เริ่มมีสัญญาณความเคลื่อนไหวที่ชัดเจน ในการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน”ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ(รองผบก.)-สารวัตร(สว.) วาระประจำปี 2559 ต่อห้วงเวลาในการดำเนินการ ที่มีการกาปฏิทินกันไว้คร่าวๆ ระหว่างวันที่ 25-27 ธ.ค.นี้ อาจจะมีอะไรให้เห็นเป็นรูปธรรม อย่างที่เหล่า”สีกากี”กำลังเฝ้ารอ
แม้จะผ่านพ้นห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผบก.-สว. วาระประจำปี ที่กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 15 ก.ค.59 หมวด 1 บททั่วไป ข้อ 7 ระบุ “ให้มีการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับตำแหน่งพร้อมกันปีละหนึ่งครั้ง เรียกว่า “วาระประจำปี”โดยการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำเนินการตามห้วงระยะเวลาของทุกปี”
ในวงเล็บ 2 ระบุ ตำแหน่งระดับสารวัตร ถึงรองผู้บังคับการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. และ”บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ไม่ได้เสนอวาระขอขยายเวลาการการแต่งตั้งระดับ “นายพัน”ตามกฎ ก.ตร.ที่กำหนด ต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)
แต่ด้วยการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. ปีนี้ ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 21/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย.59 เรื่องการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้ ผบ.ตร. เป็นผู้ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก.ลงมา จนกว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในวาระการแต่งตั้งประจำปี 2559 จะแล้วเสร็จ
ทำให้การแต่งตั้งระดับ “นายพัน”วาระ 59 ซึ่งอยู่ในช่วงวาระพิเศษ มียันต์ป้องกันตัว อาจไม่ต้องยึดตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2559 ที่เป็นกฎ ระเบียบ ในช่วงเวลาปกติทั่วไป เหมือนที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกเอาไว้ช่วงปลายเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ถึงเหตุผลยังไม่ขอขยายเวลาการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. วาระประจำปี 2559 ออกไป เพราะไม่ได้กังวลว่าจะกระทบด้านข้อกฎหมาย เพียงแค่ให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษาให้รอบคอบเท่านั้น
โดยการแต่งตั้ง “รองผบก.-สว.”ปีนี้ มีตำแหน่งว่างแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ แทนตำแหน่งเลื่อนไหลจำนวน 1,593 ตำแหน่ง แยกเป็น รองผบก. ว่าง 218 ตำแหน่ง ผู้กำกับ(ผกก.) 377 ตำแหน่ง รองผู้กำกับ (รองผกก.) 450 ตำแหน่ง และสว. 548 ตำแหน่ง
สำหรับตำแหน่งที่น่าสนใจอย่าง บช.น. เก้าอี้ว่าง 64 ตำแหน่ง แบ่งเป็น รองผบก. 12 เก้าอี้ ผกก.6 เก้าอี้ รองผกก.32 เก้าอี้ สว. 14 เก้าอี้ บช.ก. ว่าง 28 ตำแหน่ง รองผบก.13 เก้าอี้ ผกก. 3 เก้าอี้ รองผกก. 6 เก้าอี้ สว. 6 เก้าอี้ บช.ภ.1 ว่าง 60 ตำแหน่ง รองผบก. 12 เก้าอี้ ผกก.8 เก้าอี้ รองผกก.22 เก้าอี้ สว.18 เก้าอี้ บช.ภ.2 ว่าง 47 เก้าอี้ รองผบก. 11 เก้าอี้ ผกก.7 เก้าอี้ รองผกก.14 เก้าอี้ สว.15 เก้าอี้ บช.ภ.3 ว่าง 75 ตำแหน่ง รองผบก. 5 เก้าอี้ ผกก. 16 เก้าอี้ รองผกก.30 เก้าอี้ สว.24 เก้าอี้ บช.ภ.4 ว่าง 96 ตำแหน่ง รองผบก. 20 เก้าอี้ ผกก. 19 เก้าอี้ รองผกก.29 เก้าอี้ สว.28 เก้าอี้
