิปข่าวและอื่นๆ สร้างความหวาดหวั่นแก่บรรดานักท่องราตรี และผู้มีรสนิยมเปลี่ยนคู่นอนอยู่พอสมควร ความแสบของนายฟรายเดย์ ซาดเน็ค คือเมื่อเสร็จกิจกรรมทางเพศแล้วก็จะเอาคลิปที่แอบถ่ายไว้ออกเผยแพร่ หลังจากตำรวจไทยจับตัวได้ที่ภูเก็ต ก็ทำได้เพียงแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้าประเทศไทย เกินกว่ากำหนด คาดว่าอยู่ระหว่างรอการเนรเทศ ส่วนความผิดอื่นๆ ไม่น่าจะทำอะไรได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายรองรับ อีกเหตุผลสำคัญคือไม่มีเจ้าทุกข์ เชื่อว่าป่านนี้คงพากันผวา หาหมอเพื่อขอยาต้านเชื่อไวรัสกันจ้าละหวั่นแล้ว

คดีนี้นอกจากจะปรบมือให้กับตำรวจภูเก็ต ที่ช่างสังเกตและมีจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แล้วขอยกยอดความดีให้กับ พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ในฐานะผู้บังคับบัญชา และในฐานะตำรวจของประชาชน ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีอีกคนหนึ่งด้วย

แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยด้วยปัญหา “การเมือง” ในรั้วปทุมวันกันเอง แต่หากไม่มีประกาศจับที่สั่งมาโดยอดีตรอง ผบ.ตร.ท่านนี้ ในฐานะบุคคลอันตราย ฝรั่งตัวดีก็คงเพลิดเพลินกับการแก้แค้นสังคม ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีคนไทย หรือชาวโลกต้องร่วมชะตากรรมกลายเป็นผู้ติดเชื้อ เอสไอวี. เจ็บป่วย ล้มตายไปอีกเท่าไหร่ 
           
  ถ้าจะถือเป็นผลงานให้ท่านนั่งอมยิ้ม ในฐานะมือปราบข้ามชาติ ซึ่งคดีนี้เป็นหมายจับแรกของตำรวจสากล และสามารถปิดฉากอย่างงดงาม ส่งท้ายชีวิตการเป็นตำรวจแล้วกัน ..


กำลังโหลดความคิดเห็น