xs
xsm
sm
md
lg

หนามยอกต้องใช้หนามบ่ง

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

เรื่องฉาวสารพัดเกี่ยวโยงกับอาชญากรรมร้ายแรงและสถานภาพของผู้ต้องหาคดีอาญาสำหรับผู้นำจิตวิญญาณของสำนักธรรมกายยังยื้อได้อีกนาน ถ้าเป็นหนังชีวิตครบเครื่องทุกรสตามแบบดรามาน้ำเน่าแล้วเหมือนหนังไทยยุค 16 มม. เร่ฉายเป็นหนังกลางแปลง

ทาบชั้นผีบุญเจ้าเล่ห์หรือจอมโหดบุญเพ็ง หีบเหล็ก ซีอุย หรืออะไรทำนองนั้น! ยิ่งเห็นระบบการต่อท่อดูดเงินเข้าสำนักผ่านสหกรณ์ต้มตุ๋น โดย 18 มงกุฎด้วยแล้ว ต้องบอกว่าพฤติกรรมของอาชญากรรมทางการเงิน การหลอกลวง มีเครือข่ายกว้างขวางทั่วโลก

แต่ผีบุญเป็นยุคที่คนทั่วไปไม่มีการศึกษากว้างขวางเหมือนยุคดิจิตอลปัจจุบัน ซึ่งมีคนทันสมัยก้มหน้าสื่อสารกับผู้อื่นผ่านโทรศัพท์ในมือ ขณะที่นักบวชในคราบผีบุญยังคุมจิตครองใจผู้คนขาดที่พึ่งจนเหมือนคนเสพติดคำสอน ยอมบริจาคทรัพย์สินแทบหมดตัว

ดูแล้วน่าคิดว่าคนเราจะงมงายจนถึงขนาดเลื่อมใสเชื่อฟังผู้อื่น จนไม่ใช้สมองคิดถึงความเป็นไปได้ว่าคำสอน คำลวงต่างๆ นั้นจะทำให้ชีวิตของตนเองดีขึ้นได้อย่างไร

และผีบุญระดับนี้แหละ ยังทำให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองหัวหมุน หัวปั่น หาหนทางเอาตัวมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมนานหลายเดือน ยังมืดแปดด้าน เมื่อเผชิญกับวิธีเล่นเกมซ่อนกล มีทั้งเล่ห์เหลี่ยมสารพัด จนกระทั่งใช้ความหน้าด้านไร้ยางอายธรรมดาเพื่อหลบคดี

อันที่จริง เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปจับตัวเจ้าสำนักขาดำได้ ถ้าใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ใครขัดขวางก็จับกุมในข้อหาตามที่ระบุไว้ในกฎหมาย รวมทั้งใช้มาตรการอื่นๆ กดดันเพื่อให้เจ้าสำนักมอบตัว โดยไม่ต้องพิจารณาเงื่อนไขว่าต้องได้ประกันตัวทันที

เจ้าสำนักขาดำเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงิน รับของโจร และบุกรุกป่าพื้นที่อุทยาน และอาจมีคดีอื่นๆ ตามมาอีกเยอะ ความผิดเกี่ยวกับการเงิน ต้มตุ๋น หลอกลวง ถ้าจะขุดคุ้ยเอาเรื่องกันจริงๆ ไล่มาตั้งแต่คดีฆาตกรรม เงื่อนงำปริศนา ถ้าเรื่องยังไม่หมดอายุความ

กระพ้มได้เสนอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองใช้วิธีหนามยอกหนามบ่งแก้เผ็ดลูกเล่นเล่ห์เหลี่ยมของเจ้าสำนักขาดำ หลังจากได้พยายามเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาพิเศษ ซึ่งนิยมสวมเสื้อยืดสีเหลือง มีผ้าจีวรทับภายนอก โดยอ้างว่ายังนอนรักษาตัวสารพัดโรคร้ายอีกนาน

ในสายตาของวิญญูชนชาวพุทธแท้ เจ้าสำนักชิตังเมขาดำได้สิ้นสภาพความเป็นพระสงฆ์ตั้งแต่พระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราชชี้พฤติกรรมปาราชิกชัดแจ้ง ยังคงเหลือสาวกและพวกกอบโกยผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ จากสำนัก ที่ยังจงรักภักดีมั่นคง

เจ้าสำนักชิตังเมขาดำจึงเป็นคนธรรมดา เป็นผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมร้ายแรง จึงไม่มีอำนาจต่อรองกับเจ้าหน้าที่ในเรื่องประกันตัว ดังนั้นการต่อรองว่า “พร้อมมอบตัว ถ้าได้รับการประกันตัว” แสดงว่าผู้ต้องหารายนี้ไม่มีปัญหา “ขาดำเน่าใน” ตามคำอ้างแล้ว

ข้อเรียกร้องว่าตัวเองต้องได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม เป็นธรรมภายใต้กฎหมายนั้น น่าหัวร่อ เพราะเจ้าสำนักไม่ต้องการความยุติธรรม แต่ต้องการให้หลุดคดีต่างหาก!

