คำยืนยันการันตีจากนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สวมหมวก “หัวหน้าคสช.” อีกใบ และ”พี่ใหญ่”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คุมงานด้านความมั่นคง เกี่ยวกับ”ข่าวการเปลี่ยนตัว “ผบ.ตร.”ว่า “ไม่มี” น่าจะช่วยเสริมใยเหล็กเก้าอี้ “ผู้นำกรมปทุมวัน”ของ”บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ให้แน่นปึ้กขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ใช่ช่วงนี้ที่จะกระดอนกระเด็นพ้นจากตำแหน่งตามกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัด
โดยทั้งนายกฯประยุทธ์และรองนายกฯประวิตร ต่างประสานเสียงในทำนองเดียวกันว่า “ผู้บังคับบัญชายังไม่ได้คิดอะไรเลยที่ผ่านมา ผบ.ตร.ทำงานตลอดและทำงานดีด้วย ทั้งการปฏิรูปด้านต่างๆ แล้วจะไปเปลี่ยนเขาเรื่องอะไร ผบ.ตร.ยังไม่ได้ทำอะไรผิด”
ทุกถ้อย ทุกคำ ทุกประโยค ชัดเจนและน่าจะทำให้กระแสลือเด้ง “ผบ.จักรทิพย์” พ้นจากตำแหน่งจางหายไป และทำให้เหล่าสีกากีเลิกระส่ำระสายในระดับหนึ่ง เพราะก็เหมือนอย่างที่ “บิ๊กตู่”และ”บิ๊กป้อม”บอก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังไม่ได้ทำอะไรผิด การจะปลด การจะเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. ต้องมีเหตุและผล ไม่ใช่อยู่ดีๆคิดจะเปลี่ยนก็เปลี่ยน
หากจับกระแสสัญญาณการเขย่าเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ในยุค”บิ๊กแป๊ะ” ขึ้นมาเป็น ผู้นำสีกากี ห้วงเวลาที่เกิดขึ้นจะเชื่อมโยงเกี่ยวกับการแต่งตั้ง”ตำรวจ”เกือบทุกๆครั้ง อย่างช่วงกลางเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา ก็มีกระแสข่าวลือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะช่วงนั้นการแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง สารวัตร(สว.)-รองผู้บังคับการ(รองผบก.) วาระประจำปี 2558 ถูกเลื่อนแล้วเลื่อนเลาจนเกือบครึ่งปี แถมมีการปล่อยข่าวความขัดแย้งระหว่าง “ผบ.จักรทิพย์”กับ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. กระแสข่าวลือปลด ผบ.ตร. ก็ยิ่งกระพือแรงกระหึ่ม
สุดท้ายข่าวลือก็แค่ข่าวลือ นายกฯประยุทธ์ และรองนายกฯประวิตร ก็ออกมาปฏิเสธกระข่าวลือเฉกเช่นเดียวกับครั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็ยังคงนั่งเก้าอี้ ผบ.ตร. ตามเดิม การแต่งตั้ง สว.-รองผบก. วาระรประจำปี 2558 ที่ช้าเนิ่นนาน ก็ได้รับการแก้ไขพล.อ.ประยุทธ์ ที่ใช้อำนาจ“หัวหน้าคสช.” ออกคำสั่งมาตรา 44 ให้อำนาจ ผบ.ตร. แต่งตั้งโยกย้ายได้ทั้งหมด
ครั้งนี้กระแสข่าวปลด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ก็เกิดขึ้นในช่วงการแต่งตั้งระดับ “นายพล” ตำแหน่ง รองผบ.ตร.และเทียบเท่า - ผบก. วาระประจำปี 2559 ที่ยังไม่เสร็จสิ้นกระบวนความดี และมีข่าวอาจจะมีการปรับแก้บางตำแหน่ง เพื่อให้เกิดความเหมาะสม รวมทั้งกำลังจะทำบัญชีแต่งตั้ง นายพัน” ตำแหน่ง สว.-รองผบก.วาระประจำปี 2559 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า กระแสเขย่าเก้าอี้ “ผบ.ตร.” ก็ออกมาประจวบเหมาะ เหมือนวางคิว วางฉากกันไว้
