ประธานาธิบดี"ปูติน" ส่งสารถวายความยินดี เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงขึ้นครองราชย์ โดยระบุว่าพระองค์ทรงเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ที่คู่ควรแห่งราชวงศ์จักรี และยังแสดงความหวังว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานระหว่างไทยกับรัสเซีย จะได้รับการพัฒนาสืบไป "ม.ล.ปนัดดา" เปิดงาน "๙ ตามพ่อ สานต่อพระราชปณิธาน" ยกพระราชจริยวัตรงดงามในหลวง ร.9 ทรงทุ่มเทพระวรกายทรงงานหนักเพื่อคนไทย ขอทุกคนนำพาประเทศสู่ความสุขถวายพระองค์ และดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 10 ตลอดไป ขณะที่พระสงฆ์กว่า 1,000 รูป จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร ที่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม “ป๋าเปรม” เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ในโอกาสที่ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรี
สำนักงานฝ่ายสื่อสารมวลชนแห่งพระราชวังเครมลิน ในกรุงมอสโก ได้เผยแพร่เนื้อหาบางตอนในสารถวายความยินดีดังกล่าว เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.59 ที่ผ่านมา ตามเวลาในรัสเซีย ทั้งนี้ เนื่องในวโรกาสที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จขึ้นครองราชย์ 1 ธ.ค. 59 ที่ผ่านมา
"ข้าพเจ้าใคร่ครวญเห็นว่า พระองค์ทรงเป็นพระผู้สืบสันตติวงศ์ที่คู่ควรแห่งราชวงศ์จักรี ที่ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับไทย ที่ได้รับการสถาปนาเมื่อเกือบ 120 ปีก่อน" ("We consider you to be the worthy successor of the Chakri dynasty, under which the diplomatic relations between Russia and Thailand were established almost 120 years ago.) นายวลาดิมีร์ ปูติน ระบุในสารที่ส่งถวายความยินดี ไปทางโทรเลขจากกรุงมอสโก
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีรัสเซีย ยังแสดงความหวังว่าภายใต้พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่นี้ ความสัมพันธ์ทวิภาคี จะได้รับการผลักดันครั้งใหม่ เพื่อพัฒนาต่อไป
** "๙ ตามพ่อสานต่อพระราชปณิธาน"
เมื่อ เวลา 14.30 น. วานนี้(4ธ.ค.) ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน " ๙ ตามพ่อ สานต่อพระราชปณิธาน" พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ"สานต่อพระราชปณิธานให้มีความยั่งยืน" ตอนหนึ่งว่า ในช่วงที่ตนยังเป็นเด็ก ได้จดจำภาพที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เสด็จพระราชดำเนินไปที่สยามเซ็นเตอร์ และได้ยินเสียงประชาชนพูดกันว่า สมเด็จย่า ซึ่งด้วยความที่ตนยังเด็ก จึงไม่ทราบว่าการกล่าวพระนามว่าสมเด็จย่านั้น มาจากอะไร ตนเห็นสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงหยุดทักทายประชาชนตลอดเส้นทางโดยไม่ถือพระองค์ เป็นภาพที่สุดแสนงดงามและไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งที่ตนมีอายุมากขึ้น เมื่อครั้งได้มีโอกาสติดตามครอบครัวไปทำหน้าที่ข้าราชการที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ บิดาของตนมีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสรับใช้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต และมีรับสั่งว่าอยู่กันเช่นใดก็ขอให้อยู่กันเช่นนั้น รับประทานอาหารเช่นใดก็ขอให้รับประทานอาหารเช่นนั้น ไม่ต้องปฏิบัติอะไรพิเศษเพื่อพระองค์ ซึ่งทั้งหมดทำให้ตนไม่มีข้อสงสัยแต่ประการใดว่า ทำไมพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงทรงมีความงดงามด้วยพระราชจริยวัตรถึงเพียงนี้ เพราะพระองค์ทรงมีต้นแบบที่งดงาม และตราตรึงในหัวใจของประชาชนมาจนถึงปัจจุบัน
ม.ล.ปนัดดา กล่าวต่อว่า ตลอด 70 ปี แห่งการครองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพระองค์ทรงอุทิศทุ่มเทพระวรกาย ทรงงานอย่างหนัก ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานับประการ เพื่อแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทรงมีความนอบน้อมถ่อมพระองค์ ซึ่งปฏิบัติให้เราได้เห็นเป็นแบบอย่าง ให้ประเทศชาติเกิดความเป็นปึกแผ่น ไม่เคยตรัสแม้แต่ครั้งเดียวว่าจะให้ประชาชนไปหวงแหน ไปดูแลรักษาพิทักษ์ปกป้องท่าน มีแต่จะทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า ขอให้ประชาชนมีความรักต่อกัน สามัคคีต่อกัน ซึ่งเป็นที่มาของคำสอนพระราชทานว่า รู้รักสามัคคี และเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งเราทุกคนในวันนี้ ต้องน้อมนำไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ตนอยากให้ทุกคนได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาตามรอยพระองค์ที่มีอยู่ทั่วประเทศ เพื่อศึกษาถึงความสำเร็จที่พระองค์ทรงนำพาประเทศสู่ความยั่งยืนมาจนปัจจุบัน และจะเป็นความทรงจำที่งดงามที่ชาวไทย จะจดจำถึงพระกรุณาธิคุณที่พระองค์ได้พระราชทานไว้ตลอดแผ่นดินในหลวงรัชกาลที่ 9 และเราต้องร่วมกันนำพาความร่มเย็นเป็นสุขสู่ประเทศชาติบ้านเมือง และเป็นแรงบันดาลใจกับประชาชนชาวไทยทุกคนตลอดไป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ และดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ร่มพระบารมีของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ตลอดไป
**ถวายสักการะพระบรมศพล้นหลาม
วานนี้ (4 ธ.ค.) เป็นวันที่ 35 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศ สวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยเดินทางมาต่อแถวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ ตั้งแต่เวลา 05.00 น.