เมื่อพิจารณาถึงองค์ประกอบต่างๆ สำนักลัทธิชิตังเม ไม่ใช่วัดพุทธอีกต่อไป แต่เป็นสถานที่ให้ผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมร้ายแรงซุกซ่อนตัว กบดานอยู่นานหลายเดือน ไม่ยอมรับหมายเรียก หมายค้น หมายจับ ออกโดยศาลอาญา คือไม่ยอมรับระบบอะไรทั้งสิ้น

เมื่อเห็นหมายศาลต่างๆ ไร้ความหมาย เพิกเฉยต่อคำสั่งขององค์กรปกครองสงฆ์ เท่ากับว่าเจ้าสำนักชิตังเมดำรงตัวอยู่เหนืออำนาจทั้งอาณาจักรและศาสนจักร ยิ่งกว่าเป็นรัฐอิสระ ควบคุมการเข้า-ออกของประชาชน มีกฎ ระเบียบต่างจากวัดพุทธโดยทั่วไป

ดังนั้น สำนักชิตังเมจึงไม่ใช่วัด เพราะวัดต้องเปิดให้ศาสนิกชนเข้า-ออกได้ ทั้งยังกำหนดระบบป้องกันรักษาความปลอดภัยเข้มแข็งแน่นหนา ก่อสร้างกำแพงสูง มีป้อมระวังภัยซับซ้อนเหมือนเป็นสถานที่ซุกตัวกบดานของอาชญากร นักค้ายาเสพติด ผู้ก่อการร้าย

สาวกนุ่งห่มชุดขาวชุมนุมในสำนักจึงไม่มีสถานภาพของนักปฏิบัติธรรม แต่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้า-ออกสำนัก ยอมทำตัวเป็นเหมือนโล่มนุษย์ ปกป้องผู้ต้องหาในคดีอาชญากรรมร้ายแรง ทั้งยังมีพฤติกรรมไม่ยอมรับกฎหมายกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน

การเจรจายืดเยื้อมีเงื่อนไขต่างๆ สาวกแกนนำแถลงข่าว ชี้แจง ตอบคำถามโดยท่าทางยียวนเล่นลิ้น ด้วยสำนวนโวหาร แสดงให้เห็นการท้าทายกระบวนการยุติธรรม ยื้อเวลาออกไปเรื่อยๆ ไม่มีเจตนาที่จะยอมมอบตัวเพื่อพิสูจน์ว่ามิได้เป็นไปตามข้อกล่าวหา

เจ้าหน้าที่ได้เตรียมหมายค้น และมาตรการอื่น และกำลังเจ้าหน้าที่หลายกองร้อยเพื่อปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจับกุมผู้หลบหนีคดีอาญา รวมทั้งได้แจ้งความเอาผิดรักษาการเจ้าอาวาสในข้อหายอมให้ผู้ต้องหาซุกซ่อนตัวในสำนัก แต่ก็ยังมีปัญหาอื่นๆ อีก

ดังนั้นเจ้าหน้าที่ควรพิจารณามาตรการอื่นๆ เพื่อให้บรรลุผล ดังนี้

เมื่อสำนักชิตังเมมีระบบตรวจการเข้า-ออกของบุคคลอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจเข้มมากกว่าที่เป็นอยู่ โดยตั้งจุดตรวจ ตั้งด่าน จุดสกัด บนเส้นทางทุกจุด 24 ชั่วโมงตรวจบัตรประชาชน สอบประวัติคนเข้า-ออก ทุกราย เพื่อรักษาความปลอดภัย

ตำรวจยังยอมให้บุคคล หรือกลุ่มชนสาวกนุ่งห่มชุดขาว กลุ่มโกนผมห่มผ้าเหลืองเข้า-ออกได้ตามปกติ แต่ต้องให้ปากคำถึงความจำเป็นต้องเข้า-ออกสำนักชิตังเมด้วย ถ้าเกิดความล่าช้าในการสอบประวัติ ถือเป็นเหตุจำเป็น เพราะมีจำนวนคนเข้า-ออกมาก

เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเสบียงอาหารเพื่อเลี้ยงดูโล่มนุษย์หรือผู้ช่วยเหลือคุ้มครองอาชญากร ว่ามีสารปนเปื้อนพิษอะไรหรือไม่ ต้องนำไปตรวจให้แน่ชัดว่าปลอดภัย

ภารกิจครั้งนี้สำคัญ จะเป็นก้าวแรกของการขุดรากถอนโคนลัทธิชิตังเมมอมเมาจิตคน เพื่อปรับเปลี่ยนสำนักให้เป็นวัดตามสภาพถูกต้องตามหลักการแห่งพุทธศาสนาต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น