MGR Online - โฆษก ตร. จ่อเอาผิด เพจต้านซิงเกิลเกตเวย์ ป่วนเว็บไซต์รัฐสภา มีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เตือน ปชช. อย่าหลงเชื่อการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเสียหายต่อเว็บไซต์ต่างๆ
วันนี้ (16 ธ.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “พลเมืองต่อต้าน Single Gateway : Thailand Internet Firewall #opsinglegateway” นัดหมายผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ร่วมกันแสดงออกในการต่อต้าน ร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. … ในการทำปฏิบัติการ “F5 for All Thai people” จนทำให้เว็บไซต์ของรัฐสภา www.parliament.go.th ล่มไม่สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ นอกจากนี้ เพจดังกล่าวได้นัดปฏิบัติการอีกครั้ง ในวันที่ 16 ธ.ค. เวลา 14.00 น. ซึ่งเป็นวันที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ วาระ 2 - 3 ว่า หลังเกิดเหตุมีบุคคลบางกลุ่มพยายามดำเนินการก่อกวนโดยนัดกันไปป่วนเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการ จนไม่สามารถเข้าชมได้เพื่อแสดงการต่อต้านร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่…) พ.ศ. …ตามที่ปรากฏตามข่าวนั้น
สำหรับผู้ที่เข้าไปกระทำความผิดที่หลงเชื่อเข้าไปกระทำความผิดนั้น จะมีความผิดตามมาตรา 10 ของ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ในการทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดนระงับชะลอขัดขวางหรือถูกรบกวน จนไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ มีความผิดจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขณะที่ผู้ยุยงส่งเสริมปลุกปั่น เพื่อให้กลุ่มคนกระทำความผิดจะสุ่มเสียงต่อความผิดมาตรา 116 (3) ฐานยุยงปลุกปั่นเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี
“อยากฝากเตือนประชาชนว่าไม่ควรหลงเชื่อกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นให้เกิดความเสียหายต่อเว็บไซต์ต่างๆ หากประชาชนต้องการแสดงความไม่เห็นด้วยในกรณีดังกล่าวมีช่องทางมากมายที่สามารถแสดงความเห็นอยู่แล้ว เช่น ช่องทางการแสดงออกตามกระทู้ต่างๆ หรือการยื่นหนังสือทักท้วง และการลงชื่อร่วมกันเพื่อนำไปยื่นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ฝ่ายนิติบัญญัติสามารถออกกฎหมายให้มีความสมบูรณ์ แต่การเข้าไปดำเนินการกดคีย์บอร์ดกด F5 เพื่อให้เว็บไซต์ต่างๆ ล่มนั้น เป็นการกระทำที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ อย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปตรวจสอบหาผู้กระทำผิด รวมถึงกำลังสอบสวนสืบสวนหาเจ้าของเพจเฟซบุ๊กที่ยุยงปลุกปั่นดังกล่าวว่าอยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศหรือไม่ต่อไป” รองโฆษก ตร.ระบุ