ไม่ว่านาทีนี้จะมีการเลื่อนเวลาโรดแมป หรือเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ ประเมินจากกระแสสังคมในเวลานี้ยังมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกินขาด ไม่ว่าจะเลือกตั้งช้าหรือเร็วตามกำหนดเดิมคงไม่ใช่ประเด็นหลัก และเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ก็คงไม่มีใครเดือดร้อน ไม่มีใครเร่งรัดให้รีบเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันหากยังยืนยันเดินหน้าตามกำหนดเดิมเขาก็ต้องมาอีกเพราะตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ยังเปิดทาง"คนนอก"ได้อีก
**แม้จะเป็นเพียงการคาดคะเน เสียงพูดที่ลอยมาตามลมยังไม่มีอะไรเป็นทางการ ว่าจะมีการขยายเส้นทางโรดแมปให้ไกลออกไปอีก โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่มีการคาดหมายว่า อาจจะต้อง"เลื่อน"ออกไปจากเดิมที่กำหนดเอาไว้ในปลายปี 2560 หรือน่าจะราวๆ เดือนธันวาคม
สิ่งที่หลายคนคาดการณ์ว่าน่าจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็คือ ด้วย "ความเหมาะสม" เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วง "ถวายพระเพลิงพระบรมศพ" พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประมาณเดือนตุลาคม 2560 หลังจากตามกำหนดการพระเมรุมาศได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นในราวปลายเดือนกันยายน จึงมีความคิดว่า ในช่วงเวลาแบบนั้นไม่สมควรจะมีบรรยากาศของการหาเสียงของนักการเมือง
อย่างไรก็ดี ทุกอย่างขอย้ำว่าเป็นเพียงการพูดกันเอง สรุปกันเอาเอง โวยวายกันไปก่อน ยังไม่มีเสียงยืนยันจากปากของคนที่มีอำนาจสูงสุดอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแบบเป็นทางการ หรือเปรยออกมาให้ได้ยินแต่อย่างใด อย่างมากก็เป็นเพียงเสียงของคนอื่น ที่อาจเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และคสช.เท่านั้น หรือคนที่พอฟังได้ อย่างรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ยกเหตุผลในเรื่องของเงื่อนไขเวลาของการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่สำคัญ 4 ฉบับ เป็นต้น
เมื่อพูดถึงการเลื่อนเลือกตั้ง หากประเมินกันแล้วหรือฟังเสียงโวยวายเท่าที่ได้ยินหากพูดกันแบบตรงไปตรงมา แบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือในกลุ่มของ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรเลย เพราะถ้าไม่โวยสิแปลก
สิ่งที่พิจารณากันแบบเข้าใจตรงกันก็คือ เวลานี้ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ล้วนอ่อนแรงจนแทบลุกขึ้นยืนอีกครั้งแทบไม่ไหวแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยควบคุมอยู่ในมือ เวลานี้ต่างสลายลงไปแทบทั้งหมด หลังจากการเข้ามาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และที่สำคัญก็คือ ยิ่งอยู่นาน "ยิ่งแข็ง" ขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะอ่อนกำลังลงเหมือนกับเผด็จการในยุคก่อนๆ กลายเป็นว่ายิ่งเพิ่มความศรัทธาจากชาวบ้านมากขึ้น หรืออย่างน้อยหากไม่กล่าวหากันว่า "เชลียร์" กันจนน่าเกลียด ก็ต้องยอมรับความจริงว่าความนิยมศรัทธายังไม่ตก ซึ่งก็พิสูจน์ได้จากผลสำรวจที่ออกมาทุกสำนักตรงกัน