เวลา 07.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมด้วยคุณสิริกิติยา เจนเซ่น ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยถวายภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม รวม 8 รูป จากวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ที่สวดพระอภิธรรม มาตั้งแต่ค่ำวันที่ 3 ธ.ค.
ขณะที่เต็นท์อาหารพระราชทานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้องสนามหลวงฝั่งทิศเหนือ เยื้องกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ โดยรวมอยู่ภายในศูนย์อาหารบริการประชาชน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน ที่มาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
**ทูลกระหม่อมหญิงโพสต์ภาพประทับใจ
เวลา 13.40 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี โพสต์พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงฉายพระรูปร่วมกับพระเชษฐภคินี และพระขนิษฐาทั้งสองพระองค์ เบื้องหน้าพระบรมโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช สมเด็จพระบรมราชชนก ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อค่ำวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในแอพพิเคชั่น “อินสตาแกรม”ส่วนพระองค์ พร้อมข้อความว่า nichax #ภาพหาดูยาก # เพิ่งได้ถ่ายแบบนี้ # Dec32016
เวลา 15.00 น. ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จมาบำเพ็ญพระกุศลสดัปกรณ์พระพิธีธรรมจากวัดอนงคารามวรวิหารและวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร สวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
**สวดพระพุทธมนต์ถวายที่วัดพระแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.00 น. ที่อุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง มหาเถรสมาคมร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร ครบ 50 วัน ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพระเถรานุเถระชั้นผู้ใหญ่ คณะสงฆ์หนกลาง ที่มาปฏิบัติธรรรม ที่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ส่วนหนึ่งเป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่ได้รับทุนเล่าเรียนหลวงจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และคณะสงฆ์ในเขตกกทม.รวมกว่า1,000 รูป เข้าร่วม
สำหรับบรรยากาศโดยรอบพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม คลาคล่ำไปด้วยเหล่าพสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศ ที่เดินทางมาร่วมในพิธีอย่างเนืองแน่น ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้นำหนังสือบทสวดพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล จำนวน 2,000 เล่ม พร้อมภาพพระบรมฉายาลักษณ์อีก 2,000 แผ่น มาแจกจ่ายด้วย
ขณะที่หน้าพระอุโบสถ มีการอัญเชิญภาพพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขนาดใหญ่มาประดิษฐานไว้ เพื่อให้ราษฏรที่มาร่วมในพิธี ได้ส่งจิตอธิษฐานถึงองค์พระผู้เสด็จสู่สรวงสรรคาลัย ร่วมกันทั้งมณฑลพิธีวัพระแก้ว
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายก กล่าวว่า หลังจากนี้การสวดพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระราชกุศล จะมีขึ้นทุกวันที่ 5 ของเดือน ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และทุกวัดพร้อมกันทั่วประเทศ เว้นในเดือนธ.ค.จะสวดพร้อมกันในวันที่ 4 ธ.ค.
**ปรับแผนรับปชช.เข้าสนามหลวง 5 ธ.ค.
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) กล่าวว่าจากประเมินการปฏิบัติงานของศตส. ที่ผ่านมาในการอำนวยความสะดวกประชาชน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และพบว่ายอดประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มีแนวโน้มจะเพิ่มมากขึ้นอีก โดยสัปดาห์ที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 4.5 หมื่นคนต่อวัน สำหรับในวันที่ 5 ธ.ค.นี้ คิดว่าประชาชนจะมาสนามหลวง และลานคนเมือง เพิ่มมากขึ้น การจราจรจึงต้องปรับตามสภาพประชาชน ยานพาหนะ ในส่วนนี้จะดูแลปรับแผนการปฏิบัติโดยตำรวจให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ขณะเดียวกันได้รับรายงานจากทีมแพทย์ได้มีการซ้อมแผนเผชิญเหตุ ปรับจุดบริการ 20 จุด พื้นที่โซนเหนือ-ใต้ ซึ่ง ศตส. ฝากเรื่องสำคัญให้ช่วยดูเพิ่มเติมคือการดูแลผู้สูงอายุ เพราะขณะนี้มีผู้สูงอายุเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผู้มีปัญหาทางด้านร่างกาย จึงกำชับทีมแพทย์ให้ช่วยดู อีกเรื่องหนึ่งที่หารือคือ มีองค์กรหรือประชาชนบางกลุ่มจะมาจัดกิจกรรมแสดงความอาลัย ถวายความสักการะ กองอำนวยร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.)จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อมากลั่นกรองดูแลความเหมาะสมของกิจกรรม และเพื่อประสานงานกับสำนักพระราชวัง
**”ป๋าเปรม”เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ
เมื่อเวลา 17.30 น. วานนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เข้าเฝ้าฯ กราบพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ในโอกาสที่ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม แต่งตั้งเป็นประธานองคมนตรี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต