“บอล กฤษณะ” แฟนดาราสาว “อุ้ม ลักขณา” ควงแม่-ลูกสาว เข้ามอบตัวตามหมายจับคดีรุมทำร้ายลูกนายพลจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ลูกน้องทยอยตามจนครบทั้ง 4 คนแล้ว เผยให้ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมจะช่วยทำให้ตัวเองรอดพ้นจากความผิดได้ ด้านตัวแทนโรงแรมดัง "The Core" ตัดหางปล่อยวัด “บอล” เป็นแค่คนรับจ้างบริหาร ไม่ใช่เจ้าของ พร้อมยกเลิกสัญญาจ้างแล้ว เครือข่ายเยาวชนฯ จี้เอาผิดหลายรอบ แต่รอด สะท้อนสมประโยชน์คนมีสี "บิ๊กป้อม" ยันไม่มีทหารคุกคาม กำชับให้ความเป็นธรรมทุกฝ่่าย
วานนี้ (30 พ.ย.) ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายจับนายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือบอล แฟนหนุ่มของดารา “อุ้ม-ลักขณา” พร้อมพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นายฐานันดร หมั่นแสวง อายุ 23 ปี นายอดิศักดิ์ เพ็งเหล็ง อายุ 20 ปี และนายอภิวัฒน์ ณ ลำพูน อายุ 23 ปี ในคดีรุมทำร้ายนายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือเจมส์บอนด์ อายุ 23 ปี ลูกชายของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผบ.มทบ.38 จ.น่าน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกแจงว่าหากนายกฤษณะไม่รีบมามอบตัวจะดำเนินการจับกุมต่อไป
ต่อมาเวลาประมาณ 16.10 น. ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายกฤษณะ อมิตรสูญ พร้อมนางสาวิกา ณ ตะกั่วทุ่ง มารดา และ “น้องการ์ตูน” ลูกสาว รวมทั้งนายสันต์ กาวิชัย ทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับพันตำรวจเอกอดุลย์ สมนึก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก
นายกฤษณะ กล่าวก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อมอบตัว ว่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมจะช่วยทำให้ตัวเองรอดพ้นจากความผิดได้ รวมทั้งย้ำด้วยว่าตัวเองไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย หากตัวเองกระทำผิดจริงก็พร้อมที่จะยอมรับทุกอย่าง แต่ไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
นายสันต์ กาวิชัย ทนายความของ “บอล กฤษณะ” เปิดเผยว่า “บอล” เข้ามอบตัวครั้งนี้เพื่อสอบปากคำและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เบื้องต้นยังขอปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับคดี ทั้งนี้จะมีการยื่นขอประกันตัวด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. ทนายความได้พานายฐานันดร หมั่นแสวง อายุ 23 ปี นายอดิศักดิ์ เพ็งเหล็ง อายุ 20 ปี ลูกน้องนายบอล เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช้างเผือกแล้วเช่นกัน
ล่าสุดเวลาประมาณ 17.00 น. นายอภิวัฒน์ ณ ลำพูน อายุ 23 ปี ลูกน้องของ “บอล” ได้เข้ามอบตัวเป็นคนสุดท้ายจนครบทั้ง 4 คนตามที่ตำรวจออกหมายจับในคดีนี้แล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และคาดว่าทนายความน่าจะทำเรื่องขอยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน
*** รร.ดังยัน "บอล"แค่ลูกจ้าง
ส่วนที่โรงแรม The Core ที่ระบุว่า "บอล กฤษณะ" เป็นเจ้าของนั้น นางสาวภาณุมาส อุดมขันติกุล เป็นตัวแทนของนางพีรยา คุวานันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ เดอะ เชียงใหม่ คอมเพล็กซ์ ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เกิดคดีความที่มีการซ้อมลูกนายพล ในสถานบันเทิงชื่อมาลิน พลาซ่า ภายในโครงการฯ โดยได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้มีการยกเลิกสัญญากับ“บอล กฤษณะ อมิตรสูญ” ที่ถูกเชื่อมโยงกับคดีทำร้ายร่างกายลูกชายนายพลจนได้รับบาดเจ็บสาหั