บช.ภ.5ว่าง 82 ตำแหน่ง รองผบก.13 เก้าอี้ ผกก.12 เก้าอี้ รองผกก. 29 เก้าอี้ สว.28 เก้าอี้ บช.ภ.6 ว่าง 65 ตำแหน่ง รองผบก.10 เก้าอี้ ผกก.12 เก้าอี้ รองผกก.23 เก้าอี้ สว.20 เก้าอี้ บช.ภ.7 ว่าง 70 ตำแหน่ง รองผบก.19 เก้าอี้ ผกก.8 เก้าอี้ รองผกก.25 เก้าอี้ สว. 18 เก้าอี้ บช.ภ.8 ว่าง 68 ตำแหน่ง รองผบก. 14 เก้าอี้ ผกก.12 เก้าอี้ รอง ผกก. 22 เก้าอี้ สว.20 เก้าอี้ บช.ภ.9 ว่าง 28 ตำแหน่ง ผกก.8 เก้าอี้ รองผกก. 12 เก้าอี้ สว.8 เก้าอี้ ศชต.ว่าง 18 ตำแหน่ง รองผบก. 5 เก้าอี้ ผกก.6 เก้าอี้ รองผกก.5 เก้าอี้ สว.2 เก้าอี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น การแต่งตั้งระดับ รองผบก.-สว.วาระประจำปี 2559 จะเป็นไปตามห้วงเวลาที่กาปฏิทินกันไว้หรือไม่ หรืออาจต้องขยับขยายยาวไปถึงเดือนมกราคมปี 2560 ปัจจัยสำคัญคงต้องรอดูกันที่คำสั่งแต่งตั้งระดับ “นายพล”ตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)–ผู้บังคับการ(ผบก.) จะเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่
อย่างไรก็ดี ถึงห้วงเวลาการแต่งตั้งจะมีความชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ “นักวิ่งสีกากี”ยังสับสน ไม่สามารถขยับ และทำได้เพียงตั้งหลักติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด คือ“ขั้วอำนาจ”ที่มี”น้ำหนัก” ในการแต่งตั้งครั้งนี้ จะยังคงอยู่ในกำมือของขั้วอำนาจเดิมในการแต่งตั้งระดับ “นายพัน”วาระปี 2558 หรือไม่
ถึงแม้ตามกฎ ตามระเบียบ ตามอำนาจที่หัวหน้า คสช. กำหนดให้ ผบ.ตร. เป็นผู้สั่งแต่งตั้งตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมาจนกว่าการแต่งตั้งตำรวจในวาระการแต่งตั้งประจำปี 2559 จะแล้วเสร็จ แต่ในทางปฏิบัติต่างก็รับรู้กันอยู่ว่า ทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ ต้องมี”ขั้วอำนาจ”สนับสนุน ถึงจะได้ไปนั่ง ได้ไปดำรงตำแหน่ง ตามที่ต้องการ ไม่ต้องถูกเตะ ไม่ต้องถูกโยกย้าย ไปอยู่เก้าอี้ที่ไม่ปรารถนา เพราะเหล่านักวิ่งสีกากีต่างเห็นตัวอย่างในการแต่งตั้ง รองผบก.-สว.วาระประจำปี 2558 เมื่อช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา
“ตำรวจ”รายใดที่เข้าขั้วอำนาจถูกก็จะได้ไปนั่งเก้าอี้เกรดเอ ส่วนพวกที่เข้าไม่ถึงขั้วอำนาจ ก็ต้องขยับขยายโดนย้ายกันไปตามระเบียบ การเช็กขั้ว เช็กอำนาจ เลยต้องให้ชัดเจน ถ้าวิ่งผิดฝาผิดตัว มีโอกาสรับประทานแห้วสูง
ยิ่งช่วงนี้มีข่าวกระเส็นกระสาย “ขั้วอำนาจ”ที่มีน้ำหนักสนับสนุนในการแต่งตั้งอาจเปลี่ยนมือ ก็ยิ่งต้องเช็คกันจนนาที่สุดท้ายก่อนขยับเข้าลู่เข้าเลนบทสรุปการเช็ก“ขั้วอำนาจ”ของเหล่านักวิ่งครั้งนี้ ต้องจับตาไปที่คำสั่งแต่งตั้งระดับ “นายพล”ที่ผ่านการตีตราประทับจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มี”บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะจำนวน 300 กว่าตำแหน่ง หากทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ โดยเฉพาะระดับ “ผู้การฯ” บางคน บางตำแหน่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่า “ขั้วอำนาจเก่า”เอาอยู่
แต่ถ้ามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตาม “ข่าวลือ” ทิศทาง”กรมปทุมวัน”จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ อย่างแน่นอน
แม้จะผ่านพ้นห้วงระยะเวลาการแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผบก.-สว. วาระประจำปี ที่กำหนดไว้ในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2559 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 15 ก.ค.59 หมวด 1 บททั่วไป ข้อ 7 ระบุ “ให้มีการคัดเลือกหรือแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในทุกระดับตำแหน่งพร้อมกันปีละหนึ่งครั้ง เรียกว่า “วาระประจำปี”โดยการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำเนินการตามห้วงระยะเวลาของทุกปี”
ในวงเล็บ 2 ระบุ ตำแหน่งระดับสารวัตร ถึงรองผู้บังคับการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย. และ”บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ก็ไม่ได้เสนอวาระขอขยายเวลาการการแต่งตั้งระดับ “นายพัน”ตามกฎ ก.ตร.ที่กำหนด ต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)
แต่ด้วยการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. ปีนี้ ยังคงอยู่ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 21/2559 ลงวันที่ 26 เม.ย.59 เรื่องการปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำหนดให้ ผบ.ตร. เป็นผู้ใช้อำนาจสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก.ลงมา จนกว่าการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในวาระการแต่งตั้งประจำปี 2559 จะแล้วเสร็จ
ทำให้การแต่งตั้งระดับ “นายพัน”วาระ 59 ซึ่งอยู่ในช่วงวาระพิเศษ มียันต์ป้องกันตัว อาจไม่ต้องยึดตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2559 ที่เป็นกฎ ระเบียบ ในช่วงเวลาปกติทั่วไป เหมือนที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกเอาไว้ช่วงปลายเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ถึงเหตุผลยังไม่ขอขยายเวลาการแต่งตั้ง รองผบก.-สว. วาระประจำปี 2559 ออกไป เพราะไม่ได้กังวลว่าจะกระทบด้านข้อกฎหมาย เพียงแค่ให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษาให้รอบคอบเท่านั้น
โดยการแต่งตั้ง “รองผบก.-สว.”ปีนี้ มีตำแหน่งว่างแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ แทนตำแหน่งเลื่อนไหลจำนวน 1,593 ตำแหน่ง แยกเป็น รองผบก. ว่าง 218 ตำแหน่ง ผู้กำกับ(ผกก.) 377 ตำแหน่ง รองผู้กำกับ (รองผกก.) 450 ตำแหน่ง และสว. 548 ตำแหน่ง
สำหรับตำแหน่งที่น่าสนใจอย่าง บช.น. เก้าอี้ว่าง 64 ตำแหน่ง แบ่งเป็น รองผบก. 12 เก้าอี้ ผกก.6 เก้าอี้ รองผกก.32 เก้าอี้ สว. 14 เก้าอี้ บช.ก. ว่าง 28 ตำแหน่ง รองผบก.13 เก้าอี้ ผกก. 3 เก้าอี้ รองผกก. 6 เก้าอี้ สว. 6 เก้าอี้ บช.ภ.1 ว่าง 60 ตำแหน่ง รองผบก. 12 เก้าอี้ ผกก.8 เก้าอี้ รองผกก.22 เก้าอี้ สว.18 เก้าอี้ บช.ภ.2 ว่าง 47 เก้าอี้ รองผบก. 11 เก้าอี้ ผกก.7 เก้าอี้ รองผกก.14 เก้าอี้ สว.15 เก้าอี้ บช.ภ.3 ว่าง 75 ตำแหน่ง รองผบก. 5 เก้าอี้ ผกก. 16 เก้าอี้ รองผกก.30 เก้าอี้ สว.24 เก้าอี้ บช.ภ.4 ว่าง 96 ตำแหน่ง รองผบก. 20 เก้าอี้ ผกก. 19 เก้าอี้ รองผกก.29 เก้าอี้ สว.28 เก้าอี้
