ศปก.ตร.รู้ทัน วางมาตรการป้องกันกลุ่มต้านซิงเกิลเกตเวย์แฮกระบบในการประชุมเมื่อช่วงเช้า สั่งแกะรอยไอพีแอดเดรส เข้าข่ายผิดความมั่นคง
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เพจของกลุ่มพลเมืองต่อต้าน single gateway Thailand firewall internet ได้ประกาศทางเพจว่าสามารถแฮกระบบปฏิบัติการของศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ซึ่งมีการประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมีการแจกไอพีแอดเดรสของระบบ ศปก.ตร.ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาการประชุมภายใน ศปก.ตร.ไม่มีปัญหาใดๆ ในการประชุมเกิดขึ้นครั้งนี้ตัวเลขไอพีแอดเดรสดังกล่าวเป็นเพียงตัวเลขในการเข้าระบบเท่านั้น ยืนยันตำรวจมีการข่าวและเฝ้าระวังในเรื่องดังกล่าวอยู่ก่อนแล้วจึงวางมาตรการป้องกันไว้ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าตามหน่วยราชการต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีบางหน่วยงานที่ถูกกลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าทำการแฮกระบบ แต่ได้มีการแก้ไขให้กลับสู่ภาวะปกติเรียบร้อยแล้วและไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและตัวบุคคลของประชาชนและเจ้าหน้าที่
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีการเชิญชวนให้ร่วมกันเจาะข้อมูลเพื่อทำลายระบบ ซึ่งตำรวจมีวิธีการสืบสวนแกะรอยจากไอพีแอดเดรส หากพบว่าผู้ใดเชิญชวนให้กลุ่มบุคคลเข้าเจาะข้อมูลเว็บไซต์ของทางราชการจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นชักชวนให้บุคคลร่วมกระทำผิด ส่วนผู้ที่หลงเชื่อหลงกระทำผิดจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. รับแจ้งความร้องทุกข์กรณีที่มีหน่วยงานใดได้รับความเสียหายจากการถูกเจาะข้อมูล ซึ่งในกรณีนี้ต้องดูพฤติการณ์ว่าการกระทำผิดเป็นลักษณะของการเข้าถึงข้อมูลของเว็บไซต์ หรือเป็นการเจาะเข้าไปทำลายข้อมูลสำคัญของเว็บไซต์ ซึ่งถือเป็นความผิดทางอาญา โดยหน่วยงานที่เป็นผู้เสียหายสามารถฟ้องเอาผิดทางแพ่งฐานละเมิดต่อผู้ที่กระทำผิดได้อีกทางหนึ่ง และจากข้อมูลที่ได้รับรายงานยอมรับว่าเว็บไซต์ของ บช.ภ.1 มีกลุ่มบุคคลพยายามที่จะเจาะข้อมูล แต่ทางตำรวจสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันจึงทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย
รองโฆษก ตร.กล่าวด้วยว่า ขอฝากเตือนกลุ่มบุคคลที่คิดจะแฮกเว็บไซต์ของหน่วยราชการว่าจะมีความผิดกฎหมายอาญา ตำรวจจะเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ทั้งนี้ สำหรับร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่...) มีเจตนาคุ้มครองความสงบสุขของประเทศ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั่วไป