ที่ผ่านมา “บอล” มีการอ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่เป็นผู้บริหารโครงการฯ แต่ข้อเท็จจริงจากเจ้าของโครงการคือ เป็นลักษณะของการร่วมกันบริหาร โดย “บอล” ไม่ได้มีหุ้นส่วนหรือเป็นเจ้าของโครงการนี้ เป็นเพียงทีมผู้บริหารงานที่ดูแลในภาพรวมของโครงการ โดยเข้ามาด้วยเหตุผลทางธุรกิจที่เจ้าของโครงการมองว่า เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ชักชวนมาร่วมบริหารโรงแรม และโครงการ
ส่วนเรื่องรายได้หรือส่วนแบ่งเป็นข้อตกลงกันระหว่างเจ้าของกับ “บอล” ทั้งนี้ได้มีการยกเลิกสัญญาทุกอย่างกับ “บอล” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจสีเทาอย่างที่ถูกพาดพิง และไม่ได้มีส่วนในธุรกิจสีเทาของ “บอล” อย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้เจ้าของยังอยู่ต่างประเทศหากเดินทางกลับมาก็จะพร้อมชี้แจงกับสื่ออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่โรงแรม ถูกปิดเนื่องจากตรวจสอบไม่พบใบอนุญาต โครงการแจ้งว่ากำลังอยู่ในช่วงของใบอนุญาต แต่ก็ยอมรับว่าเปิดให้บริการก่อนจริง จากนี้จะปิดบริการไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจึงจะกลับมาเปิดให้บริการ
*** เยาวชนแฉเอาผิดผับดัง “มาลิน สกาย”
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า ในปี 2558 มีการดำเนินคดีกับสถานบันเทิงแห่งนี้มาแล้วถึงสองครั้ง อีกทั้งมีข่าวนายตำรวจยศนายพันเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในสถานบันเทิงแห่งนี้ ซึ่งเครือข่ายเยาวชนฯได้ติดตาม และผลักดันมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษามานานกว่า 8 ปี รวมถึงกรณีนี้ด้วย จึงเห็นว่า นี่เป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งของปัญหาในร้านเหล้าผับบาร์รอบสถานศึกษา แม้มีมาตรการโซนนิงตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เพื่อให้แต่ละจังหวัดกำหนดเขตโซนนิงรอบสถานศึกษามิให้มีร้านใหม่เกิดขึ้น และป้องกันมิให้ร้านที่มีอยู่เดิมทำผิดกฎหมาย
“จากกรณีนี้สะท้อนชัดเจนว่า กลุ่มอิทธิพล กลุ่มผลประโยชน์ที่อยู่ในรูปสถานบันเทิงร้านเหล้ารอบสถานศึกษามีอยู่จริง ภายใต้การจัดสรรผลประโยชน์ที่ลงตัว ระหว่างนายทุน กับผู้ที่มีส่วนในการบังคับใช้กฎหมาย จึงไม่แปลกที่การเข้มงวดตรวจจับกับบรรดาผู้ประกอบการเหล่านี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นระบบอุปถัมภ์ฝังรากลึก สมประโยชน์ การทำผิดกฎหมาย จึงเกิดขึ้นชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน คำสั่ง คสช. นี้ จึงไม่อยู่ในสายตาของผู้ประกอบการ” นายธีรภัทร์ กล่าว