บช.ภ.5ว่าง 82 ตำแหน่ง รองผบก.13 เก้าอี้ ผกก.12 เก้าอี้ รองผกก. 29 เก้าอี้ สว.28 เก้าอี้ บช.ภ.6 ว่าง 65 ตำแหน่ง รองผบก.10 เก้าอี้ ผกก.12 เก้าอี้ รองผกก.23 เก้าอี้ สว.20 เก้าอี้ บช.ภ.7 ว่าง 70 ตำแหน่ง รองผบก.19 เก้าอี้ ผกก.8 เก้าอี้ รองผกก.25 เก้าอี้ สว. 18 เก้าอี้ บช.ภ.8 ว่าง 68 ตำแหน่ง รองผบก. 14 เก้าอี้ ผกก.12 เก้าอี้ รอง ผกก. 22 เก้าอี้ สว.20 เก้าอี้ บช.ภ.9 ว่าง 28 ตำแหน่ง ผกก.8 เก้าอี้ รองผกก. 12 เก้าอี้ สว.8 เก้าอี้ ศชต.ว่าง 18 ตำแหน่ง รองผบก. 5 เก้าอี้ ผกก.6 เก้าอี้ รองผกก.5 เก้าอี้ สว.2 เก้าอี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น การแต่งตั้งระดับ รองผบก.-สว.วาระประจำปี 2559 จะเป็นไปตามห้วงเวลาที่กาปฏิทินกันไว้หรือไม่ หรืออาจต้องขยับขยายยาวไปถึงเดือนมกราคมปี 2560 ปัจจัยสำคัญคงต้องรอดูกันที่คำสั่งแต่งตั้งระดับ “นายพล”ตำแหน่ง จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.)–ผู้บังคับการ(ผบก.) จะเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่
อย่างไรก็ดี ถึงห้วงเวลาการแต่งตั้งจะมีความชัดเจนขึ้นมาระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้ “นักวิ่งสีกากี”ยังสับสน ไม่สามารถขยับ และทำได้เพียงตั้งหลักติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด คือ“ขั้วอำนาจ”ที่มี”น้ำหนัก” ในการแต่งตั้งครั้งนี้ จะยังคงอยู่ในกำมือของขั้วอำนาจเดิมในการแต่งตั้งระดับ “นายพัน”วาระปี 2558 หรือไม่
ถึงแม้ตามกฎ ตามระเบียบ ตามอำนาจที่หัวหน้า คสช. กำหนดให้ ผบ.ตร. เป็นผู้สั่งแต่งตั้งตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมาจนกว่าการแต่งตั้งตำรวจในวาระการแต่งตั้งประจำปี 2559 จะแล้วเสร็จ แต่ในทางปฏิบัติต่างก็รับรู้กันอยู่ว่า ทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ ต้องมี”ขั้วอำนาจ”สนับสนุน ถึงจะได้ไปนั่ง ได้ไปดำรงตำแหน่ง ตามที่ต้องการ ไม่ต้องถูกเตะ ไม่ต้องถูกโยกย้าย ไปอยู่เก้าอี้ที่ไม่ปรารถนา เพราะเหล่านักวิ่งสีกากีต่างเห็นตัวอย่างในการแต่งตั้ง รองผบก.-สว.วาระประจำปี 2558 เมื่อช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา
“ตำรวจ”รายใดที่เข้าขั้วอำนาจถูกก็จะได้ไปนั่งเก้าอี้เกรดเอ ส่วนพวกที่เข้าไม่ถึงขั้วอำนาจ ก็ต้องขยับขยายโดนย้ายกันไปตามระเบียบ การเช็กขั้ว เช็กอำนาจ เลยต้องให้ชัดเจน ถ้าวิ่งผิดฝาผิดตัว มีโอกาสรับประทานแห้วสูง
ยิ่งช่วงนี้มีข่าวกระเส็นกระสาย “ขั้วอำนาจ”ที่มีน้ำหนักสนับสนุนในการแต่งตั้งอาจเปลี่ยนมือ ก็ยิ่งต้องเช็คกันจนนาที่สุดท้ายก่อนขยับเข้าลู่เข้าเลนบทสรุปการเช็ก“ขั้วอำนาจ”ของเหล่านักวิ่งครั้งนี้ ต้องจับตาไปที่คำสั่งแต่งตั้งระดับ “นายพล”ที่ผ่านการตีตราประทับจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) ที่มี”บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นั่งหัวโต๊ะจำนวน 300 กว่าตำแหน่ง หากทุกตำแหน่ง ทุกเก้าอี้ โดยเฉพาะระดับ “ผู้การฯ” บางคน บางตำแหน่ง ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่า “ขั้วอำนาจเก่า”เอาอยู่
แต่ถ้ามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตาม “ข่าวลือ” ทิศทาง”กรมปทุมวัน”จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ อย่างแน่นอน