เมื่อยิ่งนานยิ่งแข็งแบบนี้ สำหรับพวกเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร มันก็ยิ่งอันตราย มันย่อมกระทบเข้าไปเต็มๆ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่บรรดา "พวกเด็กๆ" ของเขาจึงพร้อมใจออกมาโวยวายแบบทวงสัญญาทำนองว่า "ไหนว่าจะให้เลือกตั้งปลายปี 60" ซึ่งก็เข้าใจได้ว่า ทำไมถึงต้องดักคอ ทำไมถึงต้องโวย เพราะหากเนิ่นนานออกไปเท่าใด โอกาสที่ได้ลุ้นหวนกลับคืนสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้ง มันก็ยิ่งหดเหลือน้อยลงไปเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็ย่อมเข้าใจว่า ทำไมคนพวกนี้ถึงได้ออกมาโวยวายหนักมาก ถึงขั้นขู่ว่าอาจมีมวลชนลุกฮือขึ้นมาขับไล่ ไม่ว่าจะเป็น สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รวมไปถึงคนอื่น ที่แม้ว่าจะอยู่ในระดับปลายแถว แต่ก็ถือว่าออกมาในโทนเดียวกันเพราะต้องพูดในความหมายเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่านาทีนี้จะมีการเลื่อนเวลาโรดแมปออกไป หรือเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ ประเมินจากกระแสสังคมในเวลานี้ยังมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกินขาด ไม่ว่าจะเลือกตั้งช้า หรือเร็วตามกำหนดเดิม คงไม่ใช่ประเด็นหลัก และเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ก็คงไม่มีใครเดือดร้อนไม่มีใครเร่งรัดให้รีบเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันหากยังยืนยันเดินหน้าตามกำหนดเดิมเขาก็ต้องมาอีก เพราะตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ยังเปิดทาง "คนนอก" ได้อีก
**ดังนั้นเมื่อประเมินจากสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมทั้งมวลแล้ว ไม่ว่าจะออกมาแบบไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องกินรวบอยู่ยาว อยู่ดี แต่ขณะเดียวกันมันก็น่าเห็นใจ สำหรับฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ที่จำเป็นต้องลุ้นให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด เพราะมันเป็นทางเดียวที่เหลืออยู่ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วก็ตาม !!
**แม้จะเป็นเพียงการคาดคะเน เสียงพูดที่ลอยมาตามลมยังไม่มีอะไรเป็นทางการ ว่าจะมีการขยายเส้นทางโรดแมปให้ไกลออกไปอีก โดยเฉพาะการเลือกตั้งที่มีการคาดหมายว่า อาจจะต้อง"เลื่อน"ออกไปจากเดิมที่กำหนดเอาไว้ในปลายปี 2560 หรือน่าจะราวๆ เดือนธันวาคม
สิ่งที่หลายคนคาดการณ์ว่าน่าจะต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปก็คือ ด้วย "ความเหมาะสม" เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วง "ถวายพระเพลิงพระบรมศพ" พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประมาณเดือนตุลาคม 2560 หลังจากตามกำหนดการพระเมรุมาศได้ก่อสร้างเสร็จสิ้นในราวปลายเดือนกันยายน จึงมีความคิดว่า ในช่วงเวลาแบบนั้นไม่สมควรจะมีบรรยากาศของการหาเสียงของนักการเมือง
อย่างไรก็ดี ทุกอย่างขอย้ำว่าเป็นเพียงการพูดกันเอง สรุปกันเอาเอง โวยวายกันไปก่อน ยังไม่มีเสียงยืนยันจากปากของคนที่มีอำนาจสูงสุดอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติแบบเป็นทางการ หรือเปรยออกมาให้ได้ยินแต่อย่างใด อย่างมากก็เป็นเพียงเสียงของคนอื่น ที่อาจเป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และคสช.เท่านั้น หรือคนที่พอฟังได้ อย่างรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ที่ยกเหตุผลในเรื่องของเงื่อนไขเวลาของการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่สำคัญ 4 ฉบับ เป็นต้น
เมื่อพูดถึงการเลื่อนเลือกตั้ง หากประเมินกันแล้วหรือฟังเสียงโวยวายเท่าที่ได้ยินหากพูดกันแบบตรงไปตรงมา แบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือในกลุ่มของ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไรเลย เพราะถ้าไม่โวยสิแปลก
สิ่งที่พิจารณากันแบบเข้าใจตรงกันก็คือ เวลานี้ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ล้วนอ่อนแรงจนแทบลุกขึ้นยืนอีกครั้งแทบไม่ไหวแล้ว หลายสิ่งหลายอย่างที่เคยควบคุมอยู่ในมือ เวลานี้ต่างสลายลงไปแทบทั้งหมด หลังจากการเข้ามาของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และที่สำคัญก็คือ ยิ่งอยู่นาน "ยิ่งแข็ง" ขึ้นกว่าเดิม แทนที่จะอ่อนกำลังลงเหมือนกับเผด็จการในยุคก่อนๆ กลายเป็นว่ายิ่งเพิ่มความศรัทธาจากชาวบ้านมากขึ้น หรืออย่างน้อยหากไม่กล่าวหากันว่า "เชลียร์" กันจนน่าเกลียด ก็ต้องยอมรับความจริงว่าความนิยมศรัทธายังไม่ตก ซึ่งก็พิสูจน์ได้จากผลสำรวจที่ออกมาทุกสำนักตรงกัน
เมื่อยิ่งนานยิ่งแข็งแบบนี้ สำหรับพวกเครือข่ายทักษิณ ชินวัตร มันก็ยิ่งอันตราย มันย่อมกระทบเข้าไปเต็มๆ ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่บรรดา "พวกเด็กๆ" ของเขาจึงพร้อมใจออกมาโวยวายแบบทวงสัญญาทำนองว่า "ไหนว่าจะให้เลือกตั้งปลายปี 60" ซึ่งก็เข้าใจได้ว่า ทำไมถึงต้องดักคอ ทำไมถึงต้องโวย เพราะหากเนิ่นนานออกไปเท่าใด โอกาสที่ได้ลุ้นหวนกลับคืนสู่อำนาจผ่านการเลือกตั้ง มันก็ยิ่งหดเหลือน้อยลงไปเท่านั้น
ขณะเดียวกันก็ย่อมเข้าใจว่า ทำไมคนพวกนี้ถึงได้ออกมาโวยวายหนักมาก ถึงขั้นขู่ว่าอาจมีมวลชนลุกฮือขึ้นมาขับไล่ ไม่ว่าจะเป็น สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รวมไปถึงคนอื่น ที่แม้ว่าจะอยู่ในระดับปลายแถว แต่ก็ถือว่าออกมาในโทนเดียวกันเพราะต้องพูดในความหมายเดียวกัน
อย่างไรก็ดี ไม่ว่านาทีนี้จะมีการเลื่อนเวลาโรดแมปออกไป หรือเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ ประเมินจากกระแสสังคมในเวลานี้ยังมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกินขาด ไม่ว่าจะเลือกตั้งช้า หรือเร็วตามกำหนดเดิม คงไม่ใช่ประเด็นหลัก และเชื่อว่าสังคมส่วนใหญ่ก็คงไม่มีใครเดือดร้อนไม่มีใครเร่งรัดให้รีบเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันหากยังยืนยันเดินหน้าตามกำหนดเดิมเขาก็ต้องมาอีก เพราะตามเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ยังเปิดทาง "คนนอก" ได้อีก
**ดังนั้นเมื่อประเมินจากสถานการณ์และปัจจัยแวดล้อมทั้งมวลแล้ว ไม่ว่าจะออกมาแบบไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องกินรวบอยู่ยาว อยู่ดี แต่ขณะเดียวกันมันก็น่าเห็นใจ สำหรับฝ่ายทักษิณ ชินวัตร ที่จำเป็นต้องลุ้นให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด เพราะมันเป็นทางเดียวที่เหลืออยู่ แม้ว่าจะเป็นเส้นทางที่แทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วก็ตาม !!