*** "ประวิตร" ยันทหารไม่คุกคามผู้ต้องหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลใน จ.เชียงใหม่ หลังจากเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ บุตรชาย พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 (ผบ.มทบ.38)ในร้านอาหารชื่อดัง จ.เชียงใหม่ว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อเนื่อง โดยมี พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผบ.มทบ.33 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีนายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือ บอล แฟนหนุ่มดาราสาว อุ้ม ลักขณา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งการทำร้ายนายอิศราชนุวัฒภ์ ระบุว่า ไม่ได้รับความปลอดภัย และมีคนมาข่มขู่นั้น ตนอยากถามว่าเป็นใคร หากรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ทำเรื่องไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อส่งคนมาดูแล แต่อยากถามว่าตัวนายกฤษณะไปทำอะไรมา จนต้องขอกำลังตำรวจมาคุ้มกัน และนายกฤษณะ ทำผิดเรื่องใด อีกทั้งที่กล่าวว่าถูกคุมคามนั้นเป็นใคร
เมื่อถามว่า แต่คู่กรณีเป็นทหารอาจทำให้นายกฤษณะ เกิดความหวาดกลัวได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นคู่กรณีกับทหาร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นลูกทหารเป็นฝ่ายถูกซ้อม ส่วนที่เกรงว่าจะมีฝ่ายทหารไปเอาคืนนั้น ตนยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเรื่องนี้ตนได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แล้วว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึง ผบ.มทบ.33 ต้องดูแลเรื่องนี้ด้วย
"ความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลมีความคืบหน้ามาก โดยยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมาก ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นใคร แต่คนเราก็เป็นญาติกันได้หมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำมาตลอด และผู้มีอิทธิพลทั้งหลายก็กลัวเจ้าหน้าที่ทั้งนั้น ถ้าที่ จ.เชียงใหม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ผมก็สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งหมด เช่นการเปิดโรงแรมถ้าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามนั้น รวมถึงทุกพื้นที่ทุกจังหวัด หากมีสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ไม่มีข้อยกเว้น" พล.อ.ประวิตร กล่าว
วานนี้ (30 พ.ย.) ศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้อนุมัติหมายจับนายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือบอล แฟนหนุ่มของดารา “อุ้ม-ลักขณา” พร้อมพวกอีก 3 คน ประกอบด้วย นายฐานันดร หมั่นแสวง อายุ 23 ปี นายอดิศักดิ์ เพ็งเหล็ง อายุ 20 ปี และนายอภิวัฒน์ ณ ลำพูน อายุ 23 ปี ในคดีรุมทำร้ายนายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ หรือเจมส์บอนด์ อายุ 23 ปี ลูกชายของ พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผบ.มทบ.38 จ.น่าน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือกแจงว่าหากนายกฤษณะไม่รีบมามอบตัวจะดำเนินการจับกุมต่อไป
ต่อมาเวลาประมาณ 16.10 น. ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายกฤษณะ อมิตรสูญ พร้อมนางสาวิกา ณ ตะกั่วทุ่ง มารดา และ “น้องการ์ตูน” ลูกสาว รวมทั้งนายสันต์ กาวิชัย ทนายความ เดินทางเข้ามอบตัวกับพันตำรวจเอกอดุลย์ สมนึก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก
นายกฤษณะ กล่าวก่อนเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อมอบตัว ว่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมให้การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมจะช่วยทำให้ตัวเองรอดพ้นจากความผิดได้ รวมทั้งย้ำด้วยว่าตัวเองไม่ได้อยู่เหนือกฎหมาย หากตัวเองกระทำผิดจริงก็พร้อมที่จะยอมรับทุกอย่าง แต่ไม่ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด
นายสันต์ กาวิชัย ทนายความของ “บอล กฤษณะ” เปิดเผยว่า “บอล” เข้ามอบตัวครั้งนี้เพื่อสอบปากคำและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่เบื้องต้นยังขอปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับคดี ทั้งนี้จะมีการยื่นขอประกันตัวด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเวลาประมาณ 13.45 น. ทนายความได้พานายฐานันดร หมั่นแสวง อายุ 23 ปี นายอดิศักดิ์ เพ็งเหล็ง อายุ 20 ปี ลูกน้องนายบอล เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ช้างเผือกแล้วเช่นกัน
ล่าสุดเวลาประมาณ 17.00 น. นายอภิวัฒน์ ณ ลำพูน อายุ 23 ปี ลูกน้องของ “บอล” ได้เข้ามอบตัวเป็นคนสุดท้ายจนครบทั้ง 4 คนตามที่ตำรวจออกหมายจับในคดีนี้แล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และคาดว่าทนายความน่าจะทำเรื่องขอยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด ส่วนจะได้รับการประกันตัวหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพนักงานสอบสวน
*** รร.ดังยัน "บอล"แค่ลูกจ้าง
ส่วนที่โรงแรม The Core ที่ระบุว่า "บอล กฤษณะ" เป็นเจ้าของนั้น นางสาวภาณุมาส อุดมขันติกุล เป็นตัวแทนของนางพีรยา คุวานันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ทั้งหมดของโครงการ เดอะ เชียงใหม่ คอมเพล็กซ์ ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ก่อนหน้านี้เกิดคดีความที่มีการซ้อมลูกนายพล ในสถานบันเทิงชื่อมาลิน พลาซ่า ภายในโครงการฯ โดยได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ได้มีการยกเลิกสัญญากับ“บอล กฤษณะ อมิตรสูญ” ที่ถูกเชื่อมโยงกับคดีทำร้ายร่างกายลูกชายนายพลจนได้รับบาดเจ็บสาหั
ที่ผ่านมา “บอล” มีการอ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่เป็นผู้บริหารโครงการฯ แต่ข้อเท็จจริงจากเจ้าของโครงการคือ เป็นลักษณะของการร่วมกันบริหาร โดย “บอล” ไม่ได้มีหุ้นส่วนหรือเป็นเจ้าของโครงการนี้ เป็นเพียงทีมผู้บริหารงานที่ดูแลในภาพรวมของโครงการ โดยเข้ามาด้วยเหตุผลทางธุรกิจที่เจ้าของโครงการมองว่า เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารอสังหาริมทรัพย์ จึงได้ชักชวนมาร่วมบริหารโรงแรม และโครงการ
ส่วนเรื่องรายได้หรือส่วนแบ่งเป็นข้อตกลงกันระหว่างเจ้าของกับ “บอล” ทั้งนี้ได้มีการยกเลิกสัญญาทุกอย่างกับ “บอล” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พร้อมทั้งยืนยันว่า ไม่ได้มีการประกอบธุรกิจสีเทาอย่างที่ถูกพาดพิง และไม่ได้มีส่วนในธุรกิจสีเทาของ “บอล” อย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้เจ้าของยังอยู่ต่างประเทศหากเดินทางกลับมาก็จะพร้อมชี้แจงกับสื่ออีกครั้งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่โรงแรม ถูกปิดเนื่องจากตรวจสอบไม่พบใบอนุญาต โครงการแจ้งว่ากำลังอยู่ในช่วงของใบอนุญาต แต่ก็ยอมรับว่าเปิดให้บริการก่อนจริง จากนี้จะปิดบริการไปจนกว่าจะได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องจึงจะกลับมาเปิดให้บริการ
