“องอาจ” แถลงสดโต้ดีเอสไอผ่านเฟซบุ๊ก ปัดยุยงปลุกปั่น อ้างแค่นำเสนอความจริงเพื่อให้ทางราชการเข้าใจคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายเท่านั้น พร้อมเรียกร้องให้ถอนแจ้งความเพื่อแสดงความจริงใจต่อประชาชน
วันที่ 13 ธ.ค. 59 เมื่อเวลา 19.30 น. นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้แถลงท่าที หลังมีข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ไปแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหายุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อช่วงบ่ายวันนี้
โดยได้เผยแพร่ภาพสดทางเฟซบุ๊ก เครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก ระบุแถลงข่าวเครือข่ายคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก
นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่าทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับกระผม นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ในข้อหายุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ที่กองบังคับการปราบปรามนั้น กระผมขอเรียนชี้แจง ดังนี้
1. กระผมขอปฏิเสธว่า ไม่ได้มีเจตนายุยง ปลุกปั่น ให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน แต่ประการใด
2. ในการแถลงข่าวที่ผ่านมา มีแต่เพียงการนำเสนอความจริงที่เกิดขึ้นต่อสื่อมวลชน เป็นการพูดโดยหลักการเท่านั้น เพื่อให้ทางราชการเข้าใจถึงความรู้สึกนึกคิดของประชาชน คือ คณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จด้วยความสงบเรียบร้อย
3. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นหน่วยงานระดับกรม มีบุคลากรนับพันคนที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย มีอาวุธ และมีงบประมาณปีละหลายพันล้านบาท เมื่อ DSI ตั้งตัวเป็นคู่กรณี แจ้งความกล่าวโทษใคร คนๆ นั้นย่อมต้องกลัว เพราะเหมือนสู้อยู่กับยักษ์ใหญ่ มีกระบอง มีอำนาจ มีเงินมหาศาล แต่กระผมแม้เป็นเพียงเด็กหนุ่ม ไม่มีอำนาจราชศักดิ์ใดๆ แต่ก็เชื่อมั่นในความถูกต้องบริสุทธิ์ใจของตน และพร้อมจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรม
4. แทนที่จะค้าความตั้งตนเป็นคู่กรณีกับประชาชน ซึ่งอาจทำให้คนหวาดกลัวไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ DSI เกรงว่าภัยจะมาถึงตัว ถ้า DSI ใช้โอกาสนี้รับฟังความเห็นของประชาชน เพื่อพิจารณาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สมบูรณ์ขึ้น จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน ย่อมจะเป็นแนวทางที่ถูกต้องสร้างสรรค์ สมเป็นหน่วยราชการที่รับใช้ประชาชนมิใช่หรือ? จึงขอเรียกร้องให้ DSI แสดงความจริงใจต่อประชาชน โดยการถอนแจ้งความ