แล้วการเขย่าเก้าอี้ “ผบ.ตร.” มีประโยชน์อะไร ในเมื่อก็รู้อยู่แล้วว่าไทม์มิ่งยังไม่ใช่ เหตุใดถึงมีกระแสข่าว มีกระแสลือ ออกมาในช่วงนี้ ก็มองเป็นอื่นไม่ได้นอกจากการโยนหินถามทาง ไม่ได้หวังหัก ไม่ได้หวังโค่น “บิ๊กแป๊ะ” พ้นผู้นำกรมปทุมวัน เพียงแค่ต้องการลดโทนความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ตำแหน่ง สว.-รองผบก. วารประจำปี 2559 ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในฐานะ ผบ.ตร. ยังมีอำนาจเต็มที่ในการแต่งตั้งตำรวจทุกระดับอีกปีหนึ่ง ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ให้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว
เมื่ออำนาจทุกอย่างยังคงอยู่ในมือ “ผบ.ตร.” ไม่เปลี่ยนแปลง เหล่าสีกากีต่างๆ ก็พุ่งตรงไปที่ขั้วอำนาจเดิมๆ เหมือนปีที่ผ่านมา พอมีข่าวลือ ข่าวสะพัดในทำนองดังกล่าวออกมา ก็ทำให้”ตำรวจ” สับสน ลังเล จับทิศ จับทางไม่ถูกว่าต้อง “วิ่ง” ต้อง”ทำงาน” แบบไหน ถึงจะถูกใจผู้มีอำนาจ แรงระส่ำต่างๆก็จะส่งผลไปในทางอ้อมให้กับผู้มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงรับรู้ รับทราบว่า ภายใน”สีกากี” เกิดความวุ่นวาย พล.ต.อ.จักรทิพย์ คุมสถานการณ์ต่างๆ ไม่อยู่ ทำให้ลูกน้อง ทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเสียขวัญ แรงเหวี่ยงต่างๆก็จะหวนกลับมาพุ่งเป่าใส่ “บิ๊กแป๊ะ”
ยิ่งการหยิบยกกระพือชื่อ”บิ๊กโจ๊ก”พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล รักษาการผบก.สปพ.(191) ซึ่งมีทั้งคนสีกากีรักและมีคนสีกากีไม่ชอบหน้า ไม่ชอบบทบาทต่างๆ เข้ามาเป็นเงื่อนไขที่อาจจะต้องถูกปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ด้วยเหตุมีผู้ไม่ถูกใจ ไม่ต้องการให้มานั่งเก้าอี้ “ผบก.191” การเชื่อมโยงไปถึง “ผบ.ตร.” ในฐานะผู้มีอำนาจในการแต่งตั้ง จึงย่อมหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไปไม่ได้
การจุดประกายเชื่อมโยงโละเป็นยวง โละเป็นล็อต โละทั้งแผง โละกลุ่มก้อนที่มีอำนาจทั้งหมด และเปลี่ยนตัวขั้วอำนาจใหม่เอี่ยมมากุมบังเหียน “กรมปทุมวัน” จึงถูกจุดมาเป็นระลอก มาเป็นเกมส์ให้เกิดแรงกระเพื่อม จน”ดอกเตอร์ปิ๊ง”พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องออกมาดักคอ รู้ทันการปล่อยข่าวลือ ถึงขนาดย้ำเสียงดังฟังชัด
“แผนประทุษกรรมและวิธีกรรมเดิมๆ ที่ในอดีตใช่ช่วงเวลาอย่างนี้มาใช้ปลุกกระแส ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ส่งผลต่อขวัญกำลังใจของตำรวจ โดยในโลกปัจจุบันเป็นโลกโซเชี่ยลมีเดีย ถาหากมีการบิดเบือนข้อมูลหรือข้อมูลเป็นเท็จ เพื่อก่อให้เกิดความเสียหาย ก็มีความผิดหลายมาตรา”
ถามว่าแล้ว “ผบ.จักรทิพย์” จะแข็งโป๊ก แข็งปั๋ง อยู่บนเก้าอี้จนครบเกษียณปี 2563 เลยหรือไม่ ก็คงต้องบอกว่าไม่มีอะไรยืนยันการันตี ขนาด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังบอกเองว่า “จะให้บอกว่ามั่นใจ ก็คงไม่ได้ พูดอย่างนั้นไม่ได้”
แต่ที่บอกได้แบบที่ “บิ๊กแป๊ะ” ไม่ต้องมาบอก ไม่ต้องมาการันตี คือ ณ ชั่วโมงนี้ ผบ.ตร. ยังชื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แน่นอน