*** เยาวชนแฉเอาผิดผับดัง “มาลิน สกาย”
นายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง กล่าวว่า ในปี 2558 มีการดำเนินคดีกับสถานบันเทิงแห่งนี้มาแล้วถึงสองครั้ง อีกทั้งมีข่าวนายตำรวจยศนายพันเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในสถานบันเทิงแห่งนี้ ซึ่งเครือข่ายเยาวชนฯได้ติดตาม และผลักดันมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษามานานกว่า 8 ปี รวมถึงกรณีนี้ด้วย จึงเห็นว่า นี่เป็นเพียงปรากฏการณ์หนึ่งของปัญหาในร้านเหล้าผับบาร์รอบสถานศึกษา แม้มีมาตรการโซนนิงตามคำสั่ง คสช. ที่ 22/2558 เพื่อให้แต่ละจังหวัดกำหนดเขตโซนนิงรอบสถานศึกษามิให้มีร้านใหม่เกิดขึ้น และป้องกันมิให้ร้านที่มีอยู่เดิมทำผิดกฎหมาย
“จากกรณีนี้สะท้อนชัดเจนว่า กลุ่มอิทธิพล กลุ่มผลประโยชน์ที่อยู่ในรูปสถานบันเทิงร้านเหล้ารอบสถานศึกษามีอยู่จริง ภายใต้การจัดสรรผลประโยชน์ที่ลงตัว ระหว่างนายทุน กับผู้ที่มีส่วนในการบังคับใช้กฎหมาย จึงไม่แปลกที่การเข้มงวดตรวจจับกับบรรดาผู้ประกอบการเหล่านี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย เนื่องจากเป็นระบบอุปถัมภ์ฝังรากลึก สมประโยชน์ การทำผิดกฎหมาย จึงเกิดขึ้นชนิดเย้ยฟ้าท้าดิน คำสั่ง คสช. นี้ จึงไม่อยู่ในสายตาของผู้ประกอบการ” นายธีรภัทร์ กล่าว
*** "ประวิตร" ยันทหารไม่คุกคามผู้ต้องหา
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลใน จ.เชียงใหม่ หลังจากเกิดเหตุทำร้ายร่างกาย นายอิศราชนุวัฒภ์ วรรคาวิสันต์ บุตรชาย พล.ต.วิทยา วรรคาวิสันต์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 (ผบ.มทบ.38)ในร้านอาหารชื่อดัง จ.เชียงใหม่ว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลต่อเนื่อง โดยมี พล.ต.เกษมสุข ตาคำ ผบ.มทบ.33 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีนายกฤษณะ อมิตรสูญ หรือ บอล แฟนหนุ่มดาราสาว อุ้ม ลักขณา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งการทำร้ายนายอิศราชนุวัฒภ์ ระบุว่า ไม่ได้รับความปลอดภัย และมีคนมาข่มขู่นั้น ตนอยากถามว่าเป็นใคร หากรู้สึกไม่ปลอดภัยก็ทำเรื่องไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อส่งคนมาดูแล แต่อยากถามว่าตัวนายกฤษณะไปทำอะไรมา จนต้องขอกำลังตำรวจมาคุ้มกัน และนายกฤษณะ ทำผิดเรื่องใด อีกทั้งที่กล่าวว่าถูกคุมคามนั้นเป็นใคร
เมื่อถามว่า แต่คู่กรณีเป็นทหารอาจทำให้นายกฤษณะ เกิดความหวาดกลัวได้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นคู่กรณีกับทหาร แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นลูกทหารเป็นฝ่ายถูกซ้อม ส่วนที่เกรงว่าจะมีฝ่ายทหารไปเอาคืนนั้น ตนยืนยันว่าทหารไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเรื่องนี้ตนได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 แล้วว่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึง ผบ.มทบ.33 ต้องดูแลเรื่องนี้ด้วย
"ความคืบหน้าการปราบปรามผู้มีอิทธิพลมีความคืบหน้ามาก โดยยึดอาวุธปืนได้เป็นจำนวนมาก ส่วนจะเชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ ผมไม่ทราบว่าใครเป็นใคร แต่คนเราก็เป็นญาติกันได้หมด เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำมาตลอด และผู้มีอิทธิพลทั้งหลายก็กลัวเจ้าหน้าที่ทั้งนั้น ถ้าที่ จ.เชียงใหม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย ผมก็สั่งการให้ดำเนินคดีทั้งหมด เช่นการเปิดโรงแรมถ้าผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามนั้น รวมถึงทุกพื้นที่ทุกจังหวัด หากมีสิ่งใดไม่ถูกต้องก็ไม่มีข้อยกเว้น" พล.อ.ประวิตร กล่าว