ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่มพลเมืองต่อต้าน เปิดฉากโจมตีระบบกระทรวงต่างประเทศ แฮกข้อมูลเจ้าหน้าและเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศกว่า 3 พันราย สนช.-นักกฎหมายรุมอัดยับ พฤติกรรมสุดเลว บ่อนทำลายชาติ เร่งเจ้าหน้าที่จับกุมมาประจาน ก่อนขังคุกยาว ระบุใครจะรับผิดชอบ หากคนไทยในต่างประเทศเกิดปัญหา แต่ไม่สามารถประสานงานกับสถานทูตได้ ขณะที่โฆษก ตร. ยัน เว็บไซต์ ศปก.ตร. ใช้งานได้ปกติ แต่เฝ้าระวังเข้ม พร้อมแกะรอยไอพีแอดเดรสหาผู้กระทำผิดมาลงโทษ
วานนี้ (22 ธ.ค.) เฟซบุ๊กแฟนเพจ พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall # opsinglegateway แฟนเพจที่รณรงค์เรียกร้องสิทธิเสรีภาพในโลกออนไลน์ ต่อต้านนโยบาย Single Gateway และจัดกิจกรรมโจมจีทางไซเบอร์กับหน่วยงานราชการของไทยมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนประกาศยกระดับการโจมตีเมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อแสดงออกคัดค้านพรบ.คอมพิวเตอร์
ล่าสุด เพจดังกล่าวได้โพสข้อความผ่านแฟนเพจระบุว่า แฮกเกอร์ในนาม “Anonymous” ได้แฮกข้อมูลบัตรประจำตัวของเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศอีกกว่า 3,000 รายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยเพจดังกล่าว ระบุว่า “#OpSingleGateway กระทรวงต่างประเทศ โดน Boss จัดไปแล้ว โดนจัดไปคือ บัตร ID ของเจ้าหน้าที่กระทรวง และเจ้าหน้าองค์กรระหว่างประเทศ มากกว่า 3000 ราย This leak contains Official ID cards and National ID cards of MFA (Ministry of Foreign Affairs) and TICA (Thailand International Cooperation Agency) employees (+3000).”
*** 'สมชาย'อัด'แฮกเกอร์'สุดเลวโจมตี'บัวแก้ว'
นายสมชาย แสวงการ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "สมชาย แสวงการ" ถึงกรณีดังกล่าวว่า "สุดเลวครับ ใครคิดว่าเท่ห์ ขอประนาม พวกแฮกเกอร์บ่อนทำลายชาติ ขอให้ประชาชนไทยอย่าเป็นเหยื่อเข้าร่วม คิดว่าโก้เก๋ ให้จนท.เร่งดำเนินการป้องกันและสืบสวนจับกุม ถ้าเป็นคนไทยต้องนำมาประจานก่อนเอาเข้าคุกขังยาว"
ด้านแฟนเพจนักกฎหมายชื่อดังอย่าง "นักกอดหมอนออนไลน์" ก็ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า "แล้วคนไทยที่อยู่ต่างประเทศจะประสานงานสถานทูตอย่างไร ถ้าเกิดเหตุร้ายกับเขาแล้วติดต่อใครไม่ได้ใครจะรับผิดชอบ และตอนนี้กลายเป็นอาชญากรคดีความมั่นคงแล้วนะ"
"ยิ่งช่วงนี้เกิดเหตุร้ายที่ต่างประเทศบ่อยๆด้วย ถ้าใครไม่เคยประสบเหตุการณ์ร้ายๆ ในต่างประเทศ จะไม่เข้าใจหรอกว่า สถานทูตนั้นสำคัญแค่ไหน"
*** ตร.ปัดถูกแฮกระบบของ ศปก.ตร.
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึง กรณีที่เพจของกลุ่มพลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall # opsinglegateway ประกาศสามารถแฮกระบบปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ซึ่งมีการประชุม เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (22 ธ.ค.) โดยมีการแจกไอพีแอดเดรสของระบบศปก.ตร ว่า การประชุมภายใน ศปก.ตร. สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น โดยไอพีแอดเดรสดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขในการเข้าระบบ เท่านั้น ยืนยันตำรวจมีการข่าวและเฝ้าระวังในเรื่องดังกล่าวอยู่ก่อนแล้ว จึงวางมาตรการป้องกันไว้
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบ ตามหน่วยราชการต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีบางหน่วยงาน ที่ถูก กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าทำการแฮกระบบ แต่ได้มีการแก้ไขให้กลับสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและตัวบุคคลของประชาชนและเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบกลุ่มดังกล่าว มีการเชิญชวนให้ร่วมกันเจาะข้อมูลเพื่อทำลายระบบ ซึ่งตำรวจมีวิธีการสืบสวนแกะรอยจากไอพีแอดเดรส หากพบผู้ใดเชิญชวนให้กลุ่มบุคคลเข้าเจาะข้อมูลเว็บไซต์ของทางราชการ จะมีความผิดตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นชักชวนให้บุคคลร่วมกระทำผิด ส่วนผู้ที่หลงเชื่อหลงกระทำผิด จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. รับแจ้งความร้องทุกข์กรณีที่มีหน่วยงานใดได้รับความเสียหายจากการถูกเจาะข้อมูลดังกล่าว
"หากพบการแฮกระบบข้อมูลจะต้องพิจาณาถึงพฤติกรรมว่า เป็นการกระทำผิดในลักษณะของการเข้าถึงข้อมูลของเว็บไซต์ หรือ เป็นการเจาะเข้าไปทำลายข้อมูลสำคัญของเว็บไซด์ ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญา โดยหน่วยงานที่เป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องเอาผิดทางแพ่ง ฐานละเมิดกับผู้ที่กระทำผิดได้อีกทางหนึ่ง และจากข้อมูลที่ได้รับรายงาน ยอมรับว่าเว็บไซต์ของบช.ภ.1 มีกลุ่มบุคคลพยายามที่จะเจาะข้อมูล แต่ทางตำรวจสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทัน จึงทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย"
รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ฝากเตือนกลุ่มบุคคลที่คิดจะแฮกเว็บไซต์ของหน่วยราชการ จะมีความผิดกฎหมายอาญา ซึ่งตำรวจจะเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดเนินคดี ทั้งนี้ สำหรับร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) มีเจตนา คุ้มครองความสงบสุขของประเทศ